บทย่อ
เธอเป็นเพียงหญิงสาวที่มีอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่หลังจากที่บิดาของเธอจากไป เธอก็ถูกแม่เลี้ยงนำมาขายให้กับเจ้าหนี้ที่ไร้หัวใจ ชีวิตของเธอเป็นได้เพียงนางบำเรอของเขาเท่านั้น ไม่ได้มีค่าอะไร "เมฆา" เขาคือผู้ชายคนหนึ่งที่มีอายุล่วงเลยมาถึง 32 ปีแล้ว เขามีผู้หญิงมากมายอยู่ข้างกาย เขาไม่อยากมีพันธะผูกพันใด ๆ ทั้งสิ้น "อริสรา" เธอเป็นเพียงหญิงสาวที่มีอายุเพียง 17 ปี เธอยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ ก็ถูกแม่เลี้ยงนำมาขายเพื่อใช้หนี้หลักล้าน เธอต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น เมื่อชายที่เธอตกหลุมรักก็ยังไม่ต้องการเธอ เขาเห็นเธอเป็นเพียงสินค้าชิ้นหนึ่ง เป็นเหมือนของเล่นที่เล่นเบื่อแล้วก็จะขว้างทิ้งไป เธอตัดสินใจจากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อมารดาของชายหนุ่มที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของลูกเธอ ต้องการให้เธอออกไปจากชีวิตของลูกชายเธอ เธอทำอะไรไม่ได้ เพราะตอนนี้เธอไม่มีอะไรไปต่อรองและสู้แม่ของเขาได้ เมื่อใดที่เธอพร้อมแล้ว เธอจะกลับมาทวงทุกอย่างของเธอคืน เขาเหมือนโดนไม้มาฟาดเข้าที่ใบหน้าอีกครั้ง เมื่อเธอกลับมาพร้อมลูกชายที่โตแล้ว และบอกว่าต้องการทุก ๆ อย่างของเธอคืน เธอจะทำเพื่อลูกชายของเธอ แม้แต่ผู้หญิงคนไหนที่จะเข้ามาในชีวิตของเขา เธอก็จะกำจัดมันไปให้หมด
บทนำ
ในค่ำคืนที่เหน็บหนาว เด็กสาวผู้อาภัพยังต้องทำงานหาเงินเพื่อใช้จ่ายในครอบครัว ถึงแม้ว่าเธอจะหาเงินได้มากแค่ไหนก็ตาม เธอก็ไม่เคยได้ใช้มัน เพราะแม่เลี้ยงของเธอจะยึดไปหมด เพื่อเอาไปเล่นการพนัน จะเหลือไว้ให้เธอก็เพียงไม่กี่ร้อยบาท เพื่อเอาไว้ซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารไว้ขายในวันถัดไปเท่านั้น
“แกงเขียวหวานสองถุงใช่มั้ยคะป้ามล” หญิงสาวเอ่ยถาม
“ใช่จ่ะ แล้วก็เอาแกงไก่อีกหนึ่งถุงนะจ๊ะกระแต”
“ได้ค่ะป้ามล รอแปบหนึ่งนะคะ”
หญิงสาวนามว่าอริสราหรือกระแต เธอมักจะทำกับข้าวมาขายทุกเย็นหลังเลิกเรียน อาหารของเธอนั้นทั้งอร่อยและราคาถูก จึงทำให้มีลูกค้าประจำมาซื้ออยู่ทุกวัน พวกเขาเหล่านั้นคิดว่า ไม่จำเป็นต้องไปนั่งลงมือทำเอง มาซื้อกับข้าวที่ร้านของเธอดีที่สุด ราคาแค่ยี่สิบบาท แถมยังอร่อยอีกด้วย
อริสราขายกับข้าวจนถึงสามทุ่มของทุกวัน บางวันก็หมดตั้งแต่สองทุ่มก็มี เธอจึงมีเวลาได้กลับไปทบทวนหนังสือเรียนอยู่บ้าง
ชีวิตของเธอช่างอาภัพจริง ๆ แม่ของเธอเสียไปตั้งแต่เธออายุได้ 10 ปี หลังจากนั้นพ่อของเธอก็มีภรรยาใหม่ และเมื่อปีที่ผ่านมานี้ พ่อของเธอก็จากไปอีกด้วยอุบัติเหตุ จึงทำให้เธอหมดสิ้นทุกอย่าง แม้แต่ความสุขของเธอ เมื่อเธอต้องอยู่กับแม่เลี้ยงที่คอยแต่จะหาเรื่อง และทุบตีเธออยู่ทุกวัน
“นี่ค่ะป้ามล 60 บาทค่ะ”
“นี่ก็ใกล้หมดแล้ว วันนี้คงได้กลับบ้านเร็วนะกระแต อากาศหนาวแบบนี้ ขายหมดเร็วก็จะได้รีบกลับบ้านไปเร็วหน่อย”
“ค่ะป้ามล เดี๋ยวหนูก็จะตักใส่ถุงไว้แหละค่ะ คงเหลืออีกแค่ 3-4 ถุงมั้งคะ” อริสราตอบ พร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“งั้นป้ากลับล่ะนะ โชคดีล่ะ”
“ขอบคุณค่ะป้ามล”
ทางด้านของเมฆาที่พึ่งเลิกงาน เขากำลังจะขับรถกลับบ้าน แต่แม่ของเขากลับโทรมาบอกว่าให้แวะซื้ออาหารกลับบ้านด้วย เพราะรู้สึกหิว อาหารเย็นที่กินเข้าไปไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ จึงต้องโทรสั่งให้ลูกชายแวะตลาดเพื่อซื้ออาหารกลับบ้านด้วย
ตอนนี้เป็นเวลา 1 ทุ่ม ชายหนุ่มแวะที่ตลาดเพื่อซื้ออาหารกลับไปให้ผู้เป็นแม่ แต่เวลานี้ร้านค้าอื่น ๆ ก็เก็บของเตรียมกลับบ้านกันหมดแล้ว ร้านขายกับข้าวเลยไม่เหลือเลย เพราะอากาศที่หนาว กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเลยปิดร้านกันเร็ว
เมาฆาหรือเมฆมองเห็นเพียงรถเข็นที่มีกับข้าวของอริสราวางอยู่ 2-3 ถุง เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อเอาทั้งหมด
“สวัสดีค่ะ เอาอะไรดีค่ะ กับข้าวเหลือแค่นี้แล้วค่ะ มีแกงไก่ แกงเขียวหวาน และก็แกงพะโล้ค่ะ”
เมฆามองหน้าที่จิ้มลิ้มของเด็กสาวตรงหน้าที่ทำตัวสั่นเพราะอากาศหนาว แต่ก็ยังคงมาขายกับข้าวเพื่อหาเงินอยู่ เขามองว่าเธอยังดูเด็กอยู่ ดูเหมือนอายุประมาณ 15 ปี แล้วทำไมถึงได้มาขายอาหารอยู่คนเดียว
รอบข้างเริ่มไม่เหลือร้านค้าแล้ว เหลือเพียงเธอที่เป็นผู้หญิงอยู่บริเวรนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น เขาก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน ว่าพ่อกับแม่ของเธอทำไมถึงไม่มาด้วย ปล่อยให้เด็กผู้หญิงอยู่ทำงานหาเงินกลางค่ำกลางคืนแบบนี้คนเดียวได้ยังไง
“ไม่กลัวเหรอ อยู่คนเดียวแบบนี้ ร้านอื่นเขาเก็บของกลับบ้านกันหมดแล้ว” เขาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“เอ่อ ก็กลัวอยู่ค่ะ แต่คนแถวนี้หนูรู้จักทั้งหมดเลยค่ะ คงไม่มีอะไรมั้งคะ” เธอตอบด้วยท่าทีรังเล “แล้วนี่คุณจะเอาอะไรคะ”
“เอาทั้งหมดนี่แหละ”
“ค่ะ ทั้งหมด 3 ถุง 60 บาทค่ะ แต่หนูคิดเพียง 50 บาทค่ะ” เธอเอาแกงทั้งสามถุงใส่ในถุงหิ้วแล้วยื่นส่งให้เขาด้วยรอยยิ้ม เพราะจะได้กลับบ้านแล้ว
“ไม่เป็นไร ของซื้อของขาย ไม่ต้องลดราคาให้ฉันหรอก” เขาเอ่ยแล้วส่งเงินใบร้อยให้เธอ “แล้วนี่หนูมาขายคนเดียวทุกวันเหรอ พ่อกับแม่ของหนูล่ะ”
“หนูมาขายกับข้าวที่นี่คนเดียวค่ะ พ่อกับแม่หนูเสียไปแล้ว ตอนนี้หนูอยู่บ้านกับแม่เลี้ยงค่ะ” เธอตอบพลางก็หยิบเงินถอนให้เขา “นี่ค่ะเงินถอน 40 บาท”
“ไม่เป็นไร หนูเก็บไว้เถอะ ถือว่าเป็นทิปก็แล้วกัน เพราะฉันหาร้านกับข้าวตั้งนาน แต่ก็ปิดหมดแล้ว โชคดีที่ยังเหลือร้านของหนูอยู่ ไม่ต้องถอนหรอกนะ” ว่าแล้วก็เดินหันหลังจากไปเลย
“ขอบคุณนะคะ เอาไว้วันหลังหากคุณมาซื้ออีก หนูจะแถมให้นะคะ” หญิงสาวตะโกนบอกตามหลัง