ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ
สายชล...
สองวันต่อมาฉันก็ได้รับข่าวดีจากพี่โรสว่าพี่เค้ารับฉันเข้าทำงานที่ผับแล้วใจนึงฉันดีใจมากที่หางานทำเพิ่มได้เพราะนั่นเท่ากับว่าฉันจะสามารถหาเงินไปเป็นค่ารักษายายได้แต่อีกใจนึงก็ยังกังวลเพราะฉันอาจจะต้องเจอกับไฟเพราะเขาเป็นเจ้าของผับแห่งนั้นมันเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะไม่เจอเขา สรุปแล้วก็คือตอนนี้ฉันทำงานสองที่ทั้งร้านอาหารกับผับของไฟถามว่าฉันจะไม่เหนื่อยเหรอที่ทำงานถึงสองที่มันต้องเหนื่อยอยู่แล้วเพราะไหนจะต้องเรียนอีกแต่ดีหน่อยที่ช่วงนี้ปิดเทอมทำให้ฉันไม่เหนื่อยมากแต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องอดทนเพื่อยายที่ฉันรักยิ่งกว่าชีวิตต่อให้ต้องทำมากกว่านี้หนักกว่านี้ฉันก็ทำได้
ตอนนี้ฉันมายืนอยู่ตรงหน้าผับของไฟความรู้สึกของฉันมันต่างจากวันแรกที่ฉันเดินเข้ามาสมัครงานเพราะวันนั้นฉันไม่รู้ว่าเขาคือเจ้าของผับหรูแห่งนี้และวันนี้เป็นวันแรกที่ฉันต้องเข้าไปทำงานอยากจะบอกว่าตอนนี้ข้างในใจฉันมันสั่นแปลกๆ มันกังวลจนบอกไม่ถูกแต่ฉันก็หวังว่าการทำงานของฉันมันจะไม่มีปัญหาอะไรฉันหวังว่าไฟคงไม่ผูกใจเจ็บฉันที่เคยทำเขาเสียใจ ฉันก้าวขาเข้ามาในผับที่ตอนนี้มีพนักงานหลายคนหลายตำแหน่งกำลังทำงานในส่วนของตัวเองอยู่เพราะผับยังไม่เปิดให้บริการฉันยิ้มให้กับทุกคนอย่างเป็นมิตรมีบางคนยิ้มตอบฉันกลับมาส่วนบางคนก็ทำเมินเฉยอาจเป็นเพราะยังไม่มีใครรู้จักฉันก็ได้ฉันมองขึ้นไปยังชั้นสามที่ฉันรู้จากพี่โรสว่าเป็นชั้นวีไอพีส่วนตัวของไฟคนที่จะขึ้นไปได้ต้องเป็นคนสนิทมากๆ เท่านั้นและต้องเป็นเขาเท่านั้นที่อนุญาต ตอนนี้ฉันยังไม่เจอไฟถามว่าตื่นเต้นไหมมันตื่นเต้นมากเพราะไม่รู้ว่าฉันจะเจอกับเขาไหมส่วนหน้าที่ของฉันอยู่ในครัวคอยช่วยพ่อครัวทำอาหารแต่พี่โรสบอกว่าถ้าแผนกไหนขาดคนฉันต้องออกมาช่วย
"สวัสดีค่ะพี่"
"นี่น่ะเหรอเด็กใหม่ที่คุณโรสบอกจะมาเริ่มงานวันนี้"
"ค่ะฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะหนูชื่อชลนะคะ"
"อื้ม ว่าแต่ตัวเล็กแบบนี้จะทำไหวเร้องานในครัวมันหนักมากเลยนะ"
"ไหวค่ะสบายมาก^^"
"โอเคไหวก็ไหวแต่ถ้าทำไม่ไหวก็ให้บอกห้ามฝืนทำเข้าใจหรือเปล่า"
"ค่ะพี่^^" และงานฉันก็เริ่มขึ้น วันนี้ฉันทำงานมือเป็นระวิงเพราะลูกค้าสั่งอาหารกันเยอะมากจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้วฉันถามพี่เจษซึ่งเป็นพ่อครัวของที่นี่ว่าลูกค้าที่นี่เยอะแบบนี้ทุกวันเลยหรือเปล่าพี่เขาก็บอกว่าเยอะแบบนี้ทุกวันไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดาหรือวันหยุดและลูกค้าส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นผู้หญิงซะมากกว่าเพราะแต่ละคนก็อยากมาเจอเจ้าของผับกันทั้งนั้น พอฉันได้ฟังก็แค่พยักหน้ารับรู้ซึ่งมันก็จริงเพราะตอนที่ฉันนำอาหารออกมาช่วยเสิร์ฟฉันเห็นลูกค้าเป็นผู้หญิงแทบจะทั้งนั้นแต่ละคนแต่งตัวกันมาจัดเต็มมากก่อนที่ฉันจะกลับเข้าไปในครัวฉันก็ได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้หญิงที่นั่งอยุู่ต่างพากันลุกฮืออกไปจากโต๊ะของตัวเองมันทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองตามว่าลุกไปไหนกันและคำตอบก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเมื่อฉันเห็นไฟกำลังเดินเข้าในผับด้วยบุคลิคนิ่งเรียบไม่ยิ้มไม่ทักไม่พูดจาหรือมองหน้าใคร เขาช่างต่างจากไฟคนเดิมเหลือเกินถ้าบอกว่าเป็นคนละคนฉันก็เชื่อนะ
"อุ๊ยวันนี้โชคดีจังเลยแกมาเจอไฟ"
"หล่ออย่างที่แกบอกจริงๆ เลยอ่ะ"
"หล่อขนาดนี้มีแฟนแล้วรึเปล่าไม่รู้"
"ยังไม่มีจ๊ะแฟนเป็นตัวเป็นตนน่ะแต่ถ้าแบบควงไว้แก้เหงาอ่ะบอกเลยว่าเยอะมากกกกกก็ไก่ล้านตัว"
"ทำไมแกรู้อ่ะ"
"เพื่อนฉันเรียนมหาลัยเดียวกันกับไฟทำไมจะไม่รู้"
"ก็อย่างว่าอะเนอะทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนั้นมีสิทธิ์เลือกได้อยู่แล้ว"
"เออแต่ฉันเคยได้ยินมานะว่าตอนปีหนึ่งไฟเคยจีบผู้หญิงคนนึงแต่โดนปฏิเสธมันเลยทำให้เขาเปลี่ยนไปกลายเป็นผู้ชายเจ้าชู้คบใครไม่เลือกไม่จริงจังกับใคร"
"เหรอแกผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันอยากเห็นหน้าอยากรู้ว่าจะสวยสูงส่งขนาดไหนถึงกล้าปฏิเสธผู้ชายที่พร้อมทุกอย่างแบบไฟ"
"ก็คงจะเป็นผู้หญิงไม่มีสมองแล้วก็โง่อ่ะแก"
"แต่ฉันก็ว่าดีแล้วแล่ะเพราะไม่งั้นเราคงไม่ได้มานั่งตาละห้อยคอยอ่อยไฟอยู่แบบนี้หรอกที่ไม่รู้ว่าเขาจะชายตามองเราหรือเปล่า"
ฉันไม่ได้อยากตั้งใจฟังนะแต่หูมันดันไปได้ยินเอง ที่ผู้หญิงพวกนี้พูดมันก็จริงนะเรื่องที่ปฏิเสธการขอเป็นแฟนกับเขาแต่ใครจะรู้ว่าสาเหตุที่ทำให้ต้องปฏิเสธเขามันเป็นเพราะอะไร พอฉันกลับเข้ามาในครัวพี่เจษก็บอกให้ฉันนำอาหารขึ้นไปเสิร์ฟให้ไฟเป็นการด่วน
"เร็วๆ เลยนะชลถ้าไปช้าอาจจะโดนไล่ออกได้เลยนะเร็วเข้า"
"ไล่ออก"
"อื้มใช่คุณไฟไม่ชอบคนที่ทำอะไรชักช้ายิ่งถ้าคุณไฟสั่งอาหารในครัวเราต้องรีบทำแล้วขึ้นไปเสิร์ฟทันทีภายในเวลาครึ่งชั่วโมงเพราะไม่งั้นโดนกันทั้งแผนก" ฉันเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนใจร้อนเพราะเมื่อก่อนตอนที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันเขาไม่ได้เป็นคนแบบนี้เขาจะใจเย็นมากอย่างตอนนั้นที่ฉันจำได้เราไปนั่งรอกินก๋วยเตี๋ยวไก่กันเพราะฉันอยากกินมากแต่คนก็เยอะมากเช่นกันฉันก็กลัวเขาจะรอนานเลยชวนไปกินร้านอื่นแต่ไฟบอกไม่เป็นไรเขารอได้และวันนั้นเราก็นั่งรอกินก๋วยเตี๋ยวไก่เกือบสองชั่วโมงโดยที่ไฟไม่ปริปากบ่นเลยสักคำแลัวทำไมตอนนี้เขาถึงกลายมาเป็นคนใจร้อนแบบนี้ได้ล่ะ
ฉันยกถาดอาหารขึ้นไปเสิร์ฟให้ไฟด้านบนเพราะในครัวมีแค่ฉันกับพี่เจษแค่สองคนเท่านั้นจะให้พี่เจษมาเสิร์ฟเองก็คงไม่ได้เพราะเขาต้องรอทำอาหารตามออเดอร์ลูกค้า
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"เอาอาหารมาเสิร์ฟค่ะ" ฉันเคาะประตูสามทีก่อนจะตะโกนเข้าไปสักพักเสียงของใครคนนึงก็ดังขึ้นมาแต่เธอจำได้ว่ามันไม่ใช่เสียงของเขา
"เข้ามา!!! " เสียงผู้หญิง?? หรือเขาจะอยู่กับผู้หญิงในห้องแล้วภาพในวันนั้นที่ห้องน้ำก็ฉายชัดเข้ามาในหัวถ้าเกิดตอนนี้เขากำลังทำเรื่องอย่างว่ากับผู้หญิงอยู่ล่ะแต่ฉันก็ไม่มีเวลามาคิดเรื่องนั้นตอนนี้ฉันควรจะต้องรีบเอาอาหารไปเสิร์ฟและพอฉันเปิดประตูเข้าไปฉันก็เจอผู้หญิงสาวสวยคนนึงซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมที่ฉันเจอในห้องน้ำเมื่อหลายวันก่อนเธอคนนี้ดูสวยและดูดีมากเธอกำลังนั่งอยู่บนตักของไฟพอฉันเปิดประตูเข้าไปทั้งสองคนก็หันมามองฉันทันที
"เอ่อ..ขอโทษค่ะคือดิฉันเอาอาหารขึ้นมาเสิร์ฟค่ะ" ฉันพูดพร้อมกับก้มหน้ามองต่ำลงพื้น
"เข้ามาแล้วก็เอามาวางที่โต๊ะสิจะยืนถือไว้ทำไมเร็วเข้าฉันกับไฟหิวกันจนจะตาลายอยู่แล้ว" เสียงออกคำสั่งของผู้หญิงที่บนตักของไฟทำให้ฉันรีบยกถาดอาหารหนักเกือบสิบโลนำไปวางบนโต๊ะตรงหน้าของคนทั้งคู่
"ยังหิวอยู่อีกเหรอ หื้มม ฉันนึกว่าเธออิ่ม...น้ำของฉันแล้วซะอีก" ฉันไม่รู้ว่าไฟจงใจพูดให้ฉันได้ยินหรือเปล่าแต่ตอนเวลาที่เขาพูดสายตาเขามองมาที่ฉัน
"ไฟพูดอะไรอ่ะอายพนักงานมั่งสิ"
"จะอายทำไมก็แค่พนักงานระดับล่างถ้าไม่อยากฟังก็ลาออกไปซะไม่เห็นจะยาก"
"เอ่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้วดิฉันขอตัวไปทำงานข้างล่างต่อนะคะ"
"ก็ไปสิใครใช้ให้เสนอหน้ามาอยู่ตรงนี้" คำพูดของไฟทำให้ฉันสะอึกอยู่ไม่น้อยแต่ฉันก็ทำแค่พยักหน้าก่อนจะเดินถือถาดเปล่าออกไป
"ค่ะขอโทษค่ะ"