ตอนที่ 1 ผู้หญิงแสนเชยที่ไม่ถูกชะตา (2)
“งั้นเดี๋ยวผมกับไทนี่ขอเข้าไปดูคนเจ็บแป๊บหนึ่งนะ แล้วเราค่อยคุยกัน” ไม่ใช่แค่ธนภูมิเท่านั้นที่สังเกตเห็นความผิดปกติของสองแม่ลูก หากแต่นายนิธิภัทรก็เห็นและรู้สึกได้จากสีหน้าและแววตา โดยเฉพาะกับคู่ชีวิตที่อยู่กันมานานหลายสิบปี
นางประณาลีพยักหน้ารับพลางยิ้มบาง ๆ และเมื่อลูกชายกับสามีหายเข้าไปในห้องพักคนป่วย นางจึงหันมายิ้มให้กับลูกเลี้ยงที่ดูเหมือนจะมีสีหน้ากังวลหนักขึ้นกว่าเดิม และนางก็รู้ว่าเพราะอะไร
“กลัวคุณพ่อจะโกรธนีน่าเหรอจ๊ะ แม่ว่าไม่ต้องห่วงหรอกนะ คุณพ่อเขาเป็นคนมีเหตุผล” นางพูดปลอบ
“แต่คราวนี้คุณพ่ออาจจะโกรธเอามาก ๆ จนไม่คำนึงถึงเหตุผลก็ได้นะคะ คุณแม่ก็รู้ว่าเวลาคุณพ่อโกรธน่ะ น่ากลัวขนาดไหน” ไม่พูดเปล่าหญิงสาวยังทำท่าขยาด เห็นหน้าตาใจดีอย่างนั้นน่ะนะ แต่คุณพ่อของเธอเวลาโกรธละก็น่ากลัวอย่าบอกใคร แม้นาน ๆ จะเห็นโกรธทีก็เถอะ แถมวิธีลงโทษก็สุดแสนจะโบร้าณโบราณ…
ไม้เรียว ใช่ คุณพ่อของเธอจะลงโทษด้วยการหวดด้วยไม้เรียวประจำตำแหน่ง และหวดโดยไม่เลือกด้วยว่าตอนนี้ลูก ๆ นั้นโตกันหมดแล้ว ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คนที่โดนหวดก้นในวัยยี่สิบเจ็ดปีก็คือธนภูมิ น้องชายจอมเจ้าชู้ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็รถไฟเกิดมาชนกันที่บ้านโดยไม่ได้นัดหมาย ก็เลยเกิดศึกชิงนาย แต่เรื่องแค่นั้นก็คงไม่โดนลงโทษหรอกนะ หากว่ามันไม่ทำให้คุณแม่สุดรักสุดสวาทขาดใจดิ้นของคุณพ่อโดนลูกหลงจนได้เลือดแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
“แม่ว่าไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหนเลย” นางบอกเสียงกลั้วหัวเราะ นั่นทำให้ลูกเลี้ยงคนสวยค้อนคุณแม่ตาคว่ำ ก็จะน่ากลัวได้ยังไงละ คุณพ่อน่ะกล้าหือกับคุณแม่เสียที่ไหน
“ถือว่าโชคดีมาก ๆ เลยนะที่ได้แผลมาแค่นั้น” นายนิธิภัทรเปรยลอย ๆ เมื่อเดินออกมาจากห้องพักคนเจ็บ “ว่าแต่คุณชิตกับคุณนีไปไหนครับเนี่ย” เขาถามภรรยาที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ ลูกสาวที่นั่งหน้าตูมอย่างสงสัย
“ทั้งสองคนกลับบ้านไปเอาเสื้อผ้าและเตรียมของมานอนเฝ้าคุณรามน่ะค่ะ”
คนเป็นสามีพยักหน้ารับรู้ แล้วหันไปมองลูกชายที่ทำท่าหันซ้ายหันขวาชะโงกหน้าชะโงกหลังคล้ายกับกำลังหาอะไรสักอย่างอยู่ เลยอดที่จะถามไม่ได้ แต่ดูเหมือนจะช้ากว่าลูกสาว
“หาอะไรไทนี่”
“เจ้นีน่าครับ เจ้แกไปไหนครับพี่ คู่หมั้นนอนเจ็บทำไมไม่มาดูแล แต่คิดไปคิดมา ถ้าขืนให้เจ้แกมาดูแล มีหวังคนเจ็บได้เจ็บหนักกว่าเดิม มือหนักอย่างกับช้างสาร ไม่ไหว ไม่ไหว” ธนภูมิพูดล้อพี่สาวอีกคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี้อย่างสนุกปาก ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องตลกขบขันเหมือนทุกครั้ง ทว่าคราวนี้กลับเงียบไร้ซึ่งการตอบรับ ซ้ำหน้าตาแต่ละคนก็เริ่มเคร่งเครียดหนักขึ้นกว่าเดิม
“เรื่องนีน่า ไทนี่กับคุณพ่อถามคุณแม่แล้วกันนะคะ รีน่าขอตัวเอากระเช้าไปเก็บและขอเข้าไปอยู่ในห้องเป็นเพื่อนคุณรามจนกว่าคุณอาทั้งสองจะกลับมา และถ้าสงสัยอะไร ไว้เรากลับไปคุยกันที่บ้านนะคะ” พูดจบร่างเพรียวระหงก็ลุกขึ้นหิ้วกระเช้าที่คนเป็นพ่อซื้อมาเยี่ยมรามิลเดินเลี่ยงออกไปแบบนิ่ง ๆ คนเป็นพ่อเอี้ยวตัวมองตามลูกสาวเล็กน้อย ก่อนลุกขึ้นเปลี่ยนที่นั่งจากตรงข้ามไปเป็นข้าง ๆ ร่างบอบบางไม่เปลี่ยนแปลงของภรรยา ขณะที่ธนภูมิอ้าปากหวอมองตามหลังพี่สาวตาปริบ ๆ แล้วหันขวับมาถามคนเป็นแม่อย่างสงสัย
“พี่รีน่าเขาเป็นอะไรครับแม่ ดูไม่สดใสตั้งแต่ผมกับคุณพ่อมาถึงแล้ว”
“มีเรื่องนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรหรอก พี่เขาทำใจยอมรับมันแล้ว และตอนนี้ก็คงจะเริ่มทำตัวให้ชินกับหน้าที่ใหม่ ที่ได้รับมอบหมายจาก…นีน่า”
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ธนภูมิต้องยกเลิกนัดกับสาว ๆ แต่เขาไม่ได้มัวมานั่งเซ็งกับเรื่องไร้สาระพวกนี้หรอก เพราะตอนนี้เขามีเรื่องที่ให้คิดมากกว่านั้น ทั้งเรื่องที่พี่สาวฝาแฝดคนหนึ่งหนีเที่ยว แถมทิ้งภาระการดูแลคู่หมั้นให้กับพี่สาวฝาแฝดอีกคน แหม...มันช่างบันเทิงเสียงจริง ๆ ในขณะที่นั่งคิดอะไรเพลิน ๆ หางตาก็เห็นว่าพี่สาวลงมาจาห้องแล้ว แต่เมื่อหันไปมองเต็มตาเขาถึงกับอุทาน