ตอนที่ 5 นางได้กลับมาแล้ว
ลี่หรูนั้นถือว่าเป็นสตรีที่มากความสามารถผู้หนึ่ง เพราะนางได้ใช้ความรู้จากในภพเก่าและเรียนรู้จากในภพปัจจุบันเข้าด้วยกัน ภพเก่าของนางนั้น นางเป็นผู้มีความสามารถทางด้านการแพทย์และการใช้พิษทุกชนิด ดังนั้นในภพใหม่ของนางนี้ นางจึงเรียนรู้เรื่องการใช้วรยุทธ์ทุกแขนง โดยผู้ที่เป็นอาจารย์สอนสิ่งเหล่านี้ให้กับนางคือ อาจารย์ผู้ที่สอนที่ใหญ่ของนางนั่นเอง นางมีอาจารย์ที่มากความสามารถผู้นี้ เป็นผู้อบรมสั่งสอนนางมาตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยว่าท่านอาจารย์ติดหนี้บุญคุณของบิดาของนาง เขาจึงอาสาสอนวิชา ความรู้ที่เขามีให้กับบุตรทั้งสองจนหมดเปลือก จนทำให้ลี่หรูกลายเป็นสตรีที่มากความสามารถ แต่สำหรับวิชาที่สตรีควรเรียนรู้นั้นนางก็สามารถทำมันได้ดีเช่นเดียว กัน แต่มีน้อยคนนักที่รู้ว่านางมีความสามารถพวกนี้
หลังจากที่ท่านแม่ทัพใหญ่เหลียนซูฉี เดินทางกลับมาจากค่ายทหารในตอนกลางดึก เขาก็ได้พบกับสตรีนางหนึ่ง ที่นั่งอยู่บริเวณหน้าจวนจะกูลเหลียนอย่างเหม่อลอย สภาพเหมือนไม่รู้สติของสตรีผู้นั้น ทำให้เขาแปลกใจยิ่งนัก ว่านางเป็นผู้ใดกัน ถึงได้มานั่งอยู่หน้าจวนของเขากลางดึกเช่นนี้
แต่เมื่อได้จ้องมองใบหน้านั้นชัดๆ ก็ทำให้เขาถึงกับตกใจ จนรีบถลาลงไปจากหลังม้า
"ลี่เอ๋อร์เหตุใดเจ้าถึงได้มีสภาพเช่นนี้กัน มีผู้ใดมันกล้าทำร้ายเจ้าเช่นนั้นหรือ ให้รีบบอกพี่มาเดี๋ยวนี้"
เมื่อเขาเห็นว่านางไม่มีทีท่าว่าจะตอบคำถามใดๆของตนเลยแม้แต่น้อย เขาจึงรีบอุ้มนางขึ้นมาไว้แนบอก และพาเข้าไปยังจวนอย่างรีบเร่ง
"ใครก็ได้ไปตามหมอมาเร็ว"
เมื่อบ่าวไพร่ที่อยู่บริเวณโดยรอบ ได้เห็นว่าผู้เป็นนายกำลังมีทีท่าร้อนอกร้อนใจมากเพียงใด พวกเขาจึงได้กุลีกุจอ รีบไปทำตามคำสั่งนั้นอย่างรวดเร็ว และมีส่วนหนึ่ง ได้ไปรายงานท่านเสนาบดีเหลียนให้รับทราบ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆคุณหนูลี่หรู ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนทั้งตระกูล ถึงได้มีสภาพเช่นนั้นกัน
เมื่อท่านเสนาบดีเหลียนและฮูหยินได้รับรายงานจากบ่าวรับใช้ เช่นนั้น ก็ให้รีบเร่งออกมาจากในห้องของตนเอง และตรงไปยังห้องของบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนในทันที
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นซูฉีเหตุใดน้องถึงได้มีสภาพเช่นนั้น"
"ลูกก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่ได้กลับมาจากค่ายทหาร ก็ได้พบนางนั่งอยู่ที่หน้าจวนด้วยสภาพเช่นนี้แล้ว"
"นี่พวกเจ้าไปตามหมอมาหรือยังเหตุใดหมอถึงได้มาช้านัก"
สตรีที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพวกเขา ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ทำให้บุรุษทั้งสองคน รู้สึกปวดใจยิ่งนัก ยิ่งผู้เป็นมารดาของนางด้วยแล้ว เมื่อมาเห็นสภาพบุตรสาวเหม่อลอยคล้ายคนเสียสติเช่นนี้ ยิ่งทำให้ผู้เป็นมารดาเก็บกักน้ำตาเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป นางร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ เพราะไม่รู้ว่าเกิดเหตุอันใดกับบุตรสาวของนางเช่นนี้
บุตรสาวผู้ร่าเริงแจ่มใสไม่เคยหวาดกลัวสิ่งใดของนาง และไม่เคยทำสิ่งใดให้นางต้องรู้สึกทุกข์ใจ เหตุใดถึงได้มีสภาพเช่นนี้กัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
แต่ก่อนที่ท่านหมอจะเดินทางมาถึง ลี่หรูก็ได้รับรู้ถึงเสียงดังเอะอะโวยวาย เสียงของสตรีที่นางฟังแล้วคุ้นหู กำลังร้องไห้ปริ่มจะขาดใจเช่นนั้น จึงทำให้นางหลุดออกมาจากในภวังค์ของตนเอง
เมื่อได้สติกลับมา ลี่หรูก็ได้พบว่า นางมาอยู่ในห้องของตนเองแล้ว และในตอนนี้ ผู้คนที่รักนางพวกนี้ กำลังเศร้าเสียใจ เพราะนางอยู่ จึงทำให้นางฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่านางไม่ควรที่จะไปเสียใจกับบุรุษที่ไม่ได้รักนางผู้นั้น ถึงแม้นว่าบุรุษผู้นั้นจะไม่ได้รักนาง แต่ดูเอาเถิดผู้คนเหล่านี้เล่า ที่กำลังรายล้อมนางอยู่ในตอนนี้ กำลังเสียใจแทบจะขาดใจ เมื่อเห็นสภาพของนางเป็นเช่นนี้ นั่นจึงทำให้นางคิดได้ในทันที
"ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่ ทำให้พวกท่านต้องเป็นห่วงแล้ว"
เมื่อพวกเขาได้เห็นว่านางมีสติกลับมาแล้ว ก็ให้รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ฮูหยินเหลียนรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดบุตรสาวของตนเองอย่างเป็นห่วง
"มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ้า ลี่เอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงได้มีสภาพเช่นนี้ได้ แล้วองครักษ์เงาที่ชินอ๋องส่งมา ดูแลเจ้าเล่า หายหัวไปที่ใด เหตุใดจึงปล่อยให้เจ้ามีสภาพเช่นนี้ พวกเขาไม่กลัวว่าชินอ๋องจะสั่งลงโทษเช่นนั้นหรือ"
"อย่าได้กล่าวถึงบุรุษผู้นั้นอีกเลยพี่ใหญ่ หลังจากนี้ไปความสัมพันธ์ของข้ากับบุรุษผู้นั้นถือว่า จบสิ้นกันแล้ว"
"ห๊า!" ทุกคนได้แต่ร้องออกมาอย่างตกใจ ด้วยไม่คาดคิดว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนางทั้งหมดนั้นจะเกี่ยวข้องกับชินอ๋อง ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่ารักนางสุดหัวใจผู้นั้น
"ข้าอยากอยู่คนเดียวพวกท่านวางใจเถิด ข้าแค่เพียงอยากคิดอะไรคนเดียวสักพัก ตอนนี้ข้าคิดได้แล้ว แค่เพียงต้องใช้เวลา แล้วทุกอย่างมันจะดีขึ้นเอง"
ใช่แล้วนางคอยบอกตัวเองว่าทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้น นางต้อง การเวลาเพียงเท่านั้น
สำหรับท่านแม่ทัพใหญ่เหลียนซูฉีในตอนนี้ หลังจากได้ทราบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว เขาก็รีบตรงดิ่งไปที่ตำหนักชินอ๋องเหวินเฟยหลงในทันที เขาจะต้องไปถามความจากสหายสูงศักดิ์ผู้นั้นให้รู้ให้จงได้ ว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น เหตุใดเรื่องราวถึงได้เป็นเช่นนี้ สหายของตนผู้นี้ ได้เคยให้สัญญาไว้กับตนแล้ว ว่าจะไม่ทำให้น้องสาวคนเดียวของเขาเจ็บปวด ด้วยคำสัญญาของบุรุษอย่างชินอ๋องที่ได้ให้ไว้เช่นนั้น เขาจึงวางใจยกน้องสาวเพียงคนเดียวที่เป็นเหมือนดั่งดวงใจของเขา ให้สหายรักได้ดูแล
"นี่มันเกิดเรื่องอันใดกันขึ้น เจ้าจงรีบอธิบายมาเสียเดี๋ยวนี้" ในตอนนี้สภาพของสหายสูงศักดิ์ของเขา ก็มีสภาพไม่ต่างกันกับน้องสาวของเขาเลยแม้แต่น้อย สภาพที่เหมือนคนมิรู้สติ
บุรุษทั้งสองคนนั้นเป็นสหายสนิทกันมาเนิ่นนาน จึงทำให้พวกเขาไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์ในการเรียกขาน เมื่ออยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดพวกเจ้าทั้งสองคนถึงได้มีสภาพไม่ต่างกันเช่นนี้เล่า"
"ซูเอ๋อร์กลับมาแล้ว"
"เจ้าว่าอันใดนะ ผู้ใดกลับมากัน"
เมื่อท่านแม่ทัพใหญ่เหลียนซูฉีเห็นว่าสหายของตน ไม่ตอบคำถามใดๆของเขาอีกเลย เขาก็ให้รู้สึกขัดเคืองใจยิ่งนัก จึงได้ทบทวนถึงคำกล่าวเมื่อสักครู่นี้อีกครั้ง
"เจ้าจะบอกว่า เซียวซูหนี่ว์ กลับมาเช่นนั้นหรือ แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ใดกัน"
"นางนอนอยู่ในห้องในตำหนัก หลังจากได้เกิดเรื่องราวนี้ขึ้น นางก็หมดสติไป และยังไม่ฟื้นขึ้นมา"