บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 หมดโอกาสแล้วเช่นนั้นหรือ

หลังจากที่ได้เห็นลี่หรูกำลังจะจากไป  ในหัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาเช่นกัน เขารีบปล่อยมือของเซียวซูหนี่ว์ออกอย่างรวดเร็ว ขาของเขามันก้าวออกไปเองอย่างที่เขาก็ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ   ในขณะกำลังจะตามลี่หรูออกไป  ทันใดเซียวซูหนี่ว์ก็เป็นลมล้มพับไป จนถึงตอนนี้นางก็ยังมิรู้สติ  กอปรกับร่างกายที่ไม่แข็งแรงเดิมของนาง   เมื่อมีเรื่องสะเทือนใจเช่นนี้  จึงทำให้นางหมดสติไป

        จิตใจที่ว้าวุ่นด้วยห่วงสตรีทั้งสองนาง  ที่เป็นดั่งดวงใจของเขาทำให้ชินอ๋อง ถึงกับไม่สามารถทำอะไรได้  ในขณะที่เห็นลี่หรูกำลังจะจากไป  ทำให้เขารู้ว่านางมีความสำคัญกับเขามากเพียงใด  แต่เขาก็ไม่สามารถทิ้ง  เซียวซูหนี่ว์ที่กำลังนอนไม่ได้สติอยู่เช่นนี้เพียงลำพังได้  ในตอนนี้เขาได้คำตอบ  ให้กับตนเองแล้ว  'ว่าเขารักผู้ใด'....

       

        "นางเป็นเช่นไรบ้าง"

        

        เมื่อแม่ทัพใหญ่เหลียนซูฉี ได้ยินคำกล่าวนั้นของชินอ๋องเหวินเฟยหลง  ก็ให้ขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ

       "หึ! เจ้าเป็นห่วงนางด้วยหรือ ช่างน่าขันสิ้นดี  ต่อจากนี้ไปเจ้าอย่าได้มาเกี่ยวข้องอันใดกับนางอีก เจ้าหมดโอกาสที่จะดูแลนางตั้งแต่ที่ทำให้นางเสียใจแล้ว"    กล่าวจบท่านแม่ทัพใหญ่เหลียนซูฉี  ก็จากไปในทันที  เหลือไว้เพียงคำกล่าวที่เขาพูดไว้เมื่อสักครู่นี้เท่านั้น  ที่ยังคงตราตรึงอยู่ในหัวของชินอ๋องซ้ำไปซ้ำมา

      "หมดโอกาสแล้วเช่นนั้นหรือ"

       

       ชินอ๋องเหวินเฟยหลง จ้องมองไปที่สตรีที่กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงในตอนนี้อย่างใช้ความคิด นานเท่าไหร่แล้ว  ที่เขาเฝ้าคิดถึงสตรีผู้นี้ในตอนที่นางหายไป เขาคิดว่าความรู้สึกทุกอย่างที่มีให้กับนางคือความรักระหว่างชายหญิง  

       แต่แท้ที่จริงแล้ว  ความรู้สึกที่เขามีให้กับนาง  หาได้เป็นอย่างที่เขาเคยเข้าใจไม่  ความผูกพันและความรู้สึกที่เขามีให้นางนั้น  มันเป็นเพียงแค่ความรักระหว่างพี่น้องเพียงเท่านั้น   และเขาพึ่งจะรู้ความรู้สึกของตนเอง   ก็ในตอนที่สตรีที่เขารักอย่างแท้จริง  กำลังเจ็บปวดและกำลังจะจากเขาไป...

       แล้วเขาจะมีความกล้าอันใดที่จะบอกความรู้สึกที่แท้จริงนี้ให้นางได้รับรู้  เซียวซูหนี่ว์ไม่สามารถรับแรงกดดันเหล่านี้ได้เป็นแน่ ร่างกายของนางนั้นอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก หากนางต้องมารับรู้  ว่าเขาหาได้มีความรู้สึกพึงใจในตัวนางเฉกเช่นชายหญิง  นางจะสามารถทนได้เช่นไร

       "ซูเอ๋อร์ศิษย์พี่ต้องขอโทษเจ้าด้วย"

       ในขณะที่ชินอ๋องได้กล่าวประโยคนั้นออกไป  เขาหารู้ไม่ว่าสตรีที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนั้นได้รู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว  เมื่อนางได้ยินคำกล่าวนี้ของชินอ๋องเหวินเฟยหลง ความรู้สึกเจ็บแปล๊บก็พุ่งเข้ามาที่หัวใจของนาง จนนางแทบอยากจะกระอักเลือดออกมาเสียให้ได้

       เหตุใดนางจะไม่รู้ความหมายในคำกล่าวนั้นของบุรุษคนรักของตนเล่า  ในเมื่อสายตาของชินอ๋องที่ทอดมองไปยังเหลียนลี่หรูในขณะที่สตรีผู้นั้นกำลังจะจากไป   เขาไม่เคยใช้สายตาเช่นนั้นจ้องมองมาที่นางมาก่อน  ส่วนมากมันจะเป็นสายตาแห่งความเอ็นดูเสียมากกว่าที่จะมีความรู้สึกลึกซึ้งบ่งบอกถึงความรักมากมายเช่นนี้

       ความรู้สึกไม่ยินยอมเกิดขึ้นมาในอกของนางอย่างมากมาย  เหตุใดนางจะต้องเป็นผู้แพ้กัน  ก็ในเมื่อนางมาก่อน  เขาไม่คิดถึงความผูกพันที่ผ่านมาระหว่างนางและเขาเลยเช่นนั้นหรือ

       ไม่ได้!..   ถึงอย่างไรนางก็จะไม่ยอมปล่อยเขาไป นางรักเขามาก มายถึงเพียงนี้  แล้วนางจะยอมเสียเขาไปให้กับสตรีผู้นั้นได้เช่นไร…

       'อย่าได้หวังเลย'

  

       "น...น้ำ   ข้าขอน้ำหน่อย" เสียงแหบแห้งของสตรีเบื้องหน้า  ทำให้ชินอ๋องหลุดออกมาจากในภวังค์

      "เจ้าฟื้นแล้วเช่นนั้นหรือ...รู้สึกเป็นเช่นไรบ้าง"

      ชินอ๋องกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  พร้อมกับยื่นจอกน้ำให้กับนางได้ดื่มดับกระหาย

       "ศิษย์พี่ ท่านอย่าได้ทิ้งข้าไปไหนนะ ข้ากลัวการต้องอยู่คนเดียว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา  ตั้งแต่ที่ท่านพ่อได้จากไป ในชีวิตของซูเอ๋อร์ ก็ไม่เหลือผู้ใดอีกแล้ว"

       พร้อมกับโผเข้าสู่อ้อมกอดของบุรุษตรงหน้าอย่างรวดเร็ว  จนชินอ๋องไม่ทันได้ตั้งตัว  เขาค่อยๆประคองสตรีที่อยู่ในอ้อมกอดไว้อย่างรู้สึกผิด 

      ใช่สิ

      นอกจากเขาแล้วนางก็ไม่มีผู้ใดอีก  หากแม้แต่ตัวเขายังทำร้ายจิตใจนาง  นางจะเจ็บปวดเพียงใดกัน...

       "ศิษย์พี่จะทิ้งเจ้าไปได้เช่นไรกัน  ถึงอย่างไรเจ้าก็คือคนสำคัญกับศิษย์พี่ เพราะเจ้าก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวอยู่แล้ว"

       ชินอ๋องเหวินเฟยหลง พยายาม ที่จะเปิดเผยความรู้สึกของเขาให้กับนางได้รับรู้ทีละน้อย  หากทำเช่นนี้มันอาจจะทำให้นาง สามารถยอมรับมันในสักวันหนึ่งก็เป็นได้ แค่เพียงต้องใช้เวลาให้นางได้ปรับตัวเสียก่อน  

       เขาไม่ต้องการที่จะทำร้ายความรู้สึกของนาง เพราะถึงอย่างไรนางก็เปรียบเสมือนน้องสาวของเขา

       'ลี่เอ๋อร์ได้โปรดรอเปิ่นหวาง ก่อน  ในตอนนี้เปิ่นหวางได้รู้ถึงความรู้สึกของตนเองแล้ว  เปิ่นหวางจะชดใช้ความผิดที่ได้ทำให้เจ้าเสียใจด้วยตนเอง  ให้โอกาสเปิ่นหวางอีกสักครั้งเถิด'

        

       

ณ จวนตระกูลหลียน

        3 วันหลังจากนั้น  สตรีผู้ที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของคนทั้งตระกูล ก็ยังไม่ยอมออกมาจากภายในห้องของตนเอง  พวกเขาให้เป็นห่วงนางยิ่งนัก จนในที่สุดประตู ที่เคยปิดสนิท   ก็ได้เปิดออกพร้อมกับใบหน้าของสตรีที่ดูซีดเซียวไร้สีเลือด   

        "ลี่เอ๋อร์ เจ้ารู้สึกดีขึ้นแล้วใช่หรือไม่"

        แม่ทัพใหญ่เหลียนซูฉี  กล่าวออกไปอย่างเป็นห่วง   เมื่อได้เห็นใบหน้าของน้องสาวสุดที่รักของเขา ในรอบหลายวันที่ผ่านมา

        หลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้เข้าไปรบกวนนาง ก็เพื่อที่จะให้นางได้คิดทบทวนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น  ให้นางเจ็บช้ำให้พอ เมื่อนางคิดได้  นางก็จะลุกขึ้นมาด้วยตนเอง  เขาเชื่อว่าน้องสาวของเขาจะเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงนี้ได้

        "เจ้าค่ะ น้องรู้สึกดีมากแล้ว ขอบคุณพี่ใหญ่ที่เป็นห่วง หลังจากนี้ น้องจะมิเป็นเช่นนั้นอีกแล้ว"

        น้ำเสียงที่แหบแห้ง  พร้อมกับดวงตาที่บวมปูด  บ่งบอกว่านางได้ผ่านการร้องไห้ออกมาอย่างหนักมากเพียงใดในรอบหลายวันที่ผ่านมานี้

       "เจ้าร้องเถิด  ร้องให้พอ แล้วหลังจากนี้  จงลุกขึ้นยืนอย่างเข้มแข็ง  และอย่าได้ล้มลงไปอีก"

       นั่นคือคำกล่าวของเขา ที่ได้กล่าวไว้กับนางก่อนที่เขาจะจากไป

      

       จาก 3 วันเป็น 7 วันเป็นหนึ่งเดือน  วันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ อย่างที่มันควรจะเป็น แต่นางกลับไม่เคย ได้เห็นใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเลยสักครั้ง   ในรอบหลายวันที่ผ่านมานี้ เขาไม่แม้แต่จะอธิบายถึงเหตุผลใดๆ ให้นางได้เข้าใจเลยแม้แต่น้อย  

       นางกำลังรอคอยความหวังลมๆแล้งๆอะไรกันอยู่    นี่นางยังคิดว่าเขาจะมาพบหน้านางอยู่อีกเช่นนั้นหรือ  ในตอนนี้เขาได้พบกับคนที่เขารักและรอคอยมาเนิ่นนานเช่นนั้นแล้ว นางยังคิดว่าตนเองมีความสำคัญกับเขาอยู่เช่นนั้นหรือ

'พอได้แล้ว  เลิกโง่แล้วตาสว่างเสียที'

       นางควรที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้แล้ว นางจะมาจมปลักอยู่กับอดีตที่เจ็บปวดนี้  ให้คนที่รักนาง รู้สึกเป็นกังวลไปเพื่อการใดอีก...

       เมื่อคิดได้ดังนั้น   นางจึงตัดสินใจเปิดประตูออกมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงเสียที 

       "ท่านพ่อ  ท่านแม่ พี่ใหญ่ต้องทำให้พวกท่านเป็นห่วงแล้วในหลายวันที่ผ่านมานี้  ลูกอกตัญญูนัก"

       ลี่หรูมีสีหน้ารู้สึกผิดอย่างเห็นได้ชัด  จะไม่ให้นางรู้สึกผิดได้เช่นไรเล่า  ก็ในเมื่อใบหน้าอมทุกข์ของพวกเขาเหล่านี้ บ่งบอกว่าตลอดหลายวันที่ผ่านมา  พวกเขาเองก็หาได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย 

       เพียงแค่นางเปิดประตูออกมาก็พบกับใบหน้าของผู้ที่รักและหวังดีกับนางเหล่านี้ทันที  นั่นหมายความว่าพวกเขามาเฝ้ารอนางอยู่เช่นนี้ตลอดเวลาเช่นนั้นหรือ

       ลี่หรูคุกเข่าลงอย่างแรง นางรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตนเองได้ทำลงไป

       "ข้าขอโทษ"

       ความรู้สึกอัดอั้นในอกของนางในตอนนี้  ทำให้นางไม่สามารถเก็บกักน้ำตาแห่งความเสียใจเอาไว้ได้อีกต่อไป…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel