บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 เราคือคนรักกัน

ลี่หรูจ้องมองไปที่ใบหน้าของบุรุษคนรัก อย่างต้องการค้นหาความจริง  เหตุใดนางจะมิรู้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขากัน   เพียงแต่ในเมื่อเขาไม่ต้องการที่จะพูดมันออกมา   นางก็ไม่ต้องการที่จะคาดคั้นอันใดเช่นกัน  

        "หากมีสิ่งใดที่หม่อมฉันพอจะช่วยเหลือพระองค์ได้   ก็ให้บอกหม่อมฉันได้เลย   เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็คือคนรักกัน"

       ลี่หรูพยายามที่จะย้ำถึงสถานะของเขาและนางอีกครั้ง  เพื่อให้ชินอ๋องได้ทราบว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่   และมิลืมว่าเขาและนาง  หาใช่คนอื่นคนไกล  หากมีสิ่งใดเขาก็ควรที่จะบอกกับนางให้ได้ทราบ   มิใช่ปิดบังมันเอาไว้เช่นนี้  หากเป็นเรื่อง เกี่ยวกับงานของเขาจริง   ก็ให้แล้วไปเถิด   แต่หากมันเกี่ยวกับความรู้สึกที่เขามีให้กับนางแล้วนั้น  นางคงต้องรอให้เขาเป็นผู้บอกกับนางเองเพียงเท่านั้นกระมัง...

       เพียงไม่นานทั้งสองก็ได้เดินทางมาถึงยังจวนของตระกูลเหลียนซึ่งหลังจากที่เขาได้ส่งนางกลับเข้าจวนแล้ว  ก็ได้รีบกลับไปยังตำหนักของตนเองทันที  ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้น  ถึงกับทำให้ท่านเสนาบดีเหลียนผู้เป็นบิดาของนาง อดแปลกใจไม่ได้

       เพราะโดยปกติแล้วบุรุษผู้นี้หาได้มีความเร่งรีบกลับตำหนักของตนเช่นนี้   หากมิไล่เขาแทบจะไม่อยากกลับไปด้วยซ้ำ   แล้ววันนี้มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น   ระหว่างบุรุษสูงศักดิ์ผู้นั้น  และบุตรสาวของเขาหรือไม่?

       "ลี่เอ๋อร์ เจ้ามีเรื่องหมางใจกันกับท่านอ๋องหรือ    เหตุใดพระองค์ถึงได้มีท่าทีเช่นนั้น"

       "เขาคงจะงานยุ่งกระมังลูกก็มิทราบเช่นกัน"

       กล่าวจบลี่หรูก็รีบตรงดิ่งกลับห้องของนางทันที  ความรู้สึกวูบโหวงในหัวใจ   คล้ายกับมีสิ่งใดหายไปในตอนนี้  ถึงกับทำให้นางหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  สตรีที่ทั้งเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวเช่นนางจะมีวันนี้ได้

        "เกิดอะไรขึ้นกันแน่?"

        หลังจากที่ลี่หรูกลับมาถึงยังภายในห้อง  นางก็เดินไปเดินมาเหมือนหนูติดจั่น  ความกระวน กระวายใจในตอนนี้  ไม่ใช่สิ่งที่คุ้นชินกับนางเลยแม้แต่น้อย

        "ข้าควรจะตามไปดูเขาที่ตำหนักดีหรือไม่  หรือว่าข้าจะรอให้เขาเป็นผู้บอกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเอง"

        "ไม่ได้ในเมื่อข้องใจ   ข้าก็ควรที่จะหาคำตอบนั้นด้วยตนเอง  ข้าควรที่จะไปดูให้เห็นกับตา  ว่ามันไม่มีอะไรอย่างที่เขาว่าดีหรือไม่"

        "ไม่สิถ้าเขาคิดว่าข้าไม่เชื่อใจเขาเล่าจะทำเช่นไร"

        "โธ่เอ๋ย! อันนั้นก็ไม่ได้  อันนี้ก็ไม่ได้  แล้วจะให้ทำยังไงดี"

        การที่นางเดินไปเดินมา  และพูดบ่นคนเดียว  คล้ายกับคนสติวิปลาสเช่นนี้  ยิ่งทำให้เจียวเหมยสาวใช้คนสนิทของนางถึงกับมึนงงเป็นอย่างมาก  มีเหตุอันใดเกิดขึ้นกับเจ้านายสาวของตนกัน

        "คุณหนู  เหตุใดหลังจากที่ท่านกลับมาจากวังหลวง  ถึงได้มีท่าทีแปลกประหลาดเช่นนี้เล่า"

        "ไม่มีอะไร"

        "ไม่มีอะไร   แล้วเหตุใดถึงได้เดินไปเดินมาไม่หยุดเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ"

        "เฮ้อ นั่นสินะ นี่ข้าเป็นบ้าอันใดกัน มันไม่สมกับเป็นตัวของข้าเลย"

        ใช่แล้วเหตุใดกะอีแค่ความรู้สึกเช่นนี้  เหตุใดถึงได้มาทำให้นางขาดความคิดรอบคอบได้ ทั้งๆที่นางนั้นเคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง  นางควรที่จะมีความคิดอ่าน  และรอบคอบมากกว่านี้มิใช่หรือ  แล้วเรื่องเพียงเล็กน้อยแค่นี้  เหตุใดถึงได้ไร้สติเช่นนี้ได้กัน

        "แค่ไปสืบดูก็สิ้นเรื่อง   เหตุใดจะต้องมากระวนกระวายไม่เป็นตัวของตนเองเช่นนี้"

        เหตุที่ต้องกล่าวว่านางเคยตายมาแล้วครั้งหนึ่งนั้น  เพราะแท้ที่จริงแล้วเหลียนลี่หรู คือศัลยแพทย์ที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่  และได้มาเกิดในร่างของเด็กทารกที่เป็นบุตรีของตระกูลเหลียนนี้

        มันเหมือนกับว่านางได้มาเกิดใหม่ในโลกอดีต  แต่สวรรค์ได้ให้ความทรงจำกับนางมาทั้งหมด ตอนนี้จึงทำให้นางมีความสามารถเดิมติดตัวมาด้วย ดังนั้นความรู้ความสามารถของนาง  จึงถือว่ามีมากกว่าผู้ที่อยู่ในยุคโบราณนี้เป็นอย่างมาก

        

    

ณ  ตำหนักชินอ๋องเหวินเฟยหลง

         ใบหน้าที่เคร่งเครียดขณะกำลังทรงงานอยู่ในห้องหนังสือของชินอ๋องเหวินเฟยหลง  ถึงกับทำให้สตรีผู้หนึ่งที่แอบมองอยู่  กำลังจะก้าวออกมาหาบุรุษคนรักของตน   แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงัก   เมื่อเห็นว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญ  กำลังเดินเข้าไปโอบกอดบุรุษคนรักของนางจากทางด้านหลัง

        "ที่แท้ก็เคร่งเครียดเรื่องงานจริงๆด้วย หม่อมฉันก็นึกว่าพระองค์ทรงเปลี่ยนพระทัยจากหม่อมฉันไปแล้วเสียอีก"

       เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ใดที่เข้ามาโอบกอดตนเอง  ชินอ๋องในตอนแรกก็ให้รู้สึกตกใจ  แต่เมื่อกลิ่นอันคุ้นเคย  โชยเข้ามาในจมูกของเขา ก็ทำให้เขาจำได้ทันที ว่าคนผู้นั้นคือผู้ใด

       "หือ! เด็กโง่เจ้ากำลังคิดมากอันใด    ถึงอย่างไรในหัวใจของเปิ่นหวางก็มีเพียงเจ้า"

       ในขณะที่กล่าวตอบออกไปนั้นเขาก็กุมมือบางของนางเอาไว้แน่น อย่างรักใคร่   ซึ่งท่าทีของทั้งสอง ที่แสดงออกมานั้น  ถึงกับทำให้หญิงสาวอีกผู้หนึ่ง   ที่ลอบมองอยู่ภายในห้อง  ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างเจ็บปวด...

       

       "มาดึกดื่นเช่นนี้  เดี๋ยวก็ต้องลมหนาว  ทำให้ไม่สบายเอาได้  เหตุใดถึงไม่รู้จักระวังตนเองบ้าง"

       "ก็หม่อมฉันอยากมาเห็นกับตาเผื่อพระองค์แอบซุกซ่อนสตรีอื่นเอาไว้  หม่อมฉันจะได้เห็นด้วยตาตนเองเช่นไรเล่า"

       "หึ! ไร้สาระจริงเชียว"

       ลี่หรูก้มลงไปหอมแก้มบุรุษคนรักอย่างคิดถึง

       "ก็หม่อมฉันเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของพระองค์แล้ว   รู้สึกไม่สบายใจ  แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้หม่อมฉันก็สบายใจแล้ว  งั้นหม่อมฉันไม่รบกวนเวลาทรงงานของพระองค์แล้วเพคะ"

       "จะกลับแล้วเช่นนั้นหรือ เดี๋ยวเปิ่นหวางจะไปส่ง"

       "ไม่ต้องเพคะ พระองค์ทรงงานต่อเถอะ  หม่อมฉันไม่รบกวนเวลาของพระองค์แล้ว  อย่าได้ทรงห่วงอันใดเลย  แค่องครักษ์ทั้ง 2 ที่ทรงส่งมาคุ้มครองความปลอดภัยของหม่อมฉัน  ก็เพียงพอแล้วหม่อมฉันกลับเองได้เพคะ"

       กล่าวจบลี่หรูก็ใช้วิชาตัวเบาเหินกายจากไปในทันที

       หลังจากที่ชินอ๋องเห็นว่าลี่หรูได้จากไปแล้ว  เขาก็รีบจ้องมองไปยังจุดที่เซียวซูหนี่ว์ยืนอยู่ในตอนนี้อย่างกังวล    เขารีบลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วตรงไปยังทิศทางที่นางยืนอยู่อย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel