บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 พระองค์ยังทรงเหมือนเดิมอยู่หรือไม่

เหลียนลี่หรู นั่งอยู่ในตำหนักคุณหนิงของไทเฮาตามพระราช โองการเรียกตัวนางเข้าวังในวันนี้

       "ลี่เอ๋อร์  หากอัยเจียไม่มีพระราชโองการเรียกตัวเจ้าเข้าเฝ้า  เจ้าก็จะมิมาพบหน้าอัยเจียบ้างเลยหรือ"

       "หามิได้เพคะ หม่อมฉันในช่วงนี้  ยุ่งเหลือเกิน เพราะกิจการตระกูลเหลียนทั้งหมดในตอนนี้ท่านพ่อได้มอบหมายให้หม่อมฉันดูแลกิจการทั้งหมด  จึงทำให้หม่อมฉันไม่มีเวลาว่างทำสิ่งใดเลย"

        "หือ! นี่ท่านเสนาบดีเหลียนถึงขนาดมอบหมายให้เจ้าดูแลกิจการในตระกูลเชียวหรือ"

        "เพคะ นอกจากหม่อมฉันแล้วยังจะมีผู้ใดอีก  ในเมื่อท่านแม่ทัพใหญ่เหลียนซูฉี ก็เอาแต่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในค่ายทหาร  ดังนั้นกิจการทุกอย่างของตระกูลจึงต้องตกมาเป็นของหม่อมฉันเช่นนี้"

        เหวินไทเฮาจ้องมองไปที่สตรีตัวน้อยเบื้องหน้าอย่างเอ็นดู  ในตอนแรกพระนางก็ไม่เข้าพระทัยเช่นกัน   ว่าเหตุใดพระโอรสของพระองค์  ถึงได้พึงใจในตัวสตรีผู้นี้  นางหาได้มีความเรียบร้อยอ่อนหวานเฉกเช่นสตรีทั่วไปควรมีแม้แต่น้อย

        แต่เมื่อได้ใช้เวลาร่วมกับสตรีผู้นี้   จึงรู้ถึงอุปนิสัยใจคอของนางเป็นอย่างดี   พระนางเองก็ทรงรู้สึกชมชอบในตัวนางไม่น้อยเช่นกัน   เพราะด้วยความตรงไปตรงมา ไร้ซึ่งการเสแสร้งอย่างเช่นสตรีในเมืองหลวงเช่นนาง  ทำให้เหวินไทเฮาทรงรู้สึกว่าเวลาได้อยู่ร่วมกันกับนางแล้ว  ทำให้รู้สึกสบายพระทัยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

        พระนางจึงให้รู้สึกเอ็นดูสตรีผู้นี้ออกมาจากใจจริง  ถึงแม้นว่าส่วนหนึ่ง  พระนางจะต้องการอำนาจของบิดาและพี่ชายของนาง  เพื่อหมุนหลังพระราชบัลลังก์ของพระโอรสของพระนางก็ตาม

        "เจ้าช่างเป็นสตรีที่มากความสามารถเสียจริง   กิจการต่างๆเจ้าก็สามารถดูแลได้เป็นอย่างดี  จนได้รับความไว้วางใจจากท่านเสนาบดีเหลียนเช่นนี้   มิหนำซ้ำวรยุทธ์ของเจ้า   ยังยากที่จะมีผู้ใดทัดเทียมได้"

        "ไทเฮาทรงกล่าวเกินไปแล้ว หม่อมฉันหาได้มีความสามารถมากมายเพียงนั้น"

        "เจ้านี่กระไรกัน  อัยเจียบอกเจ้าหลายรอบแล้ว  ว่าให้เรียกอัยเจียว่าเสด็จแม่  เหตุใดถึงได้ชอบทำตัวห่างเหินถึงเพียงนั้นกัน" เหวินไทเฮากล่าวตำหนิเหลียนลี่หรูอย่างไม่จริงจังนัก  

        ในขณะที่สตรีทั้งสองกำลังพูดคุยกันอย่างถูกคออยู่นั้น  ชินอ๋องเหวินเฟยหลงก็ได้เสด็จมาถึงยังตำหนักคุนหนิงของไทเฮาพอดี

        สายตาของเหลียนลี่หรูที่จ้องมองไปยังบุรุษคนรักในตอนนี้  เต็มไปด้วยความคิดถึง เพราะหลายวันแล้ว  ที่เขาไม่ได้แอบเข้าไปในจวนของนาง  เพื่อที่จะส่งนางเข้านอน  

        นางก็ต้องการจะถามเขาเช่นกัน   ว่ามีเหตุอันใดหรือไม่  เหตุใดเขาถึงได้ไม่ไปพบหน้านางเลยเช่นนี้ แต่นางก็คิดในแง่ดี  ว่าเขาอาจจะยุ่งจนไม่มีเวลาไปพบหน้านางก็เป็นได้  นางจึงรอที่จะพบเขา  เพื่อที่จะถามความในวันนี้อย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน

       เพียงพบหน้าบุรุษคนรัก  นางก็ส่งยิ้มไปให้เขาอย่างอ่อนโยน  แต่พฤติกรรมของบุรุษคนรักของนาง ก็ถึงกับทำให้นางตกตะลึงเช่นเดียวกัน   เขาหาได้ส่งยิ้มกลับมาเฉกเช่นที่เคยทำ   สายตาหลุบต่ำไม่กล้าจ้องมองหน้านางนั้นมันคืออันใดกัน?

        "ถวายบังคมเสด็จแม่  ขอ ประทานอภัยที่ทำให้เสด็จแม่ต้องรอ"

        "นั่งลงเถิดเฟยเอ๋อร์ คนกันเองทั้งนั้น  ไปนั่งข้างๆน้องเถิด  วันนี้แม่เพียงแค่เรียกเจ้ามา   เพื่อที่จะพูดคุยเรื่องงานอภิเษกของพวกเจ้าทั้งสองเพียงเท่านั้น" เมื่อได้ยินคำกล่าวของเหวินไทเฮา  ก็ถึงกับทำให้ชินอ๋องเหวินเฟยหลงตกตะลึง  จนทำให้เสียกิริยา อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  ซึ่งพฤติ กรรมทั้งหมดของเขา   ล้วนตกอยู่ในสายตาของลี่หรูทั้งสิ้น

        "เหตุใดเสด็จแม่ทรงรีบร้อนกล่าวถึงงานอภิเษกของลูกและลี่เอ๋อร์เช่นนี้เล่า  ลูกคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่สมควร  เอาไว้ให้ทุกอย่างลงตัวแล้ว  ลูกจะมากราบทูลกับเสด็จแม่ด้วยตนเอง"

        "หือ! มีอันใดที่ยังมิพร้อมอีก ในเมื่อในตอนแรกก็เป็นเจ้าไม่ใช่หรือ   ที่เร่งรัดให้แม่จัดการเรื่องนี้ให้"

        "พอดีว่าช่วงนี้ลูกมีเรื่องที่ให้ต้องจัดการเล็กน้อย   เมื่อลูกจัดการปัญหานั้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ลูกจะมากราบทูลกับเสด็จแม่ด้วยตนเอง"

        ชินอ๋องเหวินเฟยหลงรีบกล่าวแย้งออกไปอย่างรวดเร็ว  เมื่อเห็นว่าเหวินไทเฮา ไม่ได้กล่าวแย้งอันใดอีก  ก็ทำให้เขาถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก  โดยลืมไปว่าในตอนนี้  สตรีคนรักก็ได้นั่งอยู่ด้านข้างของเขาด้วย

         ซึ่งพฤติกรรมที่ชินอ๋องแสดงออกมาทั้งหมด   ถึงกับทำให้ลี่หรูอดแปลกใจกับท่าทีของบุรุษคนรักไม่ได้

         'มีเรื่องอะไรที่นางไม่รู้เช่นนั้นหรือ   เหตุใดบุรุษคนรักของนางถึงได้มีท่าทีเปลี่ยนไปเช่นนี้'....

         

         ในขณะเดินทางกลับออกมาจากวังหลวง  โดยมีชินอ๋องเดินทางมาส่งนางที่จวนตระกูลเหลียน บรรยากาศอึดอัด  อันน่าแปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนระหว่างพวกเขา  ถึงกับทำให้ลี่หรูอดใจไม่ไหวกับท่าทีเปลี่ยนไปของบุรุษคนรัก   จากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้

        ในขณะที่นั่งมาในรถม้าคันเดียวกัน  ชินอ๋องเหวินเฟยหลงทำเพียงตอบคำถามที่นางถามมา  และยังท่าทีเฉยชานั้น  เขาไม่แม้แต่จะกุมมือนางไว้อย่างเช่นที่เคยทำเมื่ออยู่กันตามลำพัง  นั่นเหมือนกับเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความอดทนของนางจบลง

        "มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่  นี่พระองค์ยังทรงเหมือนเดิมอยู่หรือไม่"

        คำถามที่ถามขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว   ถึงกับทำให้ชินอ๋องหัวใจกระตุกวูบ  ตลอดระยะเวลาหลายวันที่ผ่านมา  เขารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก   เขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรกับความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ เพราะเขาไม่รู้จะเลือกใคร  เขารักนางทั้งสอง  จนไม่สามารถตัดสินใจเลือกผู้ใดได้

         คนหนึ่งก็รักแรก  อีกคนหนึ่งก็ผูกพัน   แล้วเช่นนี้เขาจะตัดใจเลือกผู้ใดได้เช่นไร  แต่เมื่อจ้องมองไปยังใบหน้าของสตรีคนรักผู้นี้   เขาก็ให้รู้สึกผิดต่อนางจนไม่สามารถสู้หน้านางได้  

        บุรุษผู้องอาจกล้าหาญเช่นเขาที่ไม่เคยมีความหวั่นเกรงในสิ่งใด แต่ในตอนนี้  เขากลับหวาดกลัวที่จะบอกความจริงกับนาง  หากนางรับไม่ได้  แล้วเลือกที่จะจากเขาไป  เขาก็ให้รู้สึกใจหาย  และไม่สามารถยอมรับที่จะเสียนางไปได้เช่นกันสำหรับสตรีอีกคนหนึ่งนั้น  นางทราบถึงความสัมพันธ์นี้ของพวกเขานางจึงให้เวลาเขาได้เลือกว่าเขาจะเลือกผู้ใด

       "ไม่มีอันใดหรอก  แค่เพียงช่วงนี้  เปิ่นหวางมีเรื่องให้ทำหลายอย่างเจ้าอย่าได้คิดมากไปเลย"

       "จริงหรือเพคะ  หากมีสิ่งใดที่พระองค์ต้องการความช่วยเหลือจากหม่อมฉัน…. หรือมีสิ่งใดที่พระองค์ทรงปิดบังหม่อมฉันอยู่  ก็ให้บอกมาเถิด   อย่าได้ปิดบังจนหม่อมฉันรู้มันด้วยตัวเอง  เพราะหากเป็นเช่นนั้นหม่อมฉันจะไม่มีวันให้อภัยพระองค์เป็นแน่"...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel