8. เสน่ห์แรงจริง
“คุณโซมพัน คุณเอ๋ มายืนตรงมุมนี้สิครับ เดี๋ยวผมจะถ่ายภาพให้”
อัลเฟรดร้องบอกสองสาวด้วยความสนิทสนมมากขึ้น เขาเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพวิวทิวทิศน์ สิ่งของหรือภาพคน จนทำให้นางแบบสองสาวต้องรีบวิ่งไปโพสต์ท่าตามคำสั่งตากล้องกันจนเหนื่อย
“คุณโซมพัน สวยทุกภาพแน่นอนครับ”
อัลเฟรดให้ความมั่นใจพร้อมกับส่งสายตาชื่นชมผ่านแว่นตากันแดด
“เมื่อไหร่คุณจะเรียกชื่อฉันได้ถูก ๆ เสียทีคะคุณแฟรงก์” นัทธมนอดแซวเขาไม่ได้
“ผมจะพยายามครับ โซม โสม..ส้ม..ส้ม”
อัลเฟรดฝึกออกเสียงอย่างตั้งใจ
“นั่นแหละค่ะ ใช่เลย ส้ม”
นัทธมนลุ้นด้วยความดีใจที่ได้ยินเขาออกเสียงชื่อเธอได้ถูกต้องเป็นครั้งแรก
“ส้ม..ผมพูดถูกต้องแล้วใช่ไหมครับ”
อัลเฟรดถามด้วยความตื่นเต้น
“ค่ะ เก่งมากค่ะแฟรงก์”
นัทธมนยกนิ้วให้ อัลเฟรดเอียงคอยักคิ้วล้อเล่นกลับไป
“ถ้าอย่างนั้นผมขอเรียกคุณว่าส้ม คำเดียวได้ไหมครับ” เขาขออนุญาต
“ตามสบายเลยค่ะ”
นัทธมนยิ้มหวานให้เขาด้วยความเป็นมิตร อัลเฟรดก็ยิ้มหวานตอบ ภาพความสนิทสนมของทั้งคู่ ทำให้เดชศักดิ์ชักจะร้อนใจ เกรงว่าอัลเฟรดจะไขว้เขว จนต้องรีบเข้ามาขัดขวางทันที
“นี่ยัยส้มเน่า เอ๊ย ส้มปั่น แกห้ามมายิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้คุณแฟรงก์ของฉันไขว้เขว ถ้าเป็นยัยเอ๋ ฉันจะไม่หึงเท่าแกเลย เพราะแกมันสวยสังหารเกินไปที่จะอยู่ใกล้ชิดคุณแฟรงก์ ฉันไม่ไว้ใจ”
เดชศักดิ์บอกอย่างคนที่หวงแหนของรัก
“ทำตัวเป็นหมาแม่ลูกอ่อนหวงลูกไปได้” ปัทมาเป็นคนต่อว่าเดชศักดิ์แทนนัทธมน
“เปรียบเทียบให้มันดี ๆ หน่อยได้ไหมยัยหมอนตู..หมูตอน ฉันไม่ใช่หมา แล้วคุณแฟรงก์ก็ไม่ใช่ลูกฉันด้วย เขากับฉันอายุห่างกันแค่ไม่กี่ปี ฉันอายุยี่สิบสามเท่าพวกแก ส่วนคุณแฟรงก์ก็แค่ยี่สิบเจ็ดเท่านั้น” เดชศักดิ์พูด
“งั้นก็เป็นงูจงอางหวงไข่” นัทธมนพูดขึ้น
“เออ..ดีกว่าเมื่อกี้หน่อย เพราะฉันหวงไข่จริง ๆ ด้วยน่ะแหละ ไม่อยากให้แกมาขโมยไข่ที่ฉันหวงไป”
“ของแบบนี้ขโมยไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะยัยเดรซ ถ้าคุณแฟรงก์ของแก เขาเป็นพวกนิยมกินถั่วดำ เขาไม่ผละมาชิมเชอรี่หวานฉ่ำอย่างฉันหรอกย่ะ”
นัทธมนพูดให้เพื่อนเชื่อมั่นในตัวเอง
“อย่างหล่อนน่ะหรือเป็นเชอรี่หวานฉ่ำ ฉันว่าเป็นมะระขี้นก ขมปี๋มากกว่าย่ะ” เดชศักดิ์โต้ทันควัน
“หวานเป็นลมขมเป็นยานะคะคุณเดรซซี่”
ปัทมาพูดเข้าข้างนัทธมนเป็นการร่วมแจมความสนุก
“ฉันไม่คุยกับพวกแกแล้ว เสียเวลาคลอเคลียกับแฟรงก์หมด ตอนนี้แกสองคนพากันไปเดินอ่อยหาผู้ชายแถวโน้นป่ะ อย่ามาทำให้ผู้ชายของฉันหวั่นไหว ส่วนฉันจะหลอกล่อ เอ๊ย จะพาแฟรงก์เขาไปทางนี้”
เดชศักดิ์รีบจัดแจงหาทางกำจัดเพื่อนทั้งสองที่จะเป็นก้างขวางคอตัวเอง สองสาวทำตามอย่างว่าง่าย แต่ไม่วายแอบมองเดชศักดิ์เดินกรีดกรายส่ายสะโพกไปคล้องแขนอัลเฟรด
ราวกับเป็นคู่รักกัน ฝ่ายอัลเฟรดนั้นก็ยอมเดินตามเดชศักดิ์ไปโดยดีอย่างไม่ขัดขืน
“ดูมัน..ไม่เก็บอาการเอาซะเลย”
นัทธมนชี้ให้ปัทมาดูความกระตุ้งกระติ้งของเดชศักดิ์ด้วยความขบขัน
“ก็มันอยู่ห่างจากสายตาครอบครัว ก็เลยแต๋วแตกไปแล้วน่ะสิ” ปัทมามองเดชศักดิ์แล้วก็ยิ้ม
“แบบนี้คุณแฟรงก์ก็คงจะพอดูออกแล้วล่ะว่ายัยเดรซเป็นตุ๊ด”
“ดูไม่ออกก็โง่เต็มทีแล้วล่ะ ยัยเดรซมันแสดงออกซะเว่อร์ขนาดนั้น ทั้งคล้องแขน จูงมือจับก้น นี่ถ้ามันปล้ำได้ มันคงลากคุณแฟรงก์เข้าข้างทางไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วล่ะ”
ปัทมาพูดจบนัทธมนก็หัวเราะด้วยความถูกใจ
“ฉันว่ายัยเดรซ อาจจะไม่ต้องออกแรงปล้ำเลยก็ได้ แกไม่เห็นรึไงว่าคุณแฟรงก์ดูเต็มอกเต็มใจไปกับยัยเดรซของเรา”
“เออ..ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ ถ้าคุณแฟรงก์เขาไม่ชอบ ป่านนี้ก็คงจะบอกยัยเดรซมันไปแล้วล่ะ แต่นี่..ไม่เห็นเขาขัดขืนสักนิด กลับปล่อยให้ยัยเดรซมันลวนลามเกาะแกะซะอีก โอย..หัวใจของฉันกำลังจะแตกสลายแล้วล่ะ..โธ่..คุณแฟรงก์สุดหล่อของฉัน ต้องตกเป็นของตุ๊ดจริง ๆ หรือนี่”
ปัทมาทำท่ากุมหน้าอก สีหน้าละห้อยเป็นที่น่าขบขัน
“เป็นอะไรยะ หัวใจง่ายกำเริบเหรอ” นัทธมนแซว
“หรือว่าแกไม่หลงเสน่ห์คุณแฟรงก์ล่ะ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ ดูดีไปหมดเลย ส้าธุ!..ขอให้คุณแฟรงก์ อย่าได้มีจิตใจเบี่ยงเบนแบบยัยเดรซเล้ย..ขอให้เขาสนใจผู้หญิงด้วยเถิด โดยเฉพาะผู้หญิงหน้าตาสวยหวาน หุ่นอวบอัดน่าฟัดอย่างดิฉัน เพี้ยง!”
ปัทมายกมือขึ้นพร้อมเป่าเพี้ยงไปในอากาศ นัทธมนส่ายหัวยิ้ม ๆ กับความเพี้ยนของเพื่อน
