7. เดินหน้าหาโอกาส
อัลเฟรดเริ่มหันไปสนใจถ่ายภาพอีกครั้ง ทำให้เดชศักดิ์ได้จังหวะรีบเดินไปกระซิบกับเพื่อนสาวทั้งสองด้วยภาษาไทยเพื่อไม่ให้อัลเฟรดรู้เรื่องด้วย
“นี่พวกแก เวลาที่ฉันเดินกับแฟรงก์สองคน พวกแกไม่ต้องเดินตามมานะ อยู่ห่าง ๆ ก็ได้ หรือพวกหล่อนจะเดินไปชมนกชมไม้อยู่คนละมุมได้ยิ่งดี ฉันจะได้ทำอะไรถนัด ๆ หน่อย แฟรงก์เองก็จะได้ไม่เขินพวกแก”
“แกคิดจะทำอะไรคุณแฟรงก์สุดหล่อของฉันอีกหา..ยัยเดรซซี่”
ปัทมาหันมาจ้องหน้าเดชศักดิ์ยิ้ม ๆ
“นี่หล่อน..คุณแฟรงก์เป็นของฉันไม่ใช่ของหล่อน กล้าดียังไงมาบอกว่าคุณแฟรงก์สุดหล่อของแกยะ ยัยอ้วน!“
“แล้วแกล่ะ กล้าดียังไง ถึงคิดว่าคุณแฟรงก์เป็นของแก ยัยตุ๊ดซี่ขี้ตู่!”
ปัทมาเรียกชื่อเพื่อนให้สาสมกับที่ถูกเรียกยัยอ้วน
“เพราะฉันเป็นคนติดต่อกับเขาก่อน ฉันจองเขาไว้แล้ว แกห้ามยุ่งเข้าใจไหม”
เดชศักดิ์ชี้นิ้วบอกปัทมา
“แล้วถ้าเกิดเขาเป็นพวกเกลียดตุ๊ดล่ะ” ปัทมาย้อนถามขึ้น
“ไม่มีทาง คุณแฟรงก์เขาชอบฉันมาก แกไม่เห็นรึไงว่าฉันจับก้น เกาะแขนเขาตลอด เขาไม่เห็นว่าอะไรเลย แถมยังหัวเราะชอบใจอีกด้วย ฉะนั้นแกเลิกหวังในตัวของแฟรงก์ได้แล้วย่ะ”
เดชศักดิ์ลอยหน้าบอกอย่างมั่นใจ
“แต่ถ้าเขาไม่มีรสนิยมชอบตุ๊ด แกต้องปล่อยคุณแฟรงก์มาให้ฉันนะ โอเค้..”
ปัทมาพูดเหมือนขอสิ่งของบางอย่าง
“พวกแกสองคนคิดจะแย่งผู้ชายคนเดียวกันรึไงเนี่ย ถ้าคุณแฟรงก์ได้ยินเข้าคงเผ่นหนีไม่ทันหรอก”
นัทธมน ฟังสองคนโต้เถียงกันไปมาแล้วก็อดที่จะพูดแทรกขึ้นมาไม่ได้
“แหม..หล่อ ๆ รวย ๆ อย่างคุณแฟรงก์ มันก็น่ายื้อแย่งไม่ใช่เหรอยัยส้มปั่น ตกลงตามนี้นะยัยเดรซ ถ้าคุณแฟรงก์ไม่ได้ชอบตุ๊ดอย่างแก แกจะต้องเชียร์ให้เขามาสนใจฉันเข้าใจไหม” ปัทมาสั่งเดชศักดิ์อย่างคนมีความหวัง อาศัยส้มหล่น
“เชียร์ให้คุณแฟรงก์สนใจแกเนี่ยนะยัยเอ๋อ้วน...ฉันว่าแกกลับไปส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองซะก่อนไป๊ ว่าหุ่นอย่างแกเนี่ย เชียร์ขึ้นหรือเปล่า ถ้าฉันจะเชียร์ก็คงเชียร์ให้คุณ แฟรงก์ เอาแกไปเต้นโชว์ที่ปางช้างอยุธยาโน่น”
“อ๊าย..นังตุ๊ดปากเสีย ถึงฉันจะหุ่นอวบไปหน่อยแต่ฉันก็สวยกว่าแกย่ะ”
ปัทมาต่อว่าพร้อมค้อนขวับเดชศักดิ์
“นี่พอได้แล้ว เถียงกันอยู่ได้ คุณแฟรงก์หันมาดูแล้วเห็นไหม”
นัทธมนรีบเตือนเพื่อนทั้งสอง
“ฉันจะไปหาคุณแฟรงก์แล้ว พวกแกอย่าลืมที่บอกนะ อยู่ห่าง ๆ ฉันกับคุณแฟรงก์ด้วย ฉันจะได้คลอเคลียกับเขาเต็มที่หน่อย” เดชศักดิ์สั่งเพื่อนทั้งสอง
“แล้วที่ผ่านมายังนัวเนียไม่พอรึไง ฉันเห็นมือแกเป็นหนวดปลาหมึก เกาะเกี่ยวเขาอยู่ตลอดเลยนะ”
นัทธมนแขวะด้วยรอยยิ้ม แต่เดชศักดิ์ยิ้มรับพอใจ
“ใช่ ทำยังกะปลิงเกาะตามตัวคุณแฟรงก์ แถมยังแอบจับก้นเขาด้วย ทุเรศจริง ๆ นะแก”
ปัทมาต่อว่าผสมโรงด้วย
“พวกแกไม่ต้องอิจฉาฉันหรอกนะ ถ้าฉันได้เป็นแฟนอัลเฟรดเต็มตัวเมื่อไหร่ พวกแกก็จะพลอยสุขสบายไปด้วย เพราะเขารวยมาก พวกแกดูรถที่เขาขับพาเราเที่ยวนั่นสิ รถยี่ห้อนี้ราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านเลยนะแก ไม่นับรวมห้องพักสุดหรูที่เขาจ่ายให้พวกเราอีก ฉันแอบถามพนักงานแล้วล่ะ
เขาบอกว่าราคาคืนละหลายแสนเชียวนะโว้ย” เดชศักดิ์บอกให้เพื่อนได้ร่วมตื่นเต้นด้วย
“หา จริงเหรอยัยเดรซ”
นัทธมนตาโตด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“จริงสิ..ก็โรงแรมนั้นเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งที่ดีที่สุดของเมืองมัสกัสตาเชียวนะพวกแก”
เดชศักดิ์ยืนยัน
“ทำไมแฟรงก์ถึงได้รวยขนาดนี้เนี่ย ที่บ้านค้ายาเสพติดหรือค้าอาวุธสงครามวะ ชักสงสัยแฮะ”
ปัทมาทำหน้าแปลกใจ
“บ้าเหรอยัยหมอนตู หมูตอน มากล่าวหาแฟนฉัน เดี๋ยวเถอะ ที่บ้านแฟรงก์เขาทำธุรกิจน้ำมันย่ะ” เดชศักดิ์รีบบอก
“มิน่าล่ะ พวกอาหรับที่ทำธุรกิจนี้รวยมหาศาลทั้งนั้นแหละ” นัทธมนพูดขึ้น
“ทีนี้พวกแกก็คงรู้แล้วใช่ไหมว่าเพื่อนอย่างฉันน่ะกำลังจะมีวาสนาได้มีสามี อุ๊ย..ได้มีแฟนเป็นมหาเศรษฐีอาหรับ เพราะฉะนั้น ถ้าพวกแกอยากจะกินเที่ยวฟรี อย่างมีความสุขอยู่ที่นี่ เวลาที่ฉันสั่งให้พวกแกทำอะไรก็ต้องทำตามเข้าใจไหม”
เดชศักดิ์ถือโอกาสข่มเพื่อนเอาไว้ก่อน สองสาวรีบพยักหน้าพร้อมกันด้วยความเต็มใจที่จะได้อาศัยใบบุญเพื่อนด้วยนั่นเอง หลังจากที่แอบประเมินกันสองคนแล้วว่า อัลเฟรดน่าจะเป็นพวกนิยมไม้ป่าเดียวกันเป็นแน่แท้ เพราะเขาไม่ได้มีท่าทีขืดขืนหรือปัดป้องตัวเองเวลาที่เดชศักดิ์เกาะแกะลวนลามเลย แถมยังหัวเราะถูกใจอีกต่างหาก จึงเป็นไปได้ว่าเขามีรสนิยมชอบถั่วดำ
