6. หาทางใกล้ชิด
อัลเฟรดได้ขับรถส่วนตัวของเขาพาสามคนไทยตระเวนท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมืองมัสกัสตา พร้อมกับคอยอธิบายประวัติความเป็นมาราวกับไกด์มืออาชีพ ทำให้เดชศักดิ์ตั้งอกตั้งใจฟังเป็นอย่างดี แล้วก็ซักถามโน่นนี่ไม่หยุด อัลเฟรดเห็นว่าเดชศักดิ์ ดูท่าทางจะสนใจฟังเรื่องราวที่เขาเล่าก็ปลื้มใจ คิดว่าเดชศักดิ์เป็นพวกชอบเรียนรู้ ในขณะที่สองสาวไทยนั้น ก็จะฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง
อัลเฟรดจึงหันไปพูดให้คนที่ตั้งใจฟังอย่างเดชศักดิ์แทนในตอนหลัง และปล่อยให้สองสาวเดินเอ้อระเหย ลอยชายตามหลังมาห่าง ๆ
เดชศักดิ์รู้สึกพอใจที่เห็นเพื่อนสาวทั้งสองไม่เดินตามหลังมาติด ๆ เขาจึงไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย รีบเร่งสร้างสัมพันธ์กับอัลเฟรด ด้วยการเบียดกายเดินคู่ไปกับเขา มือไม้ของเดชศักดิ์ชักจะกลายเป็นหนวดปลาหมึกไปทีละหน่อย ด้วยการเกาะเลื้อยนัวเนียหาโอกาสแต๊ะอั๋งร่างกายของอัลเฟรดไปด้วยอย่างแนบเนียนเป็นธรรมชาติ โดยที่อัลเฟรดไม่ได้คิดว่าเป็นการถูกลวนลามแต่อยางใด
อัลเฟรดมัวแต่พูดอธิบายจึงไม่ได้รู้สึกว่าร่างกายของเขาถูกรุกราน พอเดชศักดิ์เห็นว่าอัลเฟรดไม่ได้สงสัยหรือต่อว่าอะไรตน ยิ่งเอาใหญ่ ตอนหลังถึงกับแอบลูบไล้จับก้น
อัลเฟรดด้วยความหมั่นเขี้ยว และถือเป็นการโยนหินถามทางเพื่อดูท่าทีของอัลเฟรดไปด้วยนั่นเอง ทว่า..คราวนี้ อัลเฟรดหันมาจ้องหน้าเดชศักดิ์ด้วยความสงสัย
“คุณทำอะไรกับผมหรือเปล่า ผมว่าคุณขยำก้นผมนะ”
อัลเฟรดถามเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง
“ฉันก็แค่หยอกล้อคุณเล่นตามประสาเพื่อนกันน่ะไม่มีอะไรหรอกแฟรงก์”
เดชศักดิ์รีบพูดแก้ตัว ยิ้มให้เขาเป็นการกลบเกลื่อนการกระทำของตัวเองที่เผลอไปรุกรานร่างกายผู้ชายที่ตนสนใจ
“คนไทยชอบจับก้นหยอกล้อเพื่อนแบบนี้หรือครับ”
อัลเฟรดถามอย่างงง ๆ ด้วยความไม่เข้าใจ เสียงของเขาดังพอที่จะทำให้สองสาวที่เดินตามหลังมานั้นได้ยินด้วย
“ซวยแล้วไหมล่ะยัยเดรซ”
นัทธมน แอบกระซิบกับ ปัทมา เมื่อได้ยินคำสนทนาของคนข้างหน้า และสองสาวก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไปฟังคำแก้ตัวของเดชศักดิ์อย่างมีลุ้น
“ใช่... มันเป็นวัฒนธรรมไทยอย่างหนึ่ง ที่นิยมหยอกล้อกันด้วยการจับขยำก้นเพื่อนเล่น”
เดชศักดิ์ตอบอัลเฟรดหน้าตาเฉย
“ยัยตุ๊ดลามก มันตอบแบบนี้ได้ไงวะ”
ปัทมาหันมาพูดกระซิบกระซาบกับนัทธมน
“พระเจ้า! มีวัฒนธรรมแบบนี้ด้วยหรือ ทำเพื่ออะไร”
อัลเฟรดยังไม่วายสงสัยอยู่ดี
“ก็เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อนไงล่ะ แบบว่าทำด้วยความเอ็นดูเพื่อน เหมือนกับเวลาที่เราเอ็นดูเด็ก ๆ ก็อยากจะจับแก้มเล่นน่ะ แต่ถ้าเป็นเพื่อนก็จะ
จับก้นแทน”
เดชศักดิ์อธิบายโดยไม่สนใจสีหน้าของเพื่อนสาวทั้งสองที่ยิ้มแหย ๆ ด้วยความสงสารอัลเฟรด ที่ได้ข้อมูลแบบผิด ๆ ไป
“แกให้ข้อมูลเท็จแบบนี้ มันเสียหายไปถึงประเทศชาติเชียวนะ ยัยเดรซ”
นัทธมนเตือนเดชศักดิ์ด้วยภาษาไทยอย่างเหลืออด
“บอกเขาใหม่เลยนะยัยเดรซซี่ ว่าเป็นรสนิยมส่วนตัวของแกคนเดียวไม่เกี่ยวกับวัฒนธรรมคนไทย”
ปัทมากระหน่ำซ้ำเติมอีกคน
เดชศักดิ์กำลังจะอ้าปากตอบโต้เพื่อนทั้งสอง แต่ก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่ออัลเฟรดยิงคำถามมาเสียก่อนว่า
“แล้วคุณเดรซ ต้องจับก้น คุณโซมพัน กับ คุณเอ๋ ด้วยหรือเปล่า”
คำถามนั้นสองสาวถึงกับอึ้งไปด้วยเช่นกัน ก่อนจะแอบไปหัวเราะขบขันกับคำถามซื่อ ๆ ของอัลเฟรด
“ว้าย..ถ้าให้ฉันต้องจับก้นยัยสองคนนั่น ฉันไปแหย่รูแย้เล่นดีกว่ามั้งแฟรงก์”
เดชศักดิ์ออกอาการตุ้งติ้งขึ้นมาทันที
“ก็แน่สิ ยัยเดรซจะจับเฉพาะก้นผู้ชาย”
นัทธมนเผลอบอกอัลเฟรดไปด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“จริงหรือครับ คุณเดรซ ชอบจับเฉพาะก้นผู้ชาย”
อัลเฟรดส่งสายตาล้อเลียนผ่านแว่นกันแดด พร้อมรอยยิ้มขบขัน แต่เดชศักดิ์กลับมองว่าอัลเฟรดพอใจ และไม่ได้รังเกียจตน
“ก็..เอ้อ..ถ้าคุณไม่ชอบฉันไม่ทำก็ได้นะ”
เดชศักดิ์ค้อนแบบผู้หญิง แล้วก็แกล้งเดินบิดก้นทำท่างอนตุ๊บป่องแบบไม่เก็บอาการอีกต่อไป ทำให้อัลเฟรด ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ อัลเฟรดรู้สึกเอ็นดูแกมขบขันมากกว่า เขาไม่เคยมีประสบการณ์กับเพื่อนผู้ชายที่มีลักษณะแบบเดชศักดิ์มาก่อนนั่นเอง จึงไม่ค่อยชินนัก แต่ก็ชอบความตลกสนุกสนานของเดชศักดิ์ อัลเฟรดกำลังคิดว่ามีเพื่อนแปลกประหลาดแบบนี้ไว้สักคนก็ดีเหมือนกันช่วยสร้างสีสันให้กับชีวิต
ในขณะที่เดชศักดิ์แอบระริกระรี้ด้วยความดีใจ คิดว่าอัลเฟรดชื่นชอบสนใจตัวเองจึงคิดที่จะเดินหน้าหาโอกาสลวนลามเขาต่อไป
