18. เจ้าหญิงผู้มุ่งมั่นจะเป็นชายาเจ้าชายอัสเซน
ที่พระราชวังคอลซาเดสของชีคซาบาห์แห่งมัสกัสตา เจ้าหญิงนูรีนยังคงประทับอยู่ที่วังเป็นวันที่สาม ด้วยหวังว่าเจ้าชายอัสเซนจะกลับมาให้เจ้าหญิงได้ทรงเห็นพระพักตร์ให้ชื่นพระทัยบ้าง ทว่า..คนที่กำลังเดินหน้าระรื่นผ่านมาทำให้พระพักตร์ที่เบิกบานของเจ้าหญิงนูรีนต้องเหี่ยวเฉาลงทันใดก่อนจะเชิดพระพักตร์เข้าใส่
“อรุณสวัสดิ์เจ้าหญิงพ่ะย่ะค่ะ”
อัมมานโค้งศีรษะพร้อมส่งยิ้มกล่าวทักทายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหญิงนูรีนกระทันหันแบบไม่ทันตั้งตัว
“หน้าตาของนายนี่มันกวนโมโหจริง ๆ เลยนะ”
เจ้าหญิงไม่ชอบสายตาของเจ้าคนนี้เอาเสียเลย มันเหมือนว่ากำลังมองเจ้าหญิงด้วยความขบขัน ทำให้เจ้าหญิงอดโมโหไม่ได้ทุกครั้งที่เห็นหน้าองครักษ์คนสนิทของเจ้าชาย
อัสเซนคนนี้
“หน้าตาของกระหม่อมก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิดแล้ว จะให้ทำอย่างไรจึงจะพอพระทัยเจ้าหญิงพ่ะย่ะค่ะ หรือว่าจะต้องให้กระหม่อมไปผ่าตัดดึงหน้าให้มีหน้าตาเหมือนเจ้าชายอัสเซน”
“ปากนายก็กวนโมโหพอ ๆ กับหน้าตาทุเรศของนายนั่นแหละ ไปให้พ้นหน้าเดี๋ยวนี้เลยนะก่อนที่ฉันจะทนไม่ได้”
เจ้าหญิงชี้ไล่ด้วยพระพักตร์บึ้งตึง สุรเสียงห้วนดุ อัมมานจึงรีบเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อน!”
เจ้าหญิงหมุนวรกายเรียกอัมมานเสียงดัง แต่อัมมานแกล้งไม่ได้ยิน กลับเดินไปข้างหน้าราวกับจะกลั่นแกล้ง เจ้าหญิงกำพระหัตถ์แน่นสายพระเนตรกราดเกรี้ยวก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลังไปติด ๆ อย่างไม่พอพระทัย
“องครักษ์อวดดี!.ฉันสั่งให้หยุดไม่ได้ยินรึไง หยุด!”
สุรเสียงแหลมปี๊ดนั้นทำให้อัมมานหยุดลงได้ หันหน้ามาสบพระพักตร์บึ้งตึงแววพระเนตรขุ่นเคืองของเจ้าหญิงนูรีน
“นายหูหนวกไม่ได้ยินฉันจริง ๆ หรือว่านายแกล้งที่จะไม่ได้ยินกันแน่ นายองครักษ์กระจอก”
“เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ไม่ควรที่จะมายืนคุยกับองครักษ์
กระจอกอย่างกระหม่อมเช่นนี้ให้เสียเกียรตินะพ่ะย่ะค่ะ”
“อย่ามาพูดยอกย้อนฉันนะ!..ถ้าฉันไม่มีเรื่องจะใช้นาย คนอย่างฉันก็ไม่มีทางที่จะมายืนคุยกับคนยะโสโอหังอย่างนายหรอกนะจะบอกให้”
“เจ้าหญิงมีอะไรให้คนกระจอกอย่างกระหม่อมรับใช้หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“นี่..ไม่ต้องมาพูดประชด นายมีหน้าที่รับฟังและทำตามอย่างเดียวเท่านั้น ฉันต้องการให้นายติดต่อกับเจ้าชายอัสเซนให้ฉันเดี๋ยวนี้ บอกว่าฉันมาจากดิมัชก์ มารอเจ้าชายที่วังคอลซาเดสได้สามวันแล้ว” เจ้าหญิงทรงสั่ง
“กระหม่อมเสียใจที่ไม่สามารถติดต่อเจ้าชายให้กับเจ้าหญิงได้” อัมมานโค้งศีรษะแสดงความนอบน้อม
“ทำไม นี่นายกล้าขัดคำสั่งฉันงั้นหรือ”
“กระหม่อมไม่ได้ขัดคำสั่ง แต่เป็นคำสั่งของเจ้าชายที่สั่งกระหม่อมเอาไว้ว่าหากไม่มีธุระจำเป็นก็อย่าโทรไปรบกวน เพราะถึงโทรไป เจ้าชายก็ปิดมือถืออยู่ดีพ่ะย่ะค่ะ”
“งั้นบอกมาว่าตอนนี้เจ้าชายอยู่ไหน ฉันจะไปหาเอง”
“กระหม่อมบอกไม่ได้..มันเป็นความลับ เรื่องความปลอดภัยของเจ้าชายพ่ะย่ะค่ะ”
“ฉันเป็นหลานของท่านชีคกับมเหสีของที่นี่ นายยังกล้าบอกว่าเป็นความลับกับฉันอยู่อีกหรือ”
เจ้าหญิงแทบจะเต้นเร่า ๆ ด้วยความขัดเคืองพระทัยจนอยากจะบีบคอองค์รักษ์คนนี้ให้หายแค้นพระทัยนัก
“กระหม่อมเป็นองครักษ์ของเจ้าชายอัสเซน กระหม่อมทำตามหน้าที่”
“หน้าที่บ้าบออะไรกัน นายแยกแยะไม่ได้รึไงว่าควรจะเก็บความลับแบบนี้กับใคร”
“กระหม่อมไม่สามารถจะแยกแยะได้ ต่อให้จับตัวกระหม่อมไปแขวนคอ กระหม่อมก็ยังยืนยันคำเดิม”
“อ๊าย..ไอ้คนบ้า..ฉันเกลียดหน้านายที่สุด ไอ้องครักษ์ทุเรศ”
เจ้าหญิงกริ้วจนพระพักตร์แดงก่ำ ทรงกำพระหัตถ์แน่นด้วยความอดกลั้นอย่างเต็มที่ ก่อนจะสะบัดพระพักตร์หันขวับจนพระศอแทบหัก ดำเนินกลับทางเดิมด้วยความขุ่นเคืองในพระทัยจนอยากจะหาที่ระบายสักแห่ง เจ้าหญิงเห็นใบไม้แห้งหลุดจากขั้วร่วงลงพื้นดินก็ทรงยกพระบาทกระทืบสองสามครั้งเพื่อระบายอารมณ์อันพลุ่งพล่าน
“อ้าว..นูรีน..เป็นอะไรน่ะเต้นรำท่าใหม่อยู่หรือ”
คำกล่าวทักทายดังมาแต่ไกล ทำให้เจ้าหญิงนูรีน เงยพระพักตร์ไปทอดพระเนตร ทรงเห็นเจ้าชายฮาเฟห์แห่งรัฐโฮดาห์ กำลังดำเนินใกล้เข้ามา เจ้าหญิงจึงรีบหยุดพฤติกรรมที่ทรงทำอยู่ทันทีอย่างไม่สบอารมณ์นัก
ถึงแม้เจ้าชายฮาเฟห์จะทรงเป็นพระญาติเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เจ้าหญิงนูรีนก็ไม่ชอบเชษฐาของเจ้าหญิงไลล่าห์ที่จะมาเป็นคู่แข่งของเจ้าหญิงนูรีนในการคัดเลือกเป็นชายาของเจ้าชายอัสเซนอยู่ดี
“สวัสดีฮาเฟห์ มีธุระอะไรถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”
เจ้าหญิงนูรีนทรงปรับสีพระพักตร์ให้เป็นปกติถามขึ้น
“แล้วเธอล่ะนูรีน มีธุระอะไรถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
เจ้าชายฮาเฟห์ทรงย้อนถามแทนคำตอบ
“ฉันเป็นหลานของท่านลุงท่านป้า จะมาอยู่ที่นี่ตอนไหน เมื่อไหร่ก็ได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องมีธุระ”
เจ้าหญิงทรงตอบด้วยสุรเสียงหงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่ยอมตอบคำถาม แต่ยังมาถามยอกย้อนให้เสียอารมณ์อีก
“ฉันก็เป็นหลานท่านลุงท่านป้าเหมือนกัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมีธุระถึงจะมาได้”
เจ้าชายฮาเฟห์ตอบแบบยอกย้อนพร้อมจ้องพระเนตรอีกฝ่ายอย่างไม่หวั่นเกรง
“คิดหรือว่าฉันจะเชื่อ ถ้าเธอไม่มีธุระมีหรือจะมาด้วยตัวเองแบบนี้” เจ้าหญิงทรงเบ้พระโอษฐ์ใส่
“ฉันจะไปเข้าเฝ้าท่านลุงท่านป้า ไม่อยากจะทะเลาะกับเธอให้เสียอารมณ์ ขอตัวล่ะ”
เจ้าชายฮาเฟห์รีบตัดบท สาวพระบาทออกไปทันที เจ้าหญิงทอดพระเนตรตามด้วยแววพระเนตรขุ่นเคือง
“ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอมาที่นี่ทำไม ถ้าฉันรู้ว่ามาประจบประแจงท่านลุงท่านป้า เพื่อหวังจะมาขอคะแนนให้กับน้องสาวของเธอล่ะก็ น่าดู”
เจ้าหญิงทรงรำพึงด้วยแววพระเนตรวาววับ
