10. เดี๋ยวก็รู้
เมื่อเห็นว่าอัลเฟรดถูกเดชศักดิ์ พาขึ้นห้องพักไปแล้ว นัทธมนก็ชวนปัทมาเดินหาที่นั่งตรงล็อบบี้แถวนั้น แต่ไม่ทันที่จะหย่อนก้นลงนั่ง ก็เห็นพนักงานในชุดฟอร์มโรงแรมคนหนึ่งเดินตามมาด้วย
“ขอโทษนะคะ พวกคุณได้มากับผู้ชายอาหรับคนเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า”
พนักงานสาวคนนั้นเอ่ยถามสองสาวไทย
“ผู้ชายอาหรับ คนไหนคะ” ปัทมาย้อนถาม
“ก็คนที่มากับผู้ชายเอเชียท่าทางตุ้งติ้งคนที่คุยกับพวกคุณเมื่อกี้ไงคะ”
“อ๋อ..ใช่ค่ะ ทำไมหรือคะ”
ปัทมาอดขำไม่ได้ที่พนักงานพูดถึงเดชศักดิ์ว่าตุ้งติ้ง เพื่อนของเธอไม่ได้เก็บอาการอีกแล้ว
“ฉันแค่อยากจะทราบว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครน่ะค่ะ” พนักงานคนนั้นพูดต่อ
“อุ๊ย..คุณสนใจเขาด้วยหรือคะ” นัทธมนถามยิ้ม ๆ
“จะว่าสนใจก็ได้ค่ะ แต่เป็นความสนใจที่มีความสงสัยอยู่ด้วย ฉันสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้หน้าตาเหมือนเจ้าชายอัสเซน พระโอรสของท่านชีคซาบาห์กับพระมเหสีมัสซูเมห์ ราวกับคนคนเดียวกัน” พนักงานคนนั้นพูดให้ฟัง
“คุณว่าอัลเฟรดเหมือนเจ้าชายหรือคะ”
นัทธมนย้อนถามด้วยความสนใจเช่นเดียวกับที่ปัทมาทำหน้าตื่นเต้น
“ใช่ค่ะ..เขาเหมือนเจ้าชายอัสเซนมาก ถ้าให้เขาใส่ชุดแบบที่เจ้าชายอัสเซนใส่ประจำเขาจะยิ่งเหมือนมากทีเดียวค่ะ ฉันจึงอดสงสัยไม่ได้จนต้องเดินมาถามพวกคุณไงคะ เผื่อว่าจะเป็นเจ้าชายอัสเซนปลอมตัวมาเที่ยว”
คำพูดของพนักงานทำให้สองสาวไทยถึงกับมองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น แต่สองสาวก็ไม่เคยเห็นหน้าตาของเจ้าชายอัสเซนมาก่อน จึงไม่สามารถที่จะแสดงความเห็นอะไรได้ บางทีอัลเฟรดอาจจะแค่หน้าเหมือนเท่านั้น
“แต่เท่าที่เราทราบมา คุณอัลเฟรดเป็นนักธุรกิจค่ะ เขาก็แค่มีหน้าตาคล้ายเจ้าชายที่คุณพูดถึงนั่นก็เท่านั้นเอง..”
นัทธมนเป็นคนบอกกับพนักงานสาวคนนั้น
“เรื่องเจ้าชายปลอมตัวฉันเคยอ่านเจอแต่ในนิยายเท่านั้นแหละค่ะ”
ปัทมาแสดงความเห็นอีกคนด้วยความขบขัน
“ฉันคงคิดมากไปจริง ๆ ค่ะ เพราะถ้าเป็นเจ้าชาย อัสเซนจริง ๆ คงไม่มาลำพังเช่นนี้หรอก จะต้องมีองครักษ์คนสนิทคอยอารักขาตลอด แต่ฉันไม่เห็นมีองครักษ์หรือทหาร
นอกเครื่องแบบมาคอยดูแลเจ้าชายเลย..ดิฉันไม่รบกวนพวกคุณแล้วล่ะค่ะ”
พนักงานโรงแรมโค้งศีรษะยิ้มให้กับสองสาวก่อนจะเดินออกไป สองสาวไทยรีบหันหน้ามองตากันแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ พร้อมกัน
“ถ้านิทานเรื่องเจ้าชายปลอมตัวมานี้เป็นจริง ยัยเดรซคงร้องกรี๊ดเลยเนอะ” ปัทมาพูดขึ้นสีหน้าขบขัน
“ใช่ มันคงจะรีบปลุกปล้ำ รวบหัวรวบหางคุณแฟรงก์ทันทีเลยล่ะ จะได้เป็นชายาเจ้าชาย”
นัทธมนผสมโรงด้วยความสนุกสนาน ก่อนที่สองสาวจะชวนกันไปเดินเล่นรอบ ๆ โรงแรมที่พักและพากันกลับขึ้นห้องในเวลาสามทุ่ม
“มากันแล้วหรือครับ ผมคอยคุณตั้งนาน”
อัลเฟรดเอ่ยกับนัทธมนเมื่อเดินมาเปิดประตูห้องให้กับสองสาว เขาอาบน้ำตัวหอมฟุ้งด้วยน้ำหอมกลิ่นประจำตัว และเปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดผ้าเนื้อดีสีขาวสะอาดตาแขนยาวกับกางเกงผ้ายืดขายาวสีเดียวกัน ตอนนี้เขาถอดแว่นตากันแดดออกแล้ว จึงมองเห็นดวงตาหวานซ่อนความคมวาวเป็นประกายที่มีขนตางอนดำราวกับดวงตาของสาวสวย ทำให้สองสาวยืนอึ้งไปกับภาพความดูดีมีเสน่ห์ของอัลเฟรดในอีกอิริยาบถหนึ่งด้วยความเผลอไผล จนอัลเฟรดต้องปลุกภวังค์สองสาว
“คุณส้ม คุณเอ๋..เป็นอะไรกันไปหมดครับ”
เสียงของอัลเฟรดทำให้สองสาวยิ้มแหย ๆ ด้วยความขวยเขินที่พวกตนเผลอจ้องมองเขาอยู่ จึงรีบพากันเดินเข้าไปข้างในห้องอย่างรวดเร็ว อัลเฟรด ปิดล็อคประตูแล้วเดินตามสองสาวเข้าไป
“เดรซเข้านอนแล้วหรือคะ”
นัทธมนกวาดตามองเดชศักดิ์ไปทั่วห้องรับแขก
“คุณเดรซบ่นว่าท้องเสียครับ ผมเห็นเขาเข้าออกห้องน้ำหลายรอบแล้ว ตอนนี้ก็เพิ่งจะเข้าห้องน้ำไปอีก ถ้าผมนับไม่ผิดน่าจะครั้งที่หกแล้วครับ” อัลเฟรดบอกด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
“งั้นคืนนี้ คุณแฟรงก์ก็รอดจากการตกเป็นของยัยเดรซน่ะสิ เพราะยัยเดรซหมดแรงจากท้องเสียซะก่อน”
ปัทมาหันไปพูดหยอกเย้าด้วยภาษาไทยกับนัทธมน แล้วทั้งคู่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นเดชศักดิ์เดินโซซัดโซเซกุมท้อง
ตัวงอ อย่างคนอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเข้ามา.............
“ช่วย..ด้วย..”
เดชศักดิ์ส่งเสียงอ่อนระโหยโรยแรงให้ทุกคนหันไปมอง นัทธมนรีบเดินเข้าไปประคองเดชศักดิ์ให้มานั่งที่โซฟายาว เดชศักดิ์หงายหลังแผ่หลาอย่างหมดแรงสีหน้าซีดเซียว
“เดี๋ยวผมจะไปชงน้ำเกลือแร่มาให้นะเดรซ”
อัลเฟรดรีบลุกไปจัดการตามที่พูดด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสภาพเดชศักดิ์
“เดรซ...เป็นไงบ้าง โธ่..คืนนี้แกจะรอดไหมเนี่ย”
นัทธมนยื่นมือไปตบไหล่เพื่อนเบา ๆ ด้วยความห่วงใย
“แกอย่าเพิ่งเป็นอะไรตอนนี้นะโว้ยยัยเดรซ..พวกฉันไม่มีปัญญาพาศพแกกลับเมืองไทยหรอกนะ คงต้องเผาที่ซีนาเบียแล้วเอาแต่เถ้ากระดูกกลับไปให้พ่อกับแม่แกทำบุญให้”
ปัทมาเดินเข้ามาพูดกรอกหูคนป่วยแบบห่วงแกมหยอก
“ถ้าฉันมีแรงยกมือได้ ฉันจะตบแกให้ไขมันละลายเลยยัยหมูอู๊ดอู๊ด..,ฉันไม่ตายง่าย ๆ หรอกย่ะ ตราบใดที่ฉันยังไม่ได้คุณแฟรงก์เป็นสามี..ยังไงคืนนี้คุณแฟรงก์เสร็จฉันแน่”
เดชศักดิ์หลับตาพูดแบบคนที่พยายามเปล่งเสียงออกมา ทำให้สองสาวถึงกับหัวเราะก๊าก
“แรงจะตบฉันยังไม่มี แล้วแกจะเอาแรงที่ไหนไปไล่ปล้ำคุณแฟรงก์ได้วะ”
ปัทมาส่ายหัวยิ้ม ๆ
“คืนนี้ฉันขอแค่นอนกอดเขาเฉย ๆ ก่อนก็ได้ ตอนนี้พวกแกสองคนไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวคุณแฟรงก์ก็จะมาปรนนิบัติฉันเอง”
เดชศักดิ์ไล่เพื่อนให้ออกไปจากห้องรับแขก
“แน่ใจนะว่าไม่เป็นไรแล้ว” นัทธมนยังอดห่วงไม่ได้
“แน่ใจสิ คุณแฟรงก์ให้ยาแก้ท้องร่วงฉันกินไปแล้วล่ะ” เดชศักดิ์ปรือตาพูด
“งั้นเราไปอาบน้ำนอนกันเถอะเอ๋” นัทธมนหันไปพยักหน้าให้ปัทมาลุกขึ้น
“แล้วพวกแกสองคนก็อยู่แต่ในห้องนอนจนถึงเช้านะยะ ห้ามออกมาเพ่นพ่านแถวนี้”
เดชศักดิ์รีบกำชับเมื่อเพื่อนทั้งสองทำท่าจะเข้าห้องส่วนตัว ปัทมาค้อนคนพูดด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเดิน
นำหน้านัทธมนเข้าไปในห้องอย่างเซ็ง ๆ
