บทที่ 8
แม่ทัพจางเซียนหยวนไม่สนใจมือเล็ก ๆ ที่พยายามจะลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกกว้างของตัวเองเพื่อปลุกอารมณ์แม้แต่น้อย เพราะว่าตอนนี้หูของเขากำลังเงี่ยฟังห้องข้าง ๆ คุยกันอย่างตั้งใจ
ริมฝีปากหยักยกขึ้นมาเมื่อได้ยินคำว่าการใหญ่ ก่อนจะโบกมือเป็นสัญญาณให้หูพาพาตัวหญิงคณิกาที่พยายามเรียกร้องความสนใจจากตัวเขาให้ออกจากห้องไป
“เตรียมตัวงั้นรึ เหอะ สั่งคนของเราจับตาดูจ้าวจื่อหาน ซุนลู่หยุน แล้วก็หลี่หย่วนเจ๋อไว้อย่าให้คาดสายตา เก็บรายละเอียดทุกเรื่องมารายงานข้าอย่าให้ตกหล่นแม้แต่น้อย”
“ขอรับ”
เมื่อเสียงห้องซึ่งอยู่ข้างกันเริ่มเหลือแต่เสียงหญิงสาวหัวเราะต่อกระซิกกับเหล่าชายวัยกลางคนทั้งสี่ จางเซียนหยวนก็ผุดลุกขึ้นเดินนำหูสุนและหูพาออกมาจากห้องส่วนตัวดังกล่าว เดินออกมาด้านนอกทิ้งหอมวลบุปผาแห่งนั้นไว้เบื้องหลัง
หลังจากที่อ๋องอู๋ติ้งเกาบอกว่าจะต้องใช้เงินอีกมหาศาล บ้านตระกูลจ้าวที่การค้าธัญพืชนั้นได้รับผลกระทบจากฝนและแมลงก็เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง
จ้าวจื่อหานยืนมองไพ่นกกระจอกที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องโถงเรือนหลักอย่างใช้ความคิด เขารู้มาว่าน้องเขยอย่างเถ้าแก่หยางหลิงเซ่อนั้นชอบเล่นการพนันเป็นชีวิตจิตใจ
แต่หากจะให้ได้ทรัพย์สินของเถ้าแก่หยางมานั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าใดนัก เห็นทีเรื่องนี้เขาคงจะต้องปรึกษากับท่านอ๋องหน่อยเสียแล้ว
“ข้อเสนอของเจ้าช่างน่าสนใจจริง ๆ เถ้าแก่จ้าว หึแล้วท่านคิดว่าอย่างไรเถ้าแก่หลี่”
หลี่หย่วนเจ๋อที่ได้รับข้อเสนอเป็นตัวบุตรสาวของเถ้าแก่หยางหลิงเซ่อแสนสวยผู้นั้น มีหรือว่าพ่อเล่าอย่างเถ้าแก่หลี่นั้นจะคิดปฏิเสธ คุณหนูหยางอิงฮวาผู้นั้นงามซะจนเป็นที่คลั่งไคล้ของใครต่อใคร
หากว่าได้นางมาเป็นหญิงคณิกาประดับหอมวลบุปผาของเขาได้จริง ๆ แล้วล่ะก็งานนี้รับรองว่าเขาจะหารายได้ได้
อีกมหาศาลเชียวล่ะ
“ข้าตกลงขอรับ ข้าเคยเห็นคุณหนูหยางแล้วขอรับท่านอ๋อง นางช่างเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์เหลือล้น หากได้นางมาประดับที่หอมวลบุปผาก็คงจะดีไม่น้อยขอรับ”
ทั้งสามคนร่วมกันวางแผนฮุบกิจการบ้านตระกูลหยางจนเบ็ดเสร็จ โดยทำข้อตกลงกันว่าทรัพย์สินเงินทองนั้นจะตกเป็นของอ๋องอู๋ติ้งเกาเจ็ดส่วน ให้จ้าวจื่อหานสามส่วน และส่วนตัวของหยางอิงฮวานั้นยกให้หลี่หย่วนเจ๋อ
ซึ่งอ๋องอู๋ติ้งเการู้ดีว่าบ้านตระกูลหยางนั้นค้าขายมานานทรัพย์สินจึงมีมากตามไปด้วย การจะให้เถ้าแก่หยางยอมเอา
ทุกอย่างมาพนันด้วย เห็นทีเขาจะต้องสร้างข้อเสนอที่น่าสนใจกว่าทรัพย์สินขึ้นมาเสียหน่อยแล้ว
บ้านตระกูลหยาง
“ท่านพี่เจ้าคะ ท่านได้ยินข่าวลือเรื่องสัมปทานค้าเกลือหรือยังเจ้าคะ”
จ้าวเซิ่งเหม่ยพูดขึ้นมาขณะที่กำลังบีบแขนบีบไหล่ให้ชายวัยกลางคนอย่างเอาอกเอาใจ ขณะเดียวกันสายตาก็ลอบสังเกตใบหน้าผู้เป็นสามีไปด้วย
“ข้าก็ได้ยินมาบ้างเหมือนกันว่าจะมีสัมปทานค้าเกลือ”
ชายวัยกลางคนที่นั่งหลับตาพริ้มส่งเสียงอืออาในลำคอออกมาอย่างผ่อนคลาย เมื่อภรรยาที่ยังดูสาวและสวยบีบนวดเอาใจได้ถูกจุด ในใจก็นึกโลภอยากได้สัมปทานการค้าเกลือมาอยู่ในมือตนไม่น้อยเหมือนกัน
“พี่ชายของข้าบอกว่างานนี้ท่านอ๋องอู๋ติ้งเกาเป็นคนรับผิดชอบเจ้าค่ะ ท่านพี่สนใจไหมเจ้าคะ น้องจะช่วยพูดกับท่านพี่ให้”
เสียงอ่อนเสียงหวานกระซิบข้างใบหูของผู้เป็นสามีเสียงเบาทำท่าทางราวกับว่ากลัวใครจะได้ยินความลับนี้
หยางหลิงเซ่อได้ยินจ้าวเซิ่งเหม่ยบอกแบบนั้นก็ดวงตาลุกวาว รีบหันไปตกลงทันทีโดยไม่มีท่าทางลังเลแม้แต่น้อย
ด้วยความโลภประกอบกับความดีใจที่จะสามารถขยายเส้นทางการค้าของตัวเองได้เกินกว่าที่หวัง หยางหลิงเซ่อซึ่งมัวแต่นึกวาดฝันถึงทรัพย์สมบัติที่จะได้มาในอนาคต จึงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าของคนที่ยืนเบื้องหลังตนแม้แต่น้อย