บทที่ 2
นางมองดูดอกไม้อย่างเพลิดเพลิน จนกระทั่งเริ่มก้าวเท้าเข้าสู่ช่วงแคบที่สุดของทางเดินทั้งหมด หยางอิงฮวาก็พยายามทำตัวให้ลีบแบนมากที่สุดเพื่อให้ตัวเองผ่านจุดนั้นออกมาให้ได้โดยไม่แตะตัวกับใคร
แต่แล้วในจังหวะนั้นกลับมีมือหนาของใครบางคนตะบบลงตรงสะโพกผึ่งผายของนางพร้อมกันนั้นยังขยำเบา ๆ ดวงตากลมโตดุจเม็ดแอลมอนด์เบิกกว้างฉายแววเอาเรื่องขึ้นมาทันใดด้วยความโกรธ
เมื่อก้าวพ้นจากจุดที่แออัด อารามความโกรธและรีบร้อนที่มีคนบังอาจล่วงเกินทำให้หยางอิงฮวาซึ่งอยู่ในชุดรัดติ้วต้องการจะหันไปเอาเรื่องกับคนที่แอบจับสะโพกของตน แต่ดันมีคนเดินสวนมาชนเข้ากับไหล่บางทำให้เท้าของนางเกิดสะดุดพันกัน
“ว้าย!”
“คุณหนูระวังเจ้าค่ะ!”
เสียงของเหลียงอิ๋งอิ๋งซึ่งอยู่ไม่ไกลดังขึ้น หมายจะยื่นมือมาคว้าข้อมือของเจ้านายตนไม่ให้ล้มคะมำลงไปกับพื้น แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้วเมื่อเด็กสาวเอื้อมไปไม่ถึงข้อมือเล็กนั้น
ชั่วขณะที่ร่างบางไร้การควบคุมล้มลงสู่พื้นที่ถูกกรุด้วยหินแม่น้ำเบื้องหน้า นางหลับตาปี๋เตรียมรับแรงกระแทก
แต่แล้วทันใดนั้นก็ได้มีมือหนาคู่หนึ่งเอื้อมมาคว้าร่างของอิงฮวาไว้ได้อย่างฉิวเฉียด
ร่างของหยางอิงฮวาตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของใครบางคน เพราะหญิงสาวถูกดึงรั้งไว้จึงต้องเอนกายพิงไปกับ
อกกว้างซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามตามแรงดึงอย่างช่วยไม่ได้ก่อนที่นางจะได้สติขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าตอนนี้มือใหญ่คู่นั้นกำลังจับอยู่ที่ทรวงอกหยุ่นของตนแน่น
“ว้าย! อะไรกันเนี่ย”
หยางอิงฮวารีบผละเด้งกายออกมาจากการพิงอกแกร่ง พร้อมกันนั้นก็หันกลับไปตวัดฝ่ามือบางเข้ากระทบกับแก้มสากของคนที่จับหน้าอกของตนด้วยความเดือดดาลทันที
“คุณหนูอย่าเจ้าค่ะ!”
เหลียงอิ๋งอิ๋งเห็นว่าเจ้านายของตนโกรธจัดแล้วทำท่าจะโผเข้าไปฝากรอยฝ่ามือไว้ที่แก้มสากของชายที่ช่วยไว้ไม่ให้ล้มอีกครั้งก็รีบเข้ามาขวางไว้
“หึ ทำคุณบูชาโทษ”
ดวงตาคมฉายแววล้ำลึกจ้องมองใบหน้างามนิ่งก่อนจะแค่นเสียงออกมาพลางเอาลิ้นดุนริมฝีปากหยักของตนอย่างไม่
สบอารมณ์ที่โดนตบ
จางเซียนหยวนฉุนกึกเมื่อรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้าคงคิดไปแล้วว่าเขานั้นเป็นคนโรคจิตที่ตั้งใจจะล่วงเกินนาง ทั้ง ๆ ที่เขาช่วยนางเอาไว้แท้ ๆ
“นี่! ท่านพูดอะไรห้ะ ท่านจับหน้าอกข้า แล้วก่อนหน้านั้นอีกอย่าให้ข้าได้พูด แค่ตบมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ อิ๋งอิ๋งปล่อยข้า”