บทที่ 10
ทั้งสองคนก้าวลงมาจากรถม้ายังไม่ทันยืนดีก็มีนางคณิกาสองคนรีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับเป็นอย่างดี ช่วยให้หยางหลิงเซ่อรู้สึกลำพองราวกับว่าตัวเองนั้นเป็นแขกคนสำคัญในวันนี้
และยิ่งไปกว่านั้นตลอดทางที่ทั้งสองสามีภรรยาเดินผ่านเพื่อไปยังห้องรับรองพิเศษบรรดาหญิงคณิกาก็พากันออกมายืนรอต้อนรับอย่างถ้วนหน้า ทำเอาหยางหลิงเซ่อถึงกับหน้าบานนึกหลงระเริงไป
“ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะเถ้าแก่หยาง อนุจ้าว”
เสียงใส ๆ ของเหล่าหญิงคณิกาหอมวลบุปผาร้องทักทั้งสองสามีภรรยาไปตลอดทางดังเซ็งแซ่ไม่หยุด
งานใหญ่วันนี้ หลี่หยวนเจ๋อเลือกใช้ห้องรับรองที่สวยงามที่สุดเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
โต๊ะอาหารกลางห้องมีอาหารรสเลิศวางอยู่มากมายละลานตา หยางหลิ่งเซ่อที่ก้าวเข้ามาในห้องถึงกับแววตาพราวระยับด้วยความถูกใจ
ช่างลงทุนกันเสียจริง จ้าวเซิ่งเหม่ยยกยิ้มมุมปากชอบใจในแผนการของพี่ชายก่อนจะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว
“เชิญ ๆ เถ้าแก่หยาง น้องเขยของข้า”
ทันทีที่ประตูห้องรับรองเปิดออกจ้าวจื่อหานก็กุลีกุจอปรี่เดินยิ้มกว้างมาต้อนรับเถ้าแก่หยางหลิ่งเซ่อน้องเขยของตนพลางเชื้อเชิญอีกฝ่ายไปนั่งยังโต๊ะที่จัดเตรียมไว้อย่างหรูหรา
หยางหลิ่งเซ่อนั่งลงโดยมีจ้าวเซิ่งเหม่ยนั่งลงข้างกันตรงกันข้ามกับจ้าวจื่อหาน
“ข้าไม่ได้เลี้ยงมื้อใหญ่พวกเจ้าก็นานแล้ววันนี้มาดื่มกันให้เต็มที่ไปเลยนะเถ้าแก่หยาง ฮ่า ๆ”
มือที่เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลาของจ้าวจื่อหานยกไหสุราขึ้นมารินให้กับหยางหลินเซ่อและจ้าวเซิ่งเหม่ย พวกเขาพูดคุยกันไปหัวเราะกันไปอย่างถูกคอ
โดยมีจ้าวเซิ่งเหม่ยคอยพูดเสียงหวานประจบผู้เป็นสามีให้นึกลำพองตนว่าเป็นคนสำคัญอยู่ตลอดเวลา
“ท่านพี่ของข้าเก่งอยู่แล้วเจ้าค่ะพี่ชาย เขาทำงานหนักมากเลยนะเจ้าคะ ถ้าได้สัมปทานการค้าเกลือมาจริง ๆ ก็คงจะดีไม่น้อยทีเดียว”
“แหมเซิ่งเหม่ยเจ้าก็พูดเกินไปนะ ฮ่า ๆ ”
สองพี่น้องแอบสบตากันไม่ให้หยางหลิงเซ่อที่แทบจะตัวลอยเห็น ก่อนที่จ้าวเซิ่งเหม่ยจะพยักหน้าส่งสัญญาณให้พี่ชายเมื่อสังเกตเห็นว่าส่ามีของตนนั้นเริ่มเมาได้ที่แล้ว
“เถ้าแก่หยางวันนี้ข้าเตรียมอะไรไว้ให้เจ้าดูด้วยล่ะนะ ข้าคิดว่าเจ้าต้องชอบอย่างแน่นอน เข้ามาสิ”
เมื่อจ้าวจื่อหานให้สัญญาณนักพนันซึ่งหลี่หย่วนเจ๋อเตรียมไว้ให้ก็เปิดประตูก้าวเข้ามาในห้องรับรองแห่งนั้น
นักพนันทั้งสองคนแต่งกายด้วยชุดฮั่นฝูดูดีมาก ท่าทางดูน่าเชื่อถือเดินเข้ามาหยุดยืนข้างโต๊ะซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น
“สองคนนี้เล่นไพ่นกกระจอกเก่งมากข้าเลยอยากให้น้องเขยได้ชมการเล่นที่แสนจะเหนือชั้นเสียหน่อยน่ะ เอาล่ะ
พวกเจ้าแสดงฝีมือให้พวกข้าได้ดูหน่อยสิ”
การเล่นไพ่นกกระจอกโดยนักพนันทั้งสองคนที่ฝีมือสูสีกันมาก โดยมีคนหนึ่งที่ฝีมือการเล่นถูกใจหยางหลิงเซ่อสุด ๆ จนกระทั่งจบไปหนึ่งตา
“พี่เขยงั้นพวกเรามาพนันกันหน่อยไหม”
หยางหลิ่งเซ่อที่ได้ดูการเล่นไพ่นกกระจอกของนักพนันทั้งสองคนแล้วเลือดในกายก็เริ่มจะสูบฉีด นึกตื่นเต้นอยากพนันขันต่อกับจ้าวจื่อหานขึ้นมาบ้างแล้ว
“เอาสิ แล้วเจ้าจะพนันอะไรล่ะ”
การพนันขันต่อระหว่างหยางหลิ่งเซ่อและจ้าวจื่อหานเริ่มต้นขึ้นตามแผนการของสองพี่น้องสกุลจ้าว ผ่านไปแล้วสามตาหยางหลิ่งเซ่อก็ยิ่งนึกลำพองขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขานั้นพนันชนะทุกตา
นักพนันคนที่เถ้าแก่หยางเลือกนั้นไหวพริบเด็ดขาดทำให้เขาไม่เสียพนันแม้แต่ตาเดียว การพนันจึงเริ่มเป็นสิ่งที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามไปด้วยจนกระทั่งจ้าวจื่อหานพูดขึ้นมา
หัวใจของหยางหลิ่งเซ่อตกหลุมพรางเชื่อใจในตัวนักพนันผู้นั้นไปแล้วเต็มเปา ยิ้มกระหยิ่มด้วยความโลภบังตา
“เจ้าอยากได้สัมปทานค้าเกลือนี่ ถ้าอย่างนั้นตาสุดท้ายเรามาพนันกัน ถ้าเจ้าชนะตานี้ข้าจะคุยกับท่านอ๋องให้เจ้ามีกรรมสิทธิ์ค้าเกลือแต่เพียงผู้เดียว แต่หากเจ้าแพ้เจ้าจะต้องยกสมบัติทั้งหมดให้ข้า รวมถึงคุณหนูหยางด้วย ว่าไงน้องเขยตกลงไหม”