บทที่: 7 โดนบ่นหูชา
หลังจากเหตุการณ์สงบลง ไฟถูกดับจนหมด เหล่าคนใช้ต่างพากันนั่งลงอย่างเหนื่อยหอบภายในห้องครัวที่สภาพราวกับเพิ่งผ่านสนามรบมา ในนี้ไม่เหลืออะไรที่พอจะใช้ได้อีกแล้ว
หญิงสาวร่างบางที่ใบหน้าและเนื้อตัวเปื้อนดำไปด้วยเขม่าควัน นั่งคุกเข่าทำหน้าสลดอยู่กับพื้นพร้อมกับสาวใช้อีกสองคน
ลี่เจาเดินไปเดินมาจ้องมองอย่างคาดโทษ
"นี่เจ้าเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก ไม่พอใจอะไรถึงขนาดเผาครัวเลยเหรอหะ "
"เปล่านะ ข้าไม่ได้จะเผาครัว ท่านเข้าใจผิดแล้ว ที่จริง ข้าแค่จะทำ.." หมิงเวยพน
ยายามอธิบาย แต่ชายหนุ่มไม่ฟัง
"หุบปาก ตั้งแต่เจ้าเข้ามาในจวน ก็สร้างปัญหาไม่เว้นแต่ละวัน ไม่เคยทำตัวให้มีประโยชน์ วันๆเอาแต่ดุด่าว่าร้ายผู้อื่น ไม่พอใจใครก็สั่งโบย แล้วนี่ถึงขนาดเผาครัวเลยเหรอ อีกหน่อยก็คงจะเป็นจวนของข้าสิ่นะ เจ้านี่นับวันยิ่งเลวร้ายขึ้นไปทุกที "
หมิงเวยได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกโมโห เธอยืนขึ้นและจ้องหน้าเขา "ในเมื่อคิดว่าข้าเป็นคนแบบนั้น ต่อไปก็ไม่ต้องมาถามให้เสียเวลาหรอก ข้าจะบอกให้นะ ขนาดข้าที่เป็นนักเขียน ยังปะติดปะต่อเรื่องได้ไม่เก่งเท่าเจ้าเลย พวกเจ้าลุกขึ้น กลับจวนกับข้า นั่งให้เจ็บเข่าไปทำไมไม่รู้ เสียเวลา หลีกไป "
หมิงเวยระเบิดอารมณ์ ใส่เป็นชุด ก่อนจะเดินออกไปอย่างหัวเสีย
"องค์ชาย" ชางฉีชี้ไปที่หม้อต้มซุปที่มีไก่ดำและสมุนไพรมากมายอยู่ในนั้น อีกทั้งมีคากิทอดที่ยังคาอยู่ในกระทะ ลี่เจามองแล้วสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อครู่ก็อ่อนลง
จวนบุปผา ที่พักของ พระชายาชิงหลิว
"พระชายา สงบพระทัยก่อนเพคะ " สวีหรันเอ่ย
"น่าโมโหนัก" หมิงเวยนึกถึงชั่วโมงก่อน "พระชายาจะทำอะไรเพคะ"
"เข้าครัวก็ต้องทำอาหารสิ่ "
"ทรงป่วยไปแล้วเหรอเพคะ "
"ข้าปกติดี นี่ๆ เจ้าช่วยข้าตั้งไฟที เดี๋ยวข้าจะต้มซุปไก่ดำ เจ้าลี่เจานั้นจะเคยกินหรือเปล่านะ ข้าจะใจดี ต้มเผื่อสักถ้วยแล้วกัน อ๊า ขาหมู อยู่ที่นั่นข้าชอบกินขาหมูเยอรมันที่สุด งั้นเอามาทอดให้หนังกรอบๆกินกับน้ำจิ้มรสเด็ดแล้วกัน เจ้าลี่เจานั่นได้กินแล้วจะต้องอึ้ง " และจากนั้นก็อึ้งเลย อึ้งจริงๆ ตั้งน้ำมันอยู่ดีๆ ไม่รู้ไปทำอีท่าไหน ไฟก็ลุกโชนขึ้นมา แล้วก็ไหม้ครัววอดวายอย่างที่เห็น !
"น่าหงุดหงิดชะมัด เจ้าลี่เจานั่นคิดมาได้ยังไงว่าข้าจะเผาครัว ข้าเนี่ยนะจะเผาครัว เหอะ ! ซื่อบื้อ "
"แต่ว่า เมื่อก่อน ท่านก็เคยคิดแบบนี้นะเจ้าคะ"
"เอิ่ม ! เมื่อก่อนก็เมื่อก่อนสิ่ ตอนนี้คือตอนนี้"
หมิงเวยรีบยกน้ำขึ้นดื่มกลบเกลื่อน
3 ชั่วโมงผ่านไป หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หมิงเวยก็ออกมาเดินเล่นในสวน มือบางหยิบอาหารปลาขึ้นมาโยนลงไปในบ่อ พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
"เจ้าดูสิ่ วันนี้พระชายาป่วยหรือเปล่า "
"นั่นสิ่ คนอย่างพระชายาเนี่ยนะจะให้อาหารปลา วันก่อนยังให้ข้าเอาปลาไปต้มให้องค์ชายกิน จนองค์ชายท้องร่วงไปสามวันเต็มๆจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะนางโมโหที่ปลากระโดด แล้วน้ำกระเด็นใส่ แต่วันนี้กลับให้อาหารปลา ดูรอยยิ้มของนางสิ่ ข้าล่ะขนลุกไปหมด"
คนใช้แอบมองหมิงเวยแล้วซุบซิบกัน
หมิงเวยที่เหลือบไปเห็นพอดีก็ยิ่งยิ้มขึ้นไปอีก เพราะคิดว่าพวกเขาชื่นชมตน "สวีหรัน เจ้าดูสิ่ คนพวกนั้นกำลังมองข้าอย่างชื่นชม ข้ายิ้มจนเหงือกแห้งหมดแล้วเนี่ย เจ้าดูสิ่ ดู"
"แต่บ่าวว่า สายตาของพวกนั้น มองท่านอย่างประหลาดใจมากกว่านะเพคะ"
หมิงเวยหุบยิ้ม "ก็แค่ให้อาหารปลา มีอะไรให้ประหลาดใจกัน "
"ท่านน่ะชอบของพวกนี้ที่ไหนล่ะเจ้าค่ะ วันก่อนยังให้เอาดินมากลบบ่อ เพราะไม่ชอบปลาเหล่านี้อยู่เลย แต่วันนี้ท่านมาให้อาหารปลา ใครจะไม่ประหลาดใจบ้างล่ะเจ้าคะ"
"ชิ ! เดี๋ยวๆ นี่เจ้า ขาไม่ดียังต้องทำงานอีกเหรอ "
หมิงเวยมองสาวใช้ที่เดินกะเพกๆอยู่ข้างบ่อน้ำ
"คาราวะพระชายา" สาวใช้ทำความเคารพด้วยใบหน้าซีดเผือด
"มาๆ นั่งพักก่อน ขาเจ้าไม่ดี ก็ยังต้องมาทำงานอีกเหรอ "
"เพคะ" สาวใช้ตอบด้วยความหวาดหลัว
" นี่มันโรงงานนรกชัดๆ หน็อย ! เจ้าลี่เจา เจ้าคนอำมหิต เจ้ากลับไปพักเถอะ ข้าจะไปสั่งสอนคนใจร้ายให้เอง "
"พระชายาเพคะ ข้าว่าท่านไม่ต้องไปหรอกเพคะ" สวีหรันกล่าว
"เจ้าไม่ต้องห้ามข้า เรื่องอื่นข้ายอมได้ แต่การที่มารังแกสตรีเช่นนี้ ข้ารับไม่ได้ คนอย่างชิงหลิวไม่เคยกลัวใคร วันนี้ข้าจะต้องสั่งสอนเขาให้รู้สำนึก "
หมิงเวยเดินมุ่งหน้าไปยังจวนของลี่เจาทันที "พระชายา ช้าก่อนเพคะ ! " สวีหรันรีบวิ่งตามไป
