บทที่ : 8 ยืนด่าตัวเอง
จวนเมฆา
"ลี่เจาอยู่ข้างในใช่ไหม ไปบอกว่าข้ามีเรื่องจะคุยด้วย " หมิงเวยถาม
"พระชายา องค์ชายทรงอ่านหนังสืออยู่ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าพบพะยะค่ะ" ชางฉีตอบ
"หลีกไป ! " หมิงเวยไม่ยอม
"พระชายา กลับกันเถอะเพคะ" สวีหรันบอก
"ข้าไม่กลับ วันนี้ข้าจะต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง ลี่เจาเจ้าลูกเต่า ออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้นะ ลี่เจา" หมิงเวยตะโกนเรียกอย่างไม่ยอมแพ้
"พระชายา ! องค์ชาย" ชางฉีและสวีหรันช่วยกันห้ามก่อนจะทำความเคารพองค์ชายหน้าเย็นที่เดินออกมา
"ออกมาได้สักทีนะ" ลี่เจามองหญิงสาวที่ทำหน้าบึ้งตึงขึงขังอยู่ตรงหน้า
"เจ้ามาโวกเวกโวยวายอะไรหน้าจวนของข้า"
"ลี่เจา ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นพระเอกของเรื่องนี้ ถึงข้าจะสร้างให้เจ้ามีนิสัยเย็นชา แข็งกร้าว แต่ว่าเรื่องบางเรื่องเจ้าก็ควรจะ มีน้ำใจหน่อยไหม ควรจะเห็นใจผู้อื่นบ้าง
สาวใช้ในจวนขาเจ็บ ถึงขนาดเดินยังไม่ไหว ต้องใช้ไม้เท้าพยุง เจ้ายังใช้ให้ทำงานงกๆ ข้าเป็นสตรีแท้ๆเห็นแล้วยังรู้สึกละอายใจ แต่เจ้าเป็นถึงองค์ชายไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลยเหรอหะ " หมิงเวยด่าทอออกมายืดยาว
แต่ชายหนุ่มกลับยืนกอดอกฟังอย่างนิ่งเฉย
"ข้าด่าเจ้าขนาดนี้ยังไม่สำนึกอีกเหรอหะ หน้าด้าน ! "
"พระชายา " สวีหรันสะกิดแขนหมิงเวยให้หยุดพูด
"เจ้าไม่ต้องห้ามข้า คนแบบนี้ต้องโดนด่าให้หนัก แนะ ! ยังจ้องหน้าข้าด้วยสายตาแบบนี้อีก เจ้าอยากมีเรื่องใช่ไหมหะ ได้ ด้ายย" หมิงเวยถกแขนเสื้อขึ้นออกลูกนักเลง
ลี่เจาถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย "เจ้าเล่าความชั่วของตัวเองจบหรือยัง"
"พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง"
"อุตส่าห์ถ่อมาถึงจวนของข้า เพื่อป่าวประกาศความหน้าเลือดของตัวเองให้ข้าฟัง คนอะไรหน้าหนาจริงๆ ข้าเป็นบุรุษยังรู้สึกละอายแทน "
ปึง ! หมิงเวยถูกลี่เจาปิดประตูใส่หน้า
หมิงเวยที่อึ้งจนอ้าปากค้างก็หันมามองสวีหรัน "นี่มันอะไรกัน ข้าตั้งใจมาด่าเขา แต่ทำไมกลายเป็นว่าข้ามายืนด่าตัวเองซะงั้นล่ะ "
"ข้าบอกท่านแล้วว่าอย่ามา ที่สาวใช้คนนั้นขาหักไม่ได้เป็นเพราะองค์ชายหรอกนะเพคะ แต่เป็นเพราะว่าหยิบปิ่นปักผมให้ท่านผิดอัน ท่านเลยสั่งลงโทษตีนางจนขาหัก แล้วที่ยังต้องทำงานทุกวัน ก็เพราะท่านสั่งว่า ไม่ว่าจะขาหักหรือแขนหลุดก็ต้องทำงานต่อไป ห้ามหยุดพัก ไม่งั้นจะลงโทษอีก ท่านลืมไปแล้วหรือเจ้าคะ "
"คุณพระ ! ข้าโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วทำไมเจ้าไม่รีบบอกข้า หน้าของข้าแตกเป็นเสี่ยงๆจนเก็บไม่ไหวแล้วเนี่ย "
"ข้าบอกแล้ว แต่พระชายาฟังข้าที่ไหนล่ะเจ้าคะ เอาแต่โมโหจนหน้ามืด เดินมาให้องค์ชายหัวเราะเยาะเปล่าๆ"
"จะเป็นลม เจ้าช่วยพยุงข้ากลับจวนที ข้ายืนต่อไปไม่ไหวแล้ว "
สวีหรันประคองหมิงเวยกลับจวน
"นางไปหรือยัง"
"ไปแล้วพะยะค่ะ องค์ชาย ข้าน้อยว่า ช่วงนี้พระชายาดูแปลกไปนะขอรับ"
"แปลกยังไง"
"ข้าว่านางดูจะมีน้ำใจกับคนอื่นมากขึ้น ไม่ดุด่าตบตีบ่าวไพร่เหมือนแต่ก่อน ข้าถามคนที่ครัวมาว่าก่อนที่ไฟจะไหม้นั้น นางเข้าไปทำอะไร ท่านเชื่อไหมว่า นางเข้าไปทำอาหารเอง ก่อไฟเอง หั่นผักเอง แล้วยังบอกอีกว่าจะทำมาให้ท่านด้วย ท่านรู้ไหม ว่าอาหารนั้นคืออะไร ซุปไก่ดำกับยาจีน และคากิทอด ปกตินางไม่เคยจะใส่ใจทำอะไรให้ผู้ใด อย่าว่าแต่ทำอาหารเลย แค่เหยียบไปที่โรงครัวยังไม่เคย ท่านว่าแปลกใช่ไหมล่ะ ถึงแม้เมื่อก่อน นางชอบให้คนทำอะไรแผงๆมาให้ท่านกินจนต้องตามหมอหลวงแทบทุกวัน .. "
ลี่เจาสำลักน้ำชา "เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว จับตาดูต่อไป ว่านางจะทำอะไร " ขอรับ "
