บทที่ : 9 เริ่มเข้าใจผิด
จวนตระกูลมู่
เซียนซานนั่งปักถุงหอมอย่างตั้งใจ
เสี่ยวเชียนสาวใช้คนสนิทก็เอ่ยขึ้น "คุณหนูจะปล่อยให้เป็นแบบนี้จริงๆเหรอเจ้าคะ"
"เรื่องอะไร"
"ก็องค์ชายสามกับพระชายาชิงหลิวน่ะสิ่เพคะ"
"ทำไมล่ะ ในเมื่อลี่เจาแต่งงานเพราะราชโองการ และอีกอย่างลี่เจาก็ไม่ได้ชอบพอกับชิงหลิว ข้ามีอะไรต้องกังวลกัน"
"ข้าได้ยินบ่าวในวังพูดกันว่า ตอนนี้พระชายาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก "
"ยังไงเหรอ"
"ก็นิสัยดีขึ้นผิดกับเมื่อก่อนราวกับคนละคนน่ะสิ่เจ้าคะ"
"งั้นเหรอ "
"ท่านยังนิ่งนอนใจอยู่อีกเหรอเจ้าคะ ถ้าพระชายาเปลี่ยนไปแบบนี้ แล้วองค์ชายสามดันชอบนางขึ้นมา จะทำอย่างไรเจ้าคะ"
"ข้ารู้จักกับลี่เจามาตั้งแต่เด็ก ข้ารู้ใจลี่เจาที่สุด เจ้าไม่ต้องกังวลแทนข้าหรอกนะ"
เซียนซานปักต่อไป แต่ใจก็รู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
จวนเมฆา
"ลี่เจา ข้าได้ยินว่าถุงหอมใบเก่าของเจ้าขาดแล้ว ข้าก็เลยปักถุงหอมใบใหม่มาให้
ข้าใช้ดิ้นทองมาปักเป็นลายดอกโบตั๋น ท่านชอบหรือเปล่า " เซียนซานยื่นถุงหอมให้ลี่เจา
"ของที่เจ้าทำมีหรือที่ข้าจะไม่ชอบ แต่ว่าคราวหน้าเจ้าไม่ต้องลำบากทำให้ข้าหรอกนะ " ลี่เจายื่นมือไปรับถุงหอม
"เพื่อเจ้าแล้ว มีอะไรที่ข้าลำบากกัน จริงสิ่ พ่อข้าเพิ่งได้ชาจากเจียงหนานมา ข้าเลยอยากชวนเจ้าไปดื่มที่จวนของข้า วันนี้เจ้าว่างหรือเปล่า "
"ได้สิ่ เดี๋ยวข้าเข้าเฝ้าเสด็จย่าเสร็จแล้วจะไป" เซียนซานได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มอย่างดีใจ
มีนกสีสวยหนึ่งตัวก็บินผ่านทั้งคู่ไป เซียนซานจึงพูดขึ้น "เจ้าดูนกตัวนั้นสิ่ สีของมันสวยมากเลย"
จู่ๆเสียงตะโกนของหมิงเวยก็ดังขึ้น พร้อมกับวิ่งหน้าตาตื่นมาทางนี้
"นั่นๆ นกของข้า บินหนีไปแล้ว หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้านกน้อย มาอยู่ในกรงของข้าซะดีๆ หยุดนะ " หมิงเวยวิ่งมาไม่ทันระวังจึงชนเข้ากับลี่เจาพอดี ถุงหอมในมือของลี่เจาก็หล่นลงไปบนพื้น "นี่เจ้าไม่มีตาหรือไง " ลี่เจาดุ
จนหมิงเวยต้องล้มเลิกการวิ่งตามนกและหันมายืนทะเลาะกับเขาแทน
หมิงเวยหยุดและหันมาหาลี่เจาจังหวะนั้นเท้าของเธอก็เหยียบลงไปที่ถุงหอมพอดี เซียนซานมองด้วยความรู้สึกไม่ดี คิดว่าหมิงเวยจงใจเหยียบถุงหอมที่เธอมอบให้ลี่เจา
"ตาข้าน่ะมี แต่ใครใช้ให้เจ้ามายืนอยู่ตรงนี้ล่ะห๊ะ เกะกะ ขวางทางคนจะเดิน"
"แบบนั้นบ้านเจ้าเรียกว่าเดินเหรอ และข้าน่ะเหรอขวางทางเจ้า ข้ายืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว เจ้าเสียอีกที่วิ่งมาไม่ดูตาม้าตาเรือ ชนข้าแล้วยังมายืนต่อปากต่อคำ ไม่มีความสำนึก"
"ทำไมข้าต้องสำนึก อยากว่าอะไรก็ว่าไปเถอะ ข้าไม่สนใจเจ้าหรอก ดูสิเนี่ย เพราะเจ้ามัวขวางข้าเลยวิ่งตามนกไปไม่ทัน นกที่ไท่เฟยให้ข้ามาบินหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เจ้าต้องรับผิดชอบ"
"นั่นก็เพราะความสะเพร่าของเจ้า ไม่เกี่ยวกับข้า"
"เหรอ ถ้าข้ากลับไปได้นะ ข้าจะวาดเจ้าให้ ขี้เหร่ ตาเหล่ ขาเป๋ เลยคอยดูสิ่" หมิงเวยตะโกนใส่หน้าเขา "นี่ เจ้า ! " ลี่เจาชี้หน้าหมิงเวย แต่เธอไม่สนใจ แถมยังจ้องหน้าและทำตาเหล่ใส่เขาก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีไป "เถียงคำไม่ตกฟาก ชึ่ ! " ลี่เจาสะบัดแขนเสื้อก่อนจะเดินไปอย่างหงุดหงิด โดยลืมไปว่า เซียนซานฝนยังยืนอยู่ตรงนั้น เซียนซานมองถุงหอมที่อยู่บนพื้น ก่อนจะเดินจากไป
จวนมู่
เสนาบดีขั้นสาม มู่ หรง และเสนาบดีขั้นหก หยวน ส่วย
"ผลผลิตคราวนี้จะทำให้เราได้กำไรสูงมาก ใบชาเหล่านี้พ่อค้าชาวเปอร์เซียต้องการมาก พร้อมทุ่มราคา"
"ดี ไม่เสียแรงที่ข้าแอบยักยอกงบประมาณไปลงทุน สั่งลงไป ก่อนทางการเข้าตรวจในฤดูหน้าให้เร่งส่งออกใบชาโดยเร็วที่สุด "
"ท่านเสนาบดีมู่ช่างหลักแหลมยิ่งนัก ฮ่าๆๆ" ชายชราทั้งสามหัวเราะกันอย่างชอบใจ โดยฉะเพราะเสนาบดีมู่ ชายชราจอมเล่ห์เหลี่ยมที่แอบยักยอกเงินในกรมคลังมาผลิตใบชาผิดกฏหมายส่งขายนอกวัง สองปีมานี้เขาทำกำไรได้มหาศาล
