บทที่ 4 หญิงงามแห่งเมืองอวี้อัน
ก๊อกๆๆ
"โอะ!"
เสียงเคาะประตูทำให้คนที่นั่งหน้าเครียดถึงกับสะดุ้งโหยงขึ้นด้วยความตกใจ หนังสือไม้ไผ่ในมือหล่นกระแทกพื้นจนดังตุ้บ เฉินเป่าหลินก้มตัวลงหมายจะเก็บมันขึ้นมา แต่ช้าไปเสียแล้ว เมื่อในตอนนี้ประตูไม้ได้ถูกผลักให้เปิดออก
"คุณหนูทำอะไรอยู่หรือเจ้าคะ" ร่างท้วมของสตรีวัยกำดัดอายุรุ่นราวคราวเดียวกับนางเดินเข้ามาในห้อง ก่อนที่นางจะนำถ้วยยาในมือไปวางไว้บนโต๊ะไม้และรีบตรงไปหยิบหนังสือไม้ไผ่ขึ้นมาถือไว้
"คุณหนูกำลังเขียนบันทึกเรื่องฉินไท่จื่ออยู่หรือเจ้าคะ" นางถามพลางหันไปสบตากับเจ้านายสาวด้วยความเห็นใจ เยว่หรงฟาง มีใจให้ฉินไท่จื่อมาตั้งแต่ที่เขายังเป็นฉินอ๋อง จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลาหลายปีแล้ว นางช่างมีใจรักที่มั่นคงเสียจริง หากฉินไท่จื่อมองมายังนางบ้างก็คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว
"ตอนนี้คุณหนูไม่สบายอยู่ พักผ่อนจะดีกว่านะเจ้าคะ มาเถิดเจ้าค่ะบ่าวจะพาคุณหนูไปนอน" เอ่ยพลางเดินเข้ามาประคองตัวเจ้านายให้ลุกขึ้นยืน เฉินเป่าหลินกลอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย เอะอะๆอะไรก็จะให้นางนอนลูกเดียว
"ดื่มยาเสียหน่อยนะเจ้าคะคุณหนู" หลังประคองร่างบางให้กึ่งนั่งกึ่งนอนลงบนเตียง เมิ่งหยวนก็หันไปหยิบถ้วยยามาถือไว้และยื่นส่งให้นาง
เฉินเป่าหลินปรายตามองถ้วยยาในมือสลับกับมองหน้าของเมิ่งหยวน
'เลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วกลับไปนอนได้แล้ว พ่อจะให้เมิ่งหยวนต้มยามาให้' หญิงสาวหวนนึกถึงวาจาของคนเป็นพ่อก่อนหน้า
"เจ้าชื่อเมิ่งหยวนใช่หรือไม่" นางถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
"ใช่เจ้าค่ะ" เมิ่งหยวนตอบรับคำอย่างงุนงง
"ดีล่ะ เช่นนั้นก่อนที่ข้าจะกินยา เรามาเล่นทายคำสนุกๆกันเถอะ หากเจ้าตอบได้ ข้าจะยอมกินยา"
"เอ่อ... จะดีหรือเจ้าคะคุณหนู" เมิ่งหยวนถามด้วยความไม่แน่ใจ ท่าทีของเจ้านายดูแปลกไปไม่น้อย ปกติเยว่หรงฟางเป็นคนพูดน้อยและเก็บตัว แต่เหตุใดวันนี้นางถึงได้ร่าเริงแจ่มใสและดูกระตือรือร้นมากกว่าทุกวัน
"ดีสิ เอาล่ะจะเริ่มแล้วนะ คำถามแรก ข้าชื่ออะไร"
"คุณหนูชื่อเยว่หรงฟางเจ้าค่ะ"
"เยว่หรงฟางงั้นหรือ เก่งมาก!"
ริมฝีปากอวบอิ่มคลี่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เมื่อได้รับคำชมจากเจ้านาย เพราะตั้งแต่อยู่ร่วมกันมา เยว่หรงฟางไม่เคยเอ่ยปากชมนางเลยสักหน
"คำถามต่อไปล่ะเจ้าคะ" เมิ่งหยวนถามด้วยความกระตือรือร้น เริ่มสนุกขึ้นมาแล้วสิ
"จบแล้ว"
"เอ๋! จบแล้วหรือเจ้าคะ" คิ้วหนาของเมิ่งหยวนเลิกขึ้นด้วยความงงงวย
"ใช่ เอาล่ะส่งยามาได้แล้ว"
"เจ้าค่ะ" ถึงแม้จะไม่เข้าใจ แต่ก็หยิบถ้วยยาส่งให้เจ้านายสาวแต่โดยดี "ยาแก้ช้ำในขมยิ่งนัก บ่าวเลยเตรียมน้ำผึ้งมาให้คุณหนูด้วยเจ้าค่ะ"
"ไม่ต้องๆ ข้ากินได้" เฉินเป่าหลินยกยาขึ้นดื่มจนหมดจอกจากนั้นจึงยื่นส่งคืนให้กับสาวใช้ผู้ติดตาม
ทางด้านเมิ่งหยวนเห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปของนางก็รู้สึกอึ้งไม่น้อย หากในยามปกติเยว่หรงฟางจะไม่ยอมดื่มยาขมๆเช่นนี้ นางจะต้องเทน้ำผึ้งลงไปผสมยาเพื่อให้มีรสหวานก่อนเท่านั้น
เฉินเป่าหลินเห็นสีหน้าแกมสงสัยของสาวใช้จึงคิดว่านางคงเผลอทำอะไรแตกต่างไปจากที่เคยหรือเปล่า ก็อย่างว่าแหละ นางกับเจ้าของร่างนี้เป็นคนละคนกัน
"เมิ่งหยวน เจ้าช่วยเล่าเรื่องราวชีวิตของข้าให้ฟังหน่อยได้หรือไม่"
"หืม... เรื่องราวชีวิตของคุณหนูหรือเจ้าคะ" สีหน้าสงสัยของเมิ่งหยวนยังไม่จางหาย เหตุใดคุณหนูถึงได้ถามคำถามแปลกๆเช่นนั้นเล่า
"อืม พวกประวัติชีวิตของข้าตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้"
"เรื่องพวกนั้นคุณหนูเองก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ"
คำถามของสาวใช้ตรงหน้าทำให้นางชะงักไปเล็กน้อย
"เอ่อ ก็... ข้าแค่อยากทดสอบว่าเจ้ารู้จักข้าดีมากแค่ไหนกัน"
คำตอบของเจ้านายทำให้เมิ่งหยวนยิ้มแป้น นางอาศัยอยู่ที่จวนสกุลเยว่มาตั้งแต่เกิด เป็นเพื่อนเล่นคุณหนูฟางเอ๋อร์มาตั้งแต่วัยเยาว์ เหตุใดเรื่องแค่นี้จะตอบไม่ได้เล่า
"คุณหนูเยว่หรงฟาง ยามนี้อายุสิบเจ็ดหนาว บุตรสาวคนเดียวของท่านหมอหลวงเยว่หานตง ใครๆต่างก็เรียกคุณหนูว่า หญิงงามแห่งเมืองอวี้อัน คุณหนูชอบทานขนมกุ้ยฮวา ไม่ชอบทานอาหารรสจัด กิจกรรมยามว่างชอบจิบชาและนั่งอ่านหนังสือ ชอบการปักผ้า คุณหนูไม่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง เกลียดเวลาที่เหงื่อออก อีกทั้งยังดีดพิณเก่งและไพเราะมากที่สุดเลยเจ้าค่ะ"
"เอ่อ... นั่นคือตัวของข้าหรือ"
"ใช่แล้วเจ้าค่ะ"
'ช่างแตกต่างจากตัวของนางคนละขั้วเลยก็ว่าได้' เฉินเป่าหลินได้แต่คิดในใจ
"เจ้าช่างรู้จักข้าดียิ่งนัก"
เมิ่งหยวนส่งยิ้มกว้าง พลางผงกศีรษะรับหงึกๆ ก่อนที่จะสะดุ้งขึ้นมาเบาๆ เมื่อจู่ๆเยว่หรงฟางก็ลงมาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าของนาง มือบางของเจ้านายสาวจับไหล่ของนางเอาไว้ พลางจ้องหน้าของนางนิ่ง
"แต่ว่า... ต่อจากนี้ไปข้าเปลี่ยนไปแล้ว เมิ่งหยวนเจ้าจำเอาไว้นะ ข้าชอบกินอาหารรสจัด ข้ากินยาขมได้ ข้าชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ชอบขี่ม้า ไม่ชอบปักผ้าและเกลียดการดีดพิณที่สุด เข้าใจใช่หรือไม่"
ดวงตากลมโตของเมิ่งหยวนเบิกกว้างขึ้น ท่าทางของเยว่หรงฟางจริงจังเสียจนน่ากลัว นางจึงได้แต่พยักหน้ารับไม่กล้าเอ่ยถามสิ่งใดอีก
เฉินเป่าหลินเห็นเมิ่งหยวนยอมรับคำพูดของนางอย่างว่าง่าย สีหน้าจริงจังเมื่อครู่ก็คลายลงแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใสแทน
"ดีมาก เจ้าน่ารักน่าชังยิ่งนัก"
มือบางยกขึ้นลูบเรือนผมนุ่มของเมิ่งหยวนไปมา เมิ่งหยวนมองการกระทำของเจ้านายอย่างอึ้งๆ แต่กระนั้นก็รู้สึกดีไม่น้อย นางจึงส่งยิ้มให้เยว่หรงฟางหนหนึ่ง ท่าทางของนางไม่ต่างจากลูกสุนัขตัวน้อย น่ารักน่าเอ็นดูจนคนมองอดหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้
"เมิ่งหยวน ท่านพ่อของข้าแวะไปที่จวนอ๋องบ่อยหรือไม่"
"ท่านหมอหลวงแวะไปที่นั่นทุกเดือนเจ้าค่ะ เพราะต้องทำการถ่ายโลหิตให้ฉินไท่จื่อ คุณหนูก็ติดตามไปทุกครั้ง..." เมิ่งหยวนตอบ ก่อนจะรีบหุบปากลงทันที ดีที่นางยั้งปากได้ทัน หาไม่อาจจะทำให้คุณหนูของนางโกรธเป็นได้ ยามนี้คุณหนูของนางอารมณ์ร้อนไม่เบา แตกต่างจากเมื่อก่อนที่อารมณ์เย็นดุจสายน้ำไหล
"เดือนละครั้งเลยหรือ หากเป็นเช่นนี้ข้าจะหาทางใกล้ชิดเขาได้อย่างไรกัน" ท้ายประโยคนางพึมพำเสียงแผ่ว
"คุณหนูว่าอย่างไรนะเจ้าคะ" เมิ่งหยวนถามขึ้น เมื่อครู่นี้นางได้ยินไม่ถนัดนัก
"เปล่าหรอก ไม่มีอะไร" เฉินเป่าหลินส่ายศีรษะไปมาเป็นเชิงปฏิเสธ ก่อนจะแสร้งยกมือขึ้นปิดปากหาว
"ดึกแล้วคุณหนูนอนพักเถิดเจ้าค่ะ พรุ่งนี้มีนัดกับคุณหนูเฉินเหมยฉีที่ร้านน้ำชาหยวนจื่อ คุณหนูอยากใส่ชุดสีอะไรดีเจ้าคะ" เมิ่งหยวนเอ่ยพลางประคองร่างบางให้ล้มตัวลงนอน ทว่าคำพูดของนางทำให้คนที่กำลังจะปิดเปลือกตาลงรีบลืมตาพรวดพราดขึ้นอีกครั้ง
"เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ ข้ามีนัดกับผู้ใด!"
"คุณหนูเฉินเหมยฉีเจ้าค่ะ" เมิ่งหยวนตอบ พลางมองมือบางของเยว่หรงฟางที่จับมือของนางแน่นด้วยความงุนงง
"ข้ากับนางรู้จักกันหรือ"
"รู้สิเจ้าคะ เมื่อสี่ปีก่อน ครานั้นคุณหนูกับบ่าวไปเดินซื้อของที่ตลาด เจอคุณหนูเฉินเหมยฉีเป็นลม คุณหนูเลยรีบเข้าไปช่วย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาคุณหนูทั้งสองคนก็สนิทสนมกันมาเรื่อยๆเจ้าค่ะ"
"งั้นหรือ..."
"เจ้าค่ะ คุณหนูเหมยฉีมีความสนใจเรื่องสมุนไพรรักษาโรคและยาพิษ นางมักจะมาขอคำปรึกษากับคุณหนูอยู่บ่อยๆ คุณหนูจำอะไรไม่ได้เลยหรือเจ้าคะ"
วาจาของเมิ่งหยวนทำให้เฉินเป่าหลินตะลึงงัน ความรู้สึกแน่นอึดอัดที่หน้าอกโจมตีอย่างกะทันหัน ร่างบางหอบหายใจแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อนึกถึงตอนที่นางถูกวางยาพิษ ความรู้สึกรวดร้าวทรมานเจียนตายในวันนั้นยังจดจำได้อย่างขึ้นใจ!
"คุณหนูเป็นอะไรไปเจ้าคะ! บ่าวจะรีบไปตามท่านหมอหลวง!"
สีหน้าของเมิ่งหยวนเต็มไปด้วยความตระหนกตกใจ ร่างท้วมผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วทำท่าจะวิ่งออกไปจากห้อง ทว่ามือบางของเฉินเป่าหลินกลับคว้าชายเสื้อของนางเอาไว้เสียก่อน
"ไม่ต้อง ข้าไม่เป็นอะไร ได้นอนพักก็คงดีขึ้น" หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ อาการแน่นหน้าอกจึงค่อยๆจางหายไป
"เจ้าออกไปเถอะ ข้าจะนอนแล้ว"
"เจ้าค่ะ" เมิ่งหยวนรับคำ พร้อมดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เจ้านาย จากนั้นจึงเดินไปดับตะเกียง แต่ก่อนที่จะก้าวขาออกจากห้องยังไม่วายหันมาเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
"หากคุณหนูต้องการสิ่งใดเรียกบ่าวได้ตลอดเวลาเลยนะเจ้าคะ"
เฉินเป่าหลินขานรับเบาๆ คล้อยหลังจากที่ประตูปิดสนิทแล้ว คนตัวเล็กนอนลืมตาท่ามกลางความมืด ในใจเกิดความสงสัยขึ้นมากมาย โดยเฉพาะเรื่องเฉินเหมยฉี นางไม่เชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ เฉินเหมยฉีเข้าหาเจ้าของร่างนี้เพราะผลประโยชน์บางอย่าง ซึ่งนางมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าคงไม่พ้นเรื่องยาพิษอย่างแน่นอน หากนางจะเปิดโปงความชั่วช้าสามานย์ของคนพวกนั้น นางก็ต้องหาหลักฐานเอาผิดคนพวกนั้นให้ได้
ไม่ว่าการที่นางได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้จะเป็นความบังเอิญหรือไม่ก็ตาม ในเมื่อเฉินเป่าหลินไม่สามารถเปิดโปงความเลวของคนพวกนี้ได้ ต่อไปนี้นางก็จะขอใช้ชีวิตอยู่ในนามของเยว่หรงฟาง และจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนเลวได้รับโทษทัณฑ์ที่เคยทำไว้กับสกุลเฉินอย่างสาสม!