ตอนที่ 4【2】
เขาเห็นสมควรตามคำแนะนำจึงได้แจ้งแก่บุตรชาย
จางอี้หมิงเมื่อได้ฟังคำเตือนของหมอผู้ช่วยและบิดาก็ได้แต่ข่มกลั้นความอาย พยักหน้าให้บิดาและหมอผู้ช่วยคนนั้นอย่างจำยอม จางอี้เทาจึงเดินออกไปรอนอกห้อง
จางอี้หมิงสูดลมหายใจเข้า ใบหน้าก็แดงก่ำ เด็กน้อยโอดครวญในใจไปตลอดทางเข้าห้องน้ำ
ทำไงได้ ก็เขาอายนี่นา ถึงแม้จะเป็นเด็กก็ตามที แต่วิญญาณมิใช่เด็กนี่ หากเพียงแค่ปวดเบาคงพอทำใจได้ แต่นี้เขาต้องการปลดทุกข์นักเชียวนะ เขาก็เกรงใจเป็นธรรมดา อย่างน้อยให้บิดาช่วยเหลือก็ยังเป็นชายเหมือนกันและยังถือเป็นบิดาเขาจึงพอทำใจได้
หลี่อ้ายและจางอี้เทาพากันมานั่งรออยู่ตรงห้องรับแขกเพื่อเข้าเยี่ยมบุตรชายในเช้านี้ ทั้งสองนั่งรอไม่นาน ครอบครัวซุนและนางหูก็มาสมทบ
“อาเทา หมิงเอ๋อร์เป็นเช่นไรบ้าง” นางหูเอ่ยถามบุตรชายด้วยความเป็นห่วง
“ท่านแม่ หมิงเอ๋อร์ปลอดภัยดีแล้ว ตอนนี้กำลังล้างหน้าทำธุระส่วนตัวอยู่ขอรับ”
“ลี่เอ๋อร์ เมื่อคืนเกิดอันใดขึ้น พอจะเล่าให้น้าสะใภ้ฟังได้หรือไม่” เป็นหลี่อ้ายที่ต้องการรู้รายละเอียดถามออกมา เนื่องจากเมื่อคืนนางไม่สะดวกในการสอบถามเรื่องราว ซุนซูลี่จึงเล่าเรื่องราวออกมาอีกครั้ง เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วหลี่อ้ายถึงกับยกมือทาบอก
“ลี่เอ๋อร์ เย่เอ๋อร์ ข้าในฐานะมารดาของหมิงเอ๋อร์ ต้องขอโทษแทนบุตรชายของข้าด้วย ขอลี่เอ๋อร์กับเย่เอ๋อร์ยกโทษให้กับพวกเราครอบครัวจางด้วย” หลี่อ้ายรีบเอ่ยขอโทษเด็กน้อยบ้านซุนทันที เพราะความซนของบุตรชายนางเกือบทำให้พี่น้องบ้านซุนถูกนำไปขายหอที่นางโลม
“พี่เย่ ท่านปู่ถง ข้าในฐานะบิดาของหมิงเอ๋อร์ ต้องขออภัยครอบครัวซุนด้วยที่เกิดเหตุร้ายนี้ขึ้น” จางอี้เทายกมือคารวะไปทางท่านหัวหน้าหมู่บ้านและซุนซูเย่ด้วยความรู้สึกเสียใจ
“อาเทา ช่างมันเถอะ คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตอนนี้ลี่เอ๋อร์ เย่เอ๋อร์ ต่างก็ปลอดภัยแล้ว เป็นหมิงหมิงน้อยเสียอีกที่เจ็บหนัก พวกเราครอบครัวซุนมิได้ติดใจโกรธเคียงอันใดอีก บ้านจางต่างก็เป็นผู้มีพระคุณของบ้านซุน ที่ผ่านมาก็ให้มันผ่านไปเถอะ” ซุนถงตอบกลับ
“ข้าขอขอบคุณท่านปู่ถงที่มิได้ติดใจเอาความอันใดกับหมิงเอ๋อร์” จางอี้เทาเป็นตัวแทนบ้านจางขอโทษบ้านซุนด้วยความจริงใจอีกครั้ง
เมื่อคืนหลังจากที่ซุนซูลี่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับทุกคนได้รับฟัง ในตอนที่แยกย้ายกันไปพักผ่อน ซุนซูเย่ก็ได้ปรึกษาเรื่องนี้กับบิดาแล้วเรียบร้อยและได้ข้อตกลงว่าจะถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ต่อให้จะโกรธหรือต้องการให้จางอี้หมิงรับผิดชอบก็คงทำไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยตำแหน่งของเด็กชาย บุญคุณที่บ้านจางช่วยเหลือให้อาชีพทำมาหากิน อีกทั้งเด็กบ้านซุนก็มิได้เจ็บปวดอันใด ซึ่งตรงกันข้ามกับจางอี้หมิงที่เจ็บหนักเมื่อชั่งน้ำหนักทุกอย่างแล้วพวกเขาจึงได้ข้อตกลงตามนี้
กว่าที่หมอผู้ช่วยจะจัดการช่วยจางอี้หมิงให้ได้ปลดหนักปลดเบา เช็ดตัว ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ใช้เวลาไปถึงครึ่งชั่วยาม ไม่นานท่านหมอกู้กับหัวหน้าองครักษ์อีก็มาถึง
“พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้สักครู่ ข้าขอเข้าไปตรวจอาการท่านอ๋องน้อยก่อน เสร็จแล้วค่อยว่ากันอีกที” ท่านหมอกู้บอกทุกคนที่กำลังรอเข้าเยี่ยมจางอี้หมิง
“เจ้าค่ะ/ขอรับ”
คล้อยหลังเมื่อท่านหมอเข้าไปตรวจจางอี้หมิงไม่ถึงหนึ่งเค่อ เขาก็ออกมาแจ้งข่าวแก่ทั้งสองครอบครัว
“ท่านอ๋องน้อยอาการดีขึ้นมาก ข้าว่าตอนนี้พวกเจ้าสมควรไปกินข้าวให้เรียบร้อย หมอผู้ช่วยจะได้ป้อนข้าวท่านอ๋องน้อยด้วย เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยมาเยี่ยมก็ยังมิสาย จนกว่าอาการของท่านอ๋องน้อยจะหายดีคงต้องให้พักที่จวนอ๋องไปก่อน สำหรับเรื่องต่าง ๆ พวกเจ้าก็ถามท่านหัวหน้าอีเองเถอะ” ท่านหมอกู้แจ้งข่าวกับทุกคนแล้วแยกตัวออกไป
ผ่านไปเพียงหนึ่งชั่วยาม เถ้าแก่หลินไห่กับตู้จินเหมยก็ได้เดินทางมายังจวนอ๋อง หลังจากรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ครอบครัวจาง ครอบครัวซุน และทุกคนจึงได้เข้าเยี่ยมจางอี้หมิงโดยแบ่งการเข้าเยี่ยมเป็นสามครั้งเพราะองครักษ์อีต้องการให้ท่านอ๋องน้อยได้พักผ่อน
จางอี้เทาและหลี่อ้ายจะพักที่จวนอ๋องเป็นเวลาอีกเจ็ดวัน โดยครอบครัวซุนจะเดินทางกลับหมู่บ้านหลัวถงในตอนบ่ายวันนี้ ส่วนเถ้าแก่หลินไห่หลังจากที่เยี่ยมหลานชายบุญธรรมเสร็จแล้วจึงกลับไปที่เหลาซิ่งฝูเนื่องจากจางอี้หมิงไม่ต้องการให้การสอนทำอาหารและประชาสัมพันธ์น้ำมันลูกหนาม รวมถึงรายการอาหารต่าง ๆ หยุดชะงักลง
จางอี้เทาเอ่ยสั่งสอนบุตรชายถึงความประมาทที่เกือบทำให้ตนเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังทำให้พี่สาวพี่ชายบ้านซุนตกใจเสียขวัญด้วย
“อาเทา รอให้หมิงเอ๋อร์รักษาตัวให้หายก่อนได้หรือไม่ หมิงเอ๋อร์รู้สำนึกแล้ว ก็อย่าลงโทษอีกเลย” นางหูเข้าไปขอร้องบุตรแทนหลานชายที่นอนเจ็บอยู่แค่เห็นหลานชายเพียงคนเดียวเจ็บหนักถึงเพียงนี้ใจก็จะขาดเสียให้ได้แล้ว
“ท่านแม่ ข้าต้องสอนเขาในตอนที่กำลังเจ็บนี้ถูกต้องแล้วขอรับ ต่อไปจะได้จำว่าจะเกิดอันใดขึ้นหากตั้งอยู่บนความประมาท”
“ท่านพ่อ ต่อไปข้าสัญญาจะทำอันใดจะคิดให้ละเอียดรอบคอบมากกว่านี้ ข้าจดจำไว้แล้วขอรับ”
จางอี้หมิงเอ่ยปากรับคำสั่งสอนของบิดา ด้วยตนเองสำนึกผิดแล้วอย่างแท้จริง เมื่อยามหวนคิดไปถึงเหตุการณ์ที่ตนเองเกือบถูกโจรชั่วนั่นกระทืบเท้าลงมา
“ท่านพี่ หมิงเอ๋อร์ ตัวเล็กและเด็กเพียงเท่านี้อาจจะคิดอ่านการณ์อันใดผิดพลาดไปบ้าง เช่นไรตอนนี้ลูกก็สำนึกผิดแล้ว ต่อไปคงจดจำไม่กล้าดื้อรั้นและซุกซนอีกแล้ว ก็ขอให้จบเรื่องเพียงเท่านี้เถอะเจ้าค่ะ เรายังต้องคิดอ่านเรื่องขอโทษบ้านซุนอีกนะเจ้าคะ” หลี่อ้ายเอ่ยเตือนสามี
“ได้ เช่นนั้นในครั้งนี้หมิงเอ๋อร์ต้องสัญญากับพ่อว่าจะต้องไม่เอาตนเองไปเสี่ยงอันตรายอีก”
“ขอรับ ข้าสัญญา”
องครักษ์ซาน(3) ถูกหัวหน้าองครักษ์อี (1) ลงโทษที่ละเลยต่อหน้าที่ทำให้เกิดเหตุร้ายขึ้นกับท่านอ๋องน้อย
แต่จางอี้หมิงขอร้องให้องครักษ์ลดโทษให้กับองครักษ์ซาน เนื่องจากจางอี้หมิงคิดว่าหากไม่ได้องครักษ์ซานช่วยเหลือตนไว้ ตนเองจะเป็นตายร้ายดีเช่นไรก็ไม่อาจรู้ได้
เขาต้องขอบคุณท่านองค์รักษ์เสียด้วยซ้ำที่มาได้ทันท่วงที...ถึงแม้ว่าจางอี้หมิงจะไม่รู้ว่าตนเองมีองครักษ์คอยคุ้มครองอยู่ก็ตาม