บทที่ 8
ชีคคาร์รานส์ จับมือเล็กซึ่งทั้งทุบทั้งข่วนตามลำตัว ตามพระพักตร์ของพระองค์ไว้ ก่อนจะตรัสเยาะหยัน
“โผเข้าหาตัวกระสันแบบนี้แสดงว่าถูกใจคำพูดของเราใช่ไหมแม่โสเภณีมือใหม่”
“ฉันชื่อนีนธารา ไม่ใช่โสเภณีบ้าบอคอแตกที่พระองค์เรียก”
นีนธาราตะเบ่งเสียงตะโกนตอบจนหน้าแดงซ่านไปหมด ขณะเดียวกันก็พยายามโผกายเข้าไปทำร้ายชีคใจโฉด ที่มองเธอเป็นไม่ต่างจากนางบำเรอของพระองค์
“แหม! ทะเลาะกันไป ตบตีกันไปชักจะทำให้เรามีอารมณ์ขึ้นมาอีกแล้วล่ะสิ มาแสดงฝีมือหน่อยสิว่าเจ้าพอจะเลื่อนขั้นจากโสเภณีมือใหม่ เป็นโสเภณีมือหนึ่งได้หรือยัง”
“อย่านะ ถอยไปนะท่านชีค”
ต่อให้นีนธาราตะคอกสั่งจนคอแห้ง เจ้าแห่งทะเลทรายที่ฟังคำสั่งใครไม่เป็น ก็ไม่มีทางทำตามเด็ดขาด และเมื่ออารมณ์พิวาสเริ่มแผ่ซ่านทั่วกายราวกับไฟที่ถูกจุดลามทุ่ง ก็กระชากร่างบางให้ปะทะอกกว้าง ฉีกโต๊ปออกอย่างใจร้อน โดยไม่สนใจเสียงหวีดร้องของนีนธารา
พอดวงเนตรปะทะกับความงดงามของร่างอรชรเนียนลออ ที่ติดตาพระองค์ทุกลมหายใจ แก่นกายแห่งความองอาจก็แข็งขึงชูชันพร้อมพรักขึ้นมาโดยไม่ต้องได้รับการปลุกเร้าใดๆ จนพระองค์นึกแปลกใจว่าเรือนร่างชวนพิศของนีนธารา เป็นดั่งยาปลุกเซ็กส์หรืออย่างไรกัน ผิดกับนางบำเรอคนอื่นๆ ที่ต้องใช้ความพยายามทั้งมือและปากในการปลุกให้ราชสีห์ตื่นจากการหลับใหล กระนั้นพวกเธอต้องใช้เวลาร่วมชั่วโมง กว่ากายของพระองค์จะให้ความร่วมมือในการโรมรันรักด้วย
นีนธาราสะท้านไหว หายใจหอบรัวเร็ว เรือนร่างร้อนผะผ่าวไปกับเปลวไฟสวาท ซึ่งเผยให้เห็นจากดวงเนตรคมกล้า และแทนที่จะวิ่งหนีให้หลุดพ้นจากบ่วงสวาทของชีคคาร์รานส์ หญิงสาวกลับนิ่งเฉยกลั้นหายใจรอคอยการแตะต้องจากพระโอษฐ์และพระหัตถ์ร้อนผะผ่าว จนนึกก่นด่าตัวเองอยู่ในใจว่าเธอกำลังเป็นบ้าหรืออย่างไรกัน
ชีคคาร์รานส์ทอดดวงเนตรจ้องมองร่างบางด้วยไฟพิศวาส ขณะเดียวกันก็นึกอยากลงโทษตัวเองที่ลงทัณฑ์นีนธาราหนักไป จนทำให้เรือนร่างของเธอเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งรัก ที่ถูกพระองค์ขบกัดไปทั่วทั้งร่าง และหนักสุดเห็นจะเป็นตรงปทุมอิ่มทั้งสอง และตรงผิวขาวเนียนดุจกระเบื้องแก้วเหนือดินแดนแห่งความหวานฉ่ำ ซึ่งมีริ้วรอยแห่งรักเต็มไปหมดทุกตารางนิ้ว
“ธารา เจ้าจะจ้องเราอีกนานไหม เมื่อไรเจ้าจะทำหน้าที่ของเจ้าสักที เราต้องการเจ้าจวนจะระเบิดอยู่แล้ว เข้าใจไหม”
นีนธารารู้สึกตัวกับคำสั่งแหบพร่าของราชนิกุลผู้หล่อเหลา ทว่าป่าเถื่อนไม่มีใครเกิน หญิงสาวรีบพุ่งตัวหลบหนี หมายจะหนีไปให้พ้นจากเพลิงสวาทของชีคคาร์รานส์ แต่ร่างบางวิ่งได้ไม่เท่าไรก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยละล่องไปอยู่กลางเตียงนอนใหญ่ด้วยฝีมือของเจ้าแห่งทะเลทราย ก่อนพระวรกายหนาหนักจะตามมากดทาบทับไว้ทั้งตัว จนหญิงสาวไม่อาจหลบหนีไปไหนได้
“ไสหัวไปท่านชีค! อย่ามายุ่งกับธารา”
“ฮึๆ ปากจัดจริงๆ นะธารา ลองใช้ปากของเจ้าทำหน้าที่ให้สมกับคำว่าโสเภณีหน่อยสิธารา”
“ไม่! ธาราจะไม่ทำตามคำสั่งของท่านชีคทั้งนั้น”
นีนธาราตวาดหน้าดำหน้าแดง ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะทนเพลิงพิศวาสอันแสนรัญจวนใจได้นานสักเพียงใด
“อย่าปฏิเสธในสิ่งที่เจ้าเองก็รู้สึกชื่นชอบเหมือนกันสิธารา เรารู้ว่าเจ้าชอบให้เจ้าจูบเจ้าไปทั้งตัว จำรสมือรสปากของเราให้ดีนะธารา หลังจากเราส่งเจ้าไปแตะขอบรุ้งแล้ว เจ้าต้องจูบเราให้ทั่วทั้งตัวเช่นเดียวกัน ห้ามให้มีว่างเว้นแม้แต่ตารางนิ้ว”
“ไม่...ธาราไม่ทำ...”
นีนธาราตะเบ่งเสียงตอบ พอปลายนิ้วแข็งแกร่งร้อนผะผ่าวไม่ต่างจากไฟร้อนๆ ได้เลื่อนมาบีบเคล้นทั่วดินแดนแห่งความหฤหรรษ์ ก่อนจะรุกประชิดเข้าไปข้างใน ร่ายระบำขยับปลายนิ้วด้วยความช่ำชองสร้างความหรรษาให้ไม่รู้ลืม ก็ถึงกับกัดฟันแน่น พยายามไม่ให้เสียงร้องครางแห่งความเสียวซ่านหลุดลอดออกมาให้พระองค์ได้ยิน
“ปากของเจ้าปฏิเสธว่าไม่! แต่ร่างกายของเจ้ามันตอบสนอง ตอบรับตัณหาดิบเถื่อนของเราได้เร่าร้อนดีจริงๆ ธารา”
ชีคคาร์รานส์กระซิบเยาะหยัน เมื่อร่างอรชรเปล่าเปลือยกระดกสะโพกผายมนส่ายไปมา ตามจังหวะการปลุกเร้าของปลายนิ้วแข็งแกร่ง การปลุกเร้าให้นีนธาราปล่อยอารมณ์รักออกมาให้หมดสิ้น การชักจูงให้หญิงสาวมัวเมาในไฟเสน่หาอันเร่าร้อน เพียงนี้เท่านี้ยังไม่พอ พระองค์ได้บดจุมพิตเร่าร้อนแผดเผาลงมาตามลำคอ ลาดไหล่เนียน ลากปลายลิ้นร้อนๆ ลงมาจูบหนักหน่วงทั่วปทุมอิ่ม ดูดเม้มยอดถันสีหวานรัวเร็วเร่าร้อน จน
นีนธาราหอบหายใจขาดห้วง หลุดเสียงครางกระเส่าเสียงดัง ก็ลอบอมยิ้มด้วยความถูกใจ พอมอบกายแข็งขึงให้ด่ำลึกเข้าสู่ความหวานฉ่ำตอดรัดกายพระองค์ในทุกทิศทุกทาง ก็เงยพระพักตร์ขึ้นมองใบหน้างามลออ ซึ่งตอนนี้แดงก่ำไปด้วยพิษของรสสวาท ที่เจ้าตัวครางกระเส่าอย่างหักห้ามใจไว้ไม่อยู่
“ท่านชีค...ธาราทรมานเหลือเกิน ได้โปรด...รักธาราเถอะค่ะ”
และเมื่อนีนธารากระซิบอ้อนวอนเสียงขาดห้วง ให้พระองค์โรมรันเพลงรักให้เร่าร้อนดุดันกว่าที่เป็นอยู่ ก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินจนต้องถามซ้ำอีกครั้ง
“เจ้าว่ายังไงนะธารา เราฟังไม่ค่อยได้ยิน และไม่ค่อยถนัดสักเท่าไร”
ขณะตรัสถาม พระองค์ก็โจนจ้วงหนักหน่วงทว่าเนิบนาบ ไม่รัวเร็วตามเจ้าของใบหน้างามแดงซ่านต้องการ จากนั้นก็แกล้งหญิงสาวอีกครั้งด้วยการถอนกายออกมาอยู่หมิ่มเหม่ตรงปากทางของกลีบดอกไม้หวานฉ่ำ จนนีนธาราต้องครางออกมาด้วยความขัดใจ
“อย่าแกล้งธารา...ธาราต้องการพระองค์เดี๋ยวนี้”
“อะไรธารา เธอต้องการอะไร”
“ธาราต้องการท่าน”
“ใคร?”
“ชีคคาร์รานส์ ธาราต้องการท่านชีคคาร์รานส์ ได้ยินไหม!”
นีนธารากระชากเสียงตอบ พร้อมกับเอื้อมมือไปจับสะโพกแข็งแกร่ง แล้วออกแรงกระชากให้พระวรกายล่ำสันลดลงจมดิ่งเข้ามามอบความหฤหรรษ์สุขซ่านให้กับเธออีกครั้งและอีกครั้ง
“จำรสชาติความสุขที่เรามอบให้กับเจ้าไว้นะธารา หลังจากนี้เจ้าจะต้องตอบสนองความสุขกลับคืนให้กับเรามากกว่าที่เราได้มอบให้กับเจ้า”
ชีคคาร์รานส์กระซิบสั่งเสียงแหบพร่า พอนีนธาราพยักหน้ารับราวกับต้านทานเพลิงพิศวาส ที่โหมกระหน่ำทั่วเรือนร่างไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว จึงลดกายแข็งแกร่งเข้าหาความหวานฉ่ำ โรมรันเพลิงสวาทเร่าร้อนแผดเผาตามที่ใจนีนธาราต้องการ
พอชีคคาร์รานส์ยอมลดกายด่ำดิ่ง ให้ดินแดนแห่งรักโอบกอดรัดกุมกายแข็งขึงของพระองค์ นีนธาราก็ถอนหายใจลึกเมื่อความสุขเริ่มแล่นซ่านตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอีกครั้ง
และชีคคาร์รานส์ก็รักษาคำพูดไว้มั่น เพราะไม่มีส่วนใดของร่างกายนีนธารา ที่จะรอดพ้นจากความรัญจวนหฤหรรษ์หรรษาซึ่งแทรกซึมเข้าทั่วทุกอญู จนหญิงสาวปฏิเสธไม่ลงว่ากำลังหลุ่มหลงในรสเสน่หา ที่ชีคคาร์รานส์กำลังมอบให้ในทุกวินาที