บทที่ 2
นีนธาราถอนหายใจเบาๆ เมื่อนึกถึงความวุ่นวายที่ผ่านมาเมื่อหลายสิบชั่วโมงก่อน หลังจากวางสายจากแม่เลี้ยงแล้ว เธอต้องโทรลางานและสั่งงานให้เลขาฯ ของเธอรับงานที่ค้างไปทำทั้งหมด
นอกจากนั้นยังต้องติดต่อหาซื้อตั๋วเครื่องบิน เพื่อเดินทางมายังดินแดนแห่งทะเลทรายอันแห้งแล้ง ซึ่งกว่าจะหาตั๋วได้เล่นเอาเหนื่อยจับใจ เพราะตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางมายังประเทศอัสดานส์ เต็มทุกเที่ยวบิน จนเธอนึกแปลกใจว่าประเทศที่มีแต่คลื่นทะเลทราย และต้นอินทผลัมสูงชะลูดมีอะไรน่าสนใจหนักหนา จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนอย่างไม่ขาดสาย
และที่เธอได้ตั๋วเครื่องบินเดินทางมาประเทศอัสดานส์ ก็เพราะว่ามีนักท่องเที่ยวรายหนึ่งยกเลิกการเดินทาง ไม่เช่นนั้นแล้วเธอคงต้องรออีกสองวันจึงจะมีตั๋วเดินทางมายังดินแดนที่เต็มไปด้วยเม็ดทรายอันร้อนระอุ
“คุณครับ ถึงพระราชวังนัสรานแล้วครับ”
นีนธาราตื่นจากภวังค์ความคิด เพราะเสียงห้าวๆ ของคนขับแท็กซี่ หญิงสาวพยักหน้ารับพลางจ่ายเงินตามที่อีกฝ่ายบอก ก่อนจะลงจากรถลากกระเป๋าเดินทางตรงไปยังป้อมยาม เพื่อแจ้งความประสงค์ว่าเธอต้องการมาขอเข้าเฝ้าผู้เป็นเจ้าแผ่นดินผืนนี้
“สวัสดีค่ะ ดิฉันอยากขอเข้าเฝ้าท่านชีคด้วยธุระสำคัญค่ะ”
องครักษ์สองนายซึ่งทำหน้าที่อยู่ตรงป้อมยาม ต่างก็พากันกวาดสายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาค่อนข้างหยาบคาย ราวกับว่าเธอเป็นพวกผู้หญิงอย่างว่า! ก่อนจะเอ่ยตอบออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
“เชิญนั่งก่อน จะเรียนให้องครักษ์เอกของท่านชีคทราบก่อนว่ามีคนมาขอเฝ้าท่านชีค”
องครักษ์นายหนึ่งซึ่งตัวใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นเป็นผู้เอ่ยบอกเสียงห้วน และนีนธาราก็รีบถามต่อท้ายทันที
“ดิฉันจะได้เข้าพบท่านชีคไหมคะ”
องครักษ์ถลึงตามองราวกับรำคาญ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงห้วนไม่ต่างจากครั้งแรก
“ยังตอบไม่ได้ว่าจะได้เข้าเฝ้าหรือเปล่า ต้องรอให้ท่านองครักษ์รุสฮานมาบอกก่อนเข้าใจมั้ย!”
“ดุชะมัด! สมแล้วที่เขาให้เป็นหมาเฝ้าหน้าพระราชวัง”
นีนธารารกระแทกเสียงต่อว่าดังๆ โดยไม่เกรงกลัวอาวุธปืน ที่องครักษ์ทั้งสองคนนี้ถืออยู่ในมือ จากนั้นก็สะบัดหน้าเชิดขึ้นราวกับนางพญา เดินไปทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ กับป้อมยาม ส่วนองครักษ์ทั้งสองนายถึงกับพากันกัดฟันดังกรอดๆ เมื่อถูกหญิงสาวสวยคมด่าเอาซึ่งๆ หน้า
นีนธารานั่งรออยู่หน้าป้อมยาม พลางกวาดสายตามองรอบๆ บริเวณพระราชวัง ซึ่งมีการทำเป็นกำแพงสูงเกือบสิบเมตร ป้องกันไม่ให้คนนอกลอบปีนเข้าไปในพระราชวังได้ง่ายๆ และไม่ให้คนที่อยู่ข้างใน ออกมานอกพระราชวังได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน
หญิงสาวนึกหนักใจว่าน้องสาวของเธอ จะถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวอยู่ข้างหลังกำแพงสูงจริงหรือเปล่า ซึ่งถ้าหากน้องสาวของเธอถูกขังอยู่ภายในพระราชวังแห่งนี้จริง เธอชื่อว่านิลธาราคงไม่มีทางหนีรอดออกมาได้อย่างแน่นอน และเธอคงต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ในการพาน้องสาวกลับบ้านให้ได้
“นี่คุณองครักษ์ เมื่อไรดิฉันจะได้เข้าเฝ้าท่านชีคสักทีล่ะคะ”
นีนธาราผุดลุกขึ้นมาถามองครักษ์ร่างยักษ์ หลังจากนั่งรอร่วมชั่วโมงกว่าแล้ว และคำตอบที่ได้รับจากองครักษ์คนเดิม ทำเอาเธอโมโหเหลือกำลัง
“ไม่รู้! ยังไม่ได้โทรหาท่านองครักษ์รุสฮาน”
“แล้วทำไมไม่โทรหาล่ะ” นีนธาราตะคอกถามเสียงดังด้วยความลืมตัว
องครักษ์ร่างยักษ์ยักไหล่ราวกับไม่ใส่ใจ แล้วเอ่ยตอบเพียงสั้นๆ ว่า
“ลืม!”
“ลืม!” นีนธาราทวนคำเสียงสูง โกรธจนหน้าแดงไปหมด ที่องครักษ์ร่างยักษ์หลอกให้เธอนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ
“โทรหาองครักษ์ของท่านชีคเดี๋ยวนี้นะ ดิฉันมีธุระด่วนต้องการเข้าเฝ้าท่านชีคให้ได้ภายในวันนี้”
นีนธาราสั่งเสียงเข้ม ลืมไปว่าองครักษ์เหล่านี้ไม่ใช่ลูกน้องของเธอ
“โทรให้ก็ได้ แต่อย่าหวังมากนักว่าจะได้เข้าเฝ้าท่านชีค เพราะวันนี้ท่านชีคติดภารกิจสำคัญ คงไม่ยอมให้ใครเข้าเฝ้าง่ายๆ”
องครักษ์ร่างยักษ์เค้นเสียงเยาะ พลางหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วค่อยๆ บรรจงกดหมายเลขโทรศัพท์ ด้วยท่าทีเชื่องช้าราวกับต้องการแกล้งคนที่ใจร้อนอยากเข้าเฝ้าประมุขของพวกตน
“เจริญจริงๆ ถ้ามีลูกน้องแบบนี้ ขอไม่มีซะดีกว่า”
อีกครั้งที่นีนธาราตอกหน้าองครักษ์ร่างยักษ์อย่างไม่เกรงกลัว จากนั้นก็ยืนเท้าสะเอวจ้องมองอีกฝ่ายเขม็ง ว่าองครักษ์คนนี้จะทำตามที่เธอสั่งหรือเปล่า
องครักษ์ร่างยักษ์กดโทรศัพท์สนทนากับองครักษ์เอกของท่านชีคอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างให้กับอาคันตุกะสาวแสนสวย พลางเอ่ยตอบออกมาว่า
“ดีใจด้วยนะครับ”
องครักษ์ร่างยักษ์เล่นลิ้น แล้วเอ่ยบอกข่าวดีสำหรับเขา แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับสาวสวยอย่างนีนธารา
“ท่านองครักษ์รุสฮานบอกว่าท่านชีคติดภารกิจสำคัญอย่างยิ่งยวด ไม่สามารถให้ใครเข้าเฝ้าได้ หากคุณจะมาเข้าเฝ้าพระองค์ ก็ต้องยื่นเรื่องไว้ก่อน แล้วรออีก 5 วันค่อยมาใหม่”
“5 วัน!” นีนธาราร้องเสียงหลง กระแทกเสียงต่อว่าองครักษ์ร่างยักษ์ด้วยความโมโห
“จะบ้าหรือยังไง ฉันไม่มีเวลาอยู่ในประเทศของคุณนานขนาดนั้นหรอก”
“นั่นมันไม่ใช่ปัญหาของผม”
องครักษ์ร่างยักษ์ยักไหล่ตอบยียวน จากนั้นก็กลับไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ โดยการยืนเฝ้าโยงอยู่หน้าป้อมปราการทางเข้าพระราชวังหรูหรา
เมื่อไม่อาจเข้าไปภายในพระราชวังได้ นีนธาราก็กระแทกเท้าเดินกลับมานั่งที่เดิม พยายามขบคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะเข้าไปหลังกำแพงหินแกรนิตสูงทะมึนนี้ได้ หญิงสาวนั่งคิดอยู่นานหลายนาที จนกระทั่งนึกถึงตำแหน่งหน้าที่การงานของตนเอง ซึ่งคิดว่ามันคงพอช่วยได้บ้าง หากเธอเอาตำแหน่งของเลขานุการตรี สถานเอกอัครราชทูตไทย มาใช้เป็นข้ออ้างในการขอเข้าเฝ้าท่านชีคผู้นี้
“นี่คุณองครักษ์ ฉันเป็นเลขานุการตรี สถานเอกอัครราชทูตไทย ฉันนำเอกสารสำคัญมาถวายท่านชีค คุณควรให้ฉันไปเข้าเฝ้าพระองค์ ไม่เช่นนั้นจะกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”
นีนธาราพูดความจริงแค่เพียงครึ่ง เพราะประโยคหลังนั้นเธอโกหกล้วนๆ
และใช่ว่าองครักษ์ร่างยักษ์จะโง่และเชื่อนีนธารา เขาแบมือกระดิกอยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเข้ม
“ขอบัตรประจำตัวของตำแหน่งที่ฟังดูสุดเซ็กซี่ ที่คุณพูดมาเมื่อสักครู่ด้วย”
“บัตร...บัตร...”
นีนธาราอึกอัก ก็เธอไม่ได้พกบัตรเจ้าหน้าที่ของสถานทูตมาด้วย แล้วจะมีบัตรจากไหนให้องครักษ์ร่างยักษ์คนนี้กันเล่า
“เอ่อ...ฉันไม่ได้เอาบัตรประจำตัวของเจ้าหน้าที่สถานทูตมาด้วย แต่ฉันเป็นเลขานุการตรี สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เบิร์น จริงๆ นะคุณองครักษ์”
“ฮึๆๆ ไปหลอกเด็กอมมือซะคุณผู้หญิง”
องครักษ์ร่างยักษ์ยิ้มเยาะ ก่อนจะเอ่ยดูถูกหญิงสาวแสนสวย ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง
“มุขเก่าๆ แบบนี้สนิมมันกินไปหมดแล้ว หามุขใหม่ๆ มาใช้บ้างสิคุณผู้หญิง เผื่อว่าท่านชีคจะประทับใจยอมให้เข้าไปบำเรอรักให้กับพระองค์ได้”
ในตอนแรกนีนธาราไม่เข้าใจว่าองครักษ์ร่างยักษ์กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน แต่พอได้ยินประโยคหลังถึงกับโกรธหน้าดำหน้าแดง จ้องมองอีกฝ่ายเขม็งก่อนจะตะโกนด่าอย่างเหลืออด
“นี่! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงอย่างที่คุณคิด ฉันแค่ต้องการมาตามหาน้องสาวของฉันก็เท่านั้นเอง”
“ผู้หญิงทุกๆ คนที่อยากอยู่รับใช้ท่านชีค ก็แก้ตัวกันแบบนี้ทั้งนั้น จากนั้นพวกเธอก็ได้เข้าไปนอนอยู่ใต้พระวรกายของท่านชีคสมใจอยาก”
องครักษ์ร่างยักษ์ดูถูกดูแคลน สร้างความขัดเคืองให้กับนีนธารามาก
“ผู้หญิงที่คุณว่าจะเป็นยังไงฉันไม่สน แต่ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”
ตอกกลับไปแล้ว ร่างบางระหงก็กระแทกเท้าเดินกลับไปนั่งที่เดิม แต่กระนั้นก็ไม่วายได้ยินเสียงขององครักษ์ร่างยักษ์เอ่ยพูดลอยๆ มากับสายลม
“แล้วผมจะคอยดู!”
นีนธาราหงุดหงิดอารมณ์เสีย ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะลอบเข้าไปภายในพระราชวัง เพื่อตามหาน้องสาวของเธอได้ หรือว่าต้องโทรข้ามประเทศขอความช่วยเหลือจากท่านทูต ผู้เป็นหัวหน้างาน ให้ช่วยเหลือเธอในเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษ