บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

นีนธารา จิรภิญญา ในวัย 26 ปี ทั้งสวย โฉบเฉี่ยว ฉลาดหลักแหลม สมกับเป็นเลขานุการตรี สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ เบิร์น (Bern) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นมองป้ายอาคารสนามบินนานาชาติอัสดานส์ ประเทศอัสดานส์ด้วยความอ่อนล้า เพราะเมื่อ 12 ชั่วโมงก่อน เธอยังนั่งประชุมหน้าดำคร่ำเครียดอยู่ในกรุงเบิร์น แต่ตอนนี้เธอต้องถ่อสังขารนั่งเครื่องบินข้ามน้ำข้ามทะเลนานนับสิบๆ ชั่วโมง เพื่อเดินทางมายังแผ่นดินทะเลทรายอย่างประเทศอัสดานส์ ประเทศที่ไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาแม้แต่นิดเดียว แม้ประเทศในโลกตะวันออกเฉกเช่นประเทศอัสดานส์ จะได้รับการพัฒนาให้เจริญล้ำเหมือนประเทศแถบตะวันตก แต่นีนธาราก็ยังรู้สึกว่าแผ่นดินที่เธอกำลังมาเหยียบย่ำในขณะนี้ ไม่มีอะไรให้ดูนอกจากต้นอินทผลัมสูงชะลูด และแผ่นผืนทะเลทรายอันแห้งร้อนระอุ

“เธออยู่ที่ไหนนะน้องโรส ทำไมไม่ส่งข่าวให้พ่อแม่รู้ แล้วพี่จะไปตามหาเธอได้จากที่ไหนกัน”

นีนธาราพึมพำอยู่คนเดียว ขณะลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ตรงไปเรียกแท็กซี่ ซึ่งจอดเรียงรายเป็นตับอยู่หน้าสนามบิน

“ไปพระราชวังนัสราน”

นีนธาราสั่งสั้นๆ ห้วนๆ ไม่สนใจคนขับแท็กซี่ ที่รีบหันมามองหน้าเธอด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย ซึ่งส่อไปในทางไม่ดีซะเป็นส่วนใหญ่

และเมื่ออดรนทนไม่ไหว แท็กซี่วัยค่อนคนก็ออกปากเอ่ยถามอาคันตุกะสาวด้วยภาษาอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่นพอถูไถไปได้

“คุณผู้หญิงจะไปพระราชวังนัสรานทำไมหรือครับ”

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” นีนธาราตวาดต่อว่า ถลึงตาใส่คนขับรถแท็กซี่ ที่สอดรู้สอดเห็นเรื่องของผู้โดยสารไปทั่ว

คนขับแท็กซี่หน้าม้าน เมื่อถูกผู้โดยสารตอกหน้าเข้าให้ แต่กระนั้นก็ไม่วายงึมงำดูถูกหญิงสาวสวยคมชวนพิศไปทั้งเนื้อทั้งตัว

“ทำเป็นหยิ่ง อีโธ่เอ๋ย...หอบผ้าหอบผ่อนใส่กระเป๋าใหญ่ใบโตแบบนี้ คงไม่พ้นไปเป็นนางในฮาเร็มของท่านชีคแน่”

นีนธาราแสร้งทำเป็นไม่สนใจเสียงบ่นพึมพำของคนขับแท็กซี่ หญิงสาวหันไปมองบรรยากาศสองข้างทางถนน ขณะรถแท็กซี่กำลังแล่นตรงไปยังพระราชวังนัสราน พลันนั้นหัวสมองก็นึกถึงสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เธอต้องทิ้งหน้าที่การงานในกรุงเบิร์น บินตรงมายังประเทศอัสดานส์อย่างไม่มีทางเลี่ยง เมื่อบิดาและแม่เลี้ยงได้โทรทางไกลข้ามประเทศไปหาเธอ ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ลุกจากที่นอนด้วยซ้ำไป

สิบสองชั่วโมงที่ผ่านมา...

‘หนูธารา...ฮื่อๆๆ ช่วยน้าด้วย’

เสียงร้องไห้คร่ำครวญปิ่นจะขาดใจของแม่เลี้ยง ทำให้ผู้ที่เพิ่งตื่นนอนยังไม่เต็มตา ต้องเอ่ยถามออกไปด้วยความงุนงง

‘เกิดอะไรขึ้นคะคุณน้า หรือว่าคุณพ่อไม่สบายคะ’

นีนธาราถามกลับด้วยน้ำเสียงร้อนรน พอคิดว่าคุณรัชยาผู้เป็นแม่เลี้ยงโทรมาหาดึกๆ ดื่นๆ เพราะบิดาเธอกำลังไม่สบาย ก็ทำเอาหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง

‘คุณพ่อสบายดีจ้ะ แต่ที่น้าโทรมาหาหนูธารา ก็เพราะว่าน้าอยากขอร้องให้หนูธารา ไปตามหาน้องโรสให้น้าด้วยจ้ะ’

‘ตามหาน้องโรส?’ นีนธาราทวนคำเสียงสูง ก่อนจะเอ่ยถามต่อ ‘น้องโรสไปไหนหรือคะ ทำไมต้องให้ธาราไปตามหาด้วย’

เอ่ยถามไปแล้ว นีนธาราก็ได้ยินเสียง แม่เลี้ยงรัชยาร่ำไห้มาตามสายโทรศัพท์เป็นเวลานาน กว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยตอบคำถามของเธอได้

คุณรัชยาสูดสะอื้น จากนั้นก็เล่าบอกความจริงทั้งหมดให้ลูกเลี้ยงฟัง

‘เมื่อสามเดือนก่อน น้องโรสบอกน้ากับคุณพ่อว่ามีท่านชีคจากประเทศแถบอาหรับ ได้ติดต่อมาที่โรงพยาบาล เพื่อขอจ้างพยาบาลให้ไปดูแลอนุชาของพระองค์ ซึ่งขาหักเพราะตกจากหลังม้า น้องโรสกำลังมีปัญหากับพยาบาลด้วยกัน และอยากจะลาออกจากโรงพยาบาลอยู่แล้ว จึงเขียนใบสมัครไป โดยไม่ฟังคำคัดค้านของน้าและคุณพ่อ ที่ไม่อยากให้น้องโรสไปทำงานไกลบ้านไกลเมือง แต่น้องโรสก็ดื้อด้านไม่เชื่อฟัง พอทางท่านชีคตอบตกลงรับน้องโรส ท่านชีคคนนั้นก็ส่งค่าตั๋วเครื่องบิน และค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาให้น้องโรสทันที

เดือนแรกที่น้องโรสไปทำหน้าที่พยาบาล น้องโรสโทรกลับบ้านทุกสัปดาห์ แต่พอเข้าเดือนที่สอง นานๆ ทีน้องโรสถึงจะโทรกลับบ้าน บางทีก็ไม่ได้โทรมาเลยจนน้าต้องเป็นฝ่ายโทรไปหาเอง และล่าสุดเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว น้าโทรหาน้องโรส พอน้องโรสรับสายก็ร้องไห้ฟูมฟาย บอกว่าถูกท่านชีคคาร์รานส์ทำร้าย จากนั้นสัญญาณโทรศัพท์ก็ตัดไป น้ากับคุณพ่อหนูพยายามโทรหาน้องโรส แต่โทรไม่ติดเลย

พอโทรเข้าพระราชวัง องครักษ์ของท่านชีคบอกว่าน้องโรสกลับประเทศไทยไปนานแล้ว ซึ่งน้าไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะหากน้องโรสกลับมาประเทศไทย น้องโรสจะไปไหนถ้าไม่กลับมาบ้านของเรา น้าเชื่อว่าน้องโรสยังอยู่ในประเทศอัสดานส์

และบางทีน้องโรสอาจจะถูกท่านชีคคนนี้กักขังไว้ก็ได้ เพราะน้าเคยได้ยินมาว่า

ท่านชีคคนนี้มีนางในฮาเร็มเป็นสิบๆ คน แถมยังเป็นคนป่าเถื่อน บ้าตัณหา หากอยากได้ลูกเต้าเหล่าใครมาเป็นนางบำเรอ ก็จะสั่งให้องครักษ์ไปฉุดมาทันที น้าอยากขอร้องให้หนูธาราไปตามหาน้องโรสที่ประเทศอัสดานส์

ตอนแรกน้าจะไปตามหาน้องโรสเอง แต่คุณพ่อหนูไม่ยอมให้ไป บอกว่าน้าสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว กลัวว่าจะไม่สบายตอนอยู่ในประเทศอัสดานส์ ก็ยิ่งลำบากเข้าไปอีก น้าเป็นห่วงน้องโรสมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร หนูธาราไปตามหาน้องให้น้าได้ไหมลูก’

‘ค่ะคุณน้า เดี๋ยวธาราจะไปตามหาน้องโรสเองค่ะ’

นีนธาราเอ่ยตอบเพียงสั้นๆ หลังจากฟังแม่เลี้ยงพูดเสียยืดยาว และคำตอบของเธอ ก็ทำให้แม่เลี้ยงคลี่ยิ้มออกมาได้ทันที

‘น้าขอบใจหนูธารามากนะ คิดซะว่ายังไงๆ น้องโรสก็เป็นน้องของหนูธารา เป็นลูกของคุณพ่อเหมือนกันนะจ้ะ’

น้ำเสียงของคุณรัชยาฟังดูโล่งอกกว่าครั้งแรกมาก เมื่อผู้เป็นลูกเลี้ยงตกปากรับคำว่าจะทำตามที่นางขอร้องไป

‘แค่นี้นะคะคุณน้า ธาราจะไปจัดกระเป๋า คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ธาราจะพยายามตามหาน้องโรสให้พบจนได้ค่ะ’

นีนธาราทนฟังเสียงแม่เลี้ยงเอ่ยขอบอกขอบใจเธออีกครั้ง จากนั้นก็กดตัดสายการสนทนา พลางถอนหายใจยาวด้วยความหนักใจ เมื่อคำพูดของแม่เลี้ยงแล่นเข้ามากระทบโสตประสาทอีกหน

‘ยังไงๆ น้องโรสก็เป็นน้องของหนูธารา เป็นลูกของคุณพ่อเหมือนกันนะจ้ะ’

หญิงสาวคิดเสมอว่าน้องโรสหรือนิลธาราเป็นน้องสาวเธอ แต่อีกฝ่ายไม่เคยคิดเช่นนี้เลยแม้แต่น้อย นิลธาราคิดว่าตนเองเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลจิรภิญญา และไม่เคยให้ความนับถือคิดว่าเธอเป็นพี่สาวของตนเอง!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel