ตอนที่ 5
ขณะที่แอลลี่กำลังก้าวเดินออกมาจากโรงแรม ปลายเท้าน้อยๆ ย่ำไปตามพื้นซีเมนต์เฉอะแฉะไปด้วยคราบน้ำฝนที่ขังอยู่ในหลุมบ่อเล็กๆ ข้างทาง เพื่อจะออกมาเรียกรถแท็กซี่กลับที่พัก
“ว้าย…”
หญิงสาวอุทานด้วยความหงุดหงิดใจ ความโกรธก็เต้นระยับอยู่ในดวงตา เมื่อจู่ๆ ก็มีน้ำโคลนสีดำคล้ำสาดกระเซ็นมาจากล้อรถคันหนึ่งที่แล่นสวนทางมาด้วยความเร็วสูง
ครั้นเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นจากชายเสื้อและกระโปรงที่เปียกเปรอะไปด้วยคราบน้ำ ตอนนั้นจึงได้เห็นว่ารถปอร์เช่ บ็อกสเตอร์ สไปเดอร์ คันหรู ราคาเกือบสิบล้านคันหนึ่งกำลังชะลอจอดเลียบข้างไหล่ทาง กระจกไฟฟ้าของประตูฝั่งคนขับเลื่อนลงช้าๆ เผยเค้าโครงหน้าคมคร้ามของชายผู้เป็นคนขับ
เขาชะโงกออกมามองด้วยสีหน้าสำนึกผิดที่รีบร้อนขับรถเร็วจนไม่ทันได้ระมัดระวังหลุมบ่อข้างทาง
“ขอโทษนะครับ…”
เสียงทุ้มกังวานตะโกนออกมาก่อน
จากนั้นก็รีบเปิดประตูลงมาจากรถ
เขาเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร อกกว้างผึ่งผายสมชายชาตรี ก้าวออกมาสู่ประกายแสงแดดสีทองของยามสาย ขณะที่บริเวณถนนด้านหน้าของโรงแรมเริ่มคลาคล่ำไปด้วยรถรา แล่นขวักไขว่ไปมา
ร่างสูงใหญ่ตรงรี่เข้ามาหาเธอที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่อีกฟากถนนอย่างมิอาจปิดซ่อนความรู้สึกโกรธ เมื่อเสื้อผ้าของเธอต้องเปรอะเปื้อนเพราะความไม่ระมัดระวังของเขา
“ขอโทษที…ผมรีบไปหน่อย”
สาเหตุที่ไทเลอร์ขับรถเร็วก็เพราะไม่อยากให้คนที่มานั่งรอสัมภาษณ์ต้องคอยนาน ด้วยยังไม่รู้ว่าพีระพงษ์ซึ่งเป็นประธานบริษัทได้สัมภาษณ์และตกลงรับแอลลี่เข้าทำงานเป็นที่เรียบร้อย
แอลลี่มองสบตาเขา เครื่องหน้าทุกอย่างบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาประกอบกันอย่างได้รูปที่สุด ซึ่งแวบแรกเธอก็ตกใจอยู่เหมือนกัน…เมื่อเห็นว่าเจ้าของร่างสูงใหญ่นั้นเป็นใคร
สายตาของทั้งสองจ้องประสานกันราวกับมีอำนาจแม่เหล็กเหนี่ยวนำให้พุ่งทะยานเข้ามาหา ไทเลอร์เกิดอาการเหมือนต้องมนตรา ใบหน้าสะสวยของหญิงสาวสะกดจนเขาแน่นิ่ง
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความรู้สึกที่เรียกว่า ‘รักแรกพบ’ หรือ ‘Love At First Sight’ จะเกิดขึ้นกับผู้ชายที่มีคู่หมั้นและกำลังจะแต่งงานอย่างเขา
แอลลี่ส่งยิ้มหวานให้เขาอย่างมีจริต
มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าผู้ชายที่มีภาพปรากฏอยู่บนหน้าปกนิตยสารบ่อยๆ คนนี้คือใคร ล่าสุดถ้าเธอจำไม่ผิด…เขาเพิ่งขึ้นปกนิตยสารจีเอ็ม แมกกาซีนมาหยกๆ ในฐานะนักธุรกิจด้านโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุเพิ่งจะสามสิบต้นๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ…แต่คราวหน้าระมัดระวังกว่านี้ก็ดีนะคะ ดีที่ฉันสัมภาษณ์งานเสร็จแล้ว ไม่เช่นนั้นคงแย่หน่อย ถ้าขืนต้องเข้าไปสัมภาษณ์งานในสภาพทุลักทุเลเหมือนลูกหมาตกน้ำแบบนี้”
เธอชี้นิ้วมาที่ตัวเอง แม้ว่าจะตำหนิเขา หากแต่อารมณ์กรุ่นโกรธก็ค่อยๆ คลายลง อย่างน้อยเขาก็ได้ขอโทษเธอแล้ว
“เอ่อ…”
เจ้าของร่างสูงใหญ่ขมวดคิ้ว เมื่อรู้ว่าหญิงสาวคนนี้เพิ่งเดินออกมาจากโรงแรมซึ่งเขาทำงานอยู่ ดวงตาสีน้ำตาลชวนฝันของชายหนุ่มหรี่ลงเล็กน้อย นิ่งอยู่ในอาการครุ่นคิดว่าเคยเห็นใบหน้าสะสวยสะดุดตาของหญิงสาวคนนี้จากที่ไหนสักแห่ง กระทั่งนึกขึ้นได้ในนาทีต่อมาว่าเขาเคยเห็นรูปเธอจากจดหมายสมัครงานนั่นเอง
“ผมนึกออกแล้ว…คุณคือคนที่ผมนัดเข้ามาสัมภาษณ์นั่นเอง”
กล่าวแล้วก็หยุดไปชั่วขณะ ความจำเขาเป็นเลิศ อึดใจเดียวก็นึกชื่อของหญิงสาวตรงหน้าได้อย่างแม่นยำ
“คุณแอลลี่ใช่ไหมครับ”
เขาจดจำชื่อเธอได้
แอลลี่ส่งใบสมัครงานเข้ามาในตำแหน่งพนักงานต้อนรับส่วนหน้า หรือที่เรียกกันว่า Front Reception Office เขาเพิ่งสัมภาษณ์เธอทางโทรศัพท์เมื่อสามวันก่อน
“ใช่ค่ะ…เอ่อ คุณคือ…”
หญิงสาวแกล้งทำสีหน้าประหลาดใจออกไปอย่างนั้นเอง อันที่จริงเธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร รู้แม้กระทั่งประวัติโดยละเอียดของเขา…
“ผมไทเลอร์ครับ”
ชายหนุ่มรีบแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มกว้าง
ท่ามกลางแสงแดดที่เริ่มร้อนแรงขึ้นทุกที สายตาคมเหมือนเหยี่ยวนักล่าจ้องเหยื่อ แทบไม่ละไปจากดวงหน้าสะสวยของหญิงสาว
ไทเลอร์กำลังนึกในใจว่าตัวจริงของแอลลี่สวยกว่าในรูปถ่ายที่เขาเห็นเป็นสิบเท่า ใบหน้าได้รูป แก้มเรื่อละมุนไปด้วยความเปล่งปลั่งของวัยสาว