Ep : 3. หน้าที่เชลย 1
แก้วกาญจน์ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดและบอกตัวเองไม่ให้อ่อนแอ แต่ก็อดน้ำตาคลอไม่ได้เมื่อนึกถึงชะตากรรมของตัวเองในตอนนี้ ทำไมโลกต้องสร้างผู้ชายโหดร้ายคนนี้ขึ้นมาด้วย รามสูรคนก่อนหน้านี้คือใคร เขาคือใครกันแน่ หรือว่าคนแสนดี อ่อนโยนไม่มีอยู่จริง หรือนี่คือเนื้อแท้จริงของผู้ชายที่ชื่อรามสูร แก้วกาญจน์เก็บกวาดทำความสะอาดห้องเงียบๆ ไม่สนใจว่าตอนนี้เจ้าของห้องได้ออกไปจากห้องแล้ว เขาไปโดยไม่บอกเธอสักคำ เมื่อทำความสะอาดห้องเสร็จก็เดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียง ไม่รู้พ่อจะเป็นยังไงบ้าง เธอไม่ได้กลับบ้านตั้งแต่เมื่อวาน ท่านคงเป็นห่วง แต่จะทำยังไงได้เมื่อโทรศัพท์ก็ไม่มี อยากออกจากห้องนี้ก็ออกไปไม่ได้ เมื่อเดินไปเปิดประตูก็รู้ว่ามันล็อกจากด้านนอก
“พี่นุอยู่ไหน” เธอพึมพำหาพี่ชายที่แสนดีของตัวเอง สำหรับเธอแล้วไม่ว่าเขาจะบอกว่าพี่ชายเธอเลวแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นพี่ที่แสนดีเสมอ
“แก้วอยากกลับบ้าน แต่ถ้าการที่แก้วอยู่กับพี่รามแล้วทำให้พี่ปลอดภัย แก้วก็จะอยู่ อยู่เพื่อพี่ พี่นุดูแลตัวเองดีๆ นะคะ”
เธอพึมพำกับตัวเองแล้วปล่อยน้ำตาไหลออกมาอีกครั้งเงียบๆ ในห้องกว้าง ตอนนี้คงมีเพียงน้ำตาที่ปลอบใจ แต่จะไม่มีวันอ่อนแอ เธอบอกตัวเองว่าร้องไห้ได้ แต่จะไม่มีวันอ่อนแอให้รามสูรสมใจเป็นอันขาด แล้วก็ต้องปาดเช็ดน้ำตาเมื่อมีเสียงดังขึ้นหน้าประตูห้องพร้อมประตูห้องเปิดกว้างออก
“มีอะไรคะป้าปุ๊” เธอถามผู้มาใหม่ที่เดินมาพร้อมกล่องยา
“คุณรามบอกป้าว่าหนูแก้วโดนเศษแก้วบาดมือ ป้าเลยมาทำแผลให้ค่ะ” นางเดินถือกล่องอุปกรณ์ทำแผลมานั่งลงบนเตียงนุ่ม
“พี่รามให้ป้ามาทำแผลให้แก้วเหรอคะ” หัวใจดวงน้อยใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อคิดว่าเขายังเหลือความห่วงใยให้ตัวเองอยู่
“ค่ะ คุณรามให้ป้าขึ้นมาทำแผลให้หนูแก้ว ไหนเอามือที่โดนเศษแก้วมาให้ป้าดูหน่อยสิคะ เดี๋ยวป้าทำแผลให้จะได้ไม่ติดเชื้อ”
แก้วกาญจน์ยื่นมือที่เป็นแผลส่งให้ป้าปุ๊ทำแผลให้แล้วก็ต้องสูดปากเจ็บเมื่อโดนแอลกอฮอล์ล้างแผล แต่ก็แค่แป๊บเดียวเท่านั้น และพอล้างแผลเสร็จ ป้าปุ๊ก็ติดพลาสเตอร์ที่แผลให้เรียบร้อย
“ดีนะคะที่แผลไม่ลึก”
“ขอบคุณนะคะป้าปุ๊ ว่าแต่แก้วอยู่ได้แค่ในห้องของพี่รามเท่านั้นเหรอคะ แก้วออกไปข้างนอกไม่ได้เหรอคะ”
เฮ้อ!
“ป้าก็อยากจะช่วยหนูแก้วนะลูก ทุกคนก็อยากช่วย เห็นใจและสงสาร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเราก็แค่ลูกจ้าง เมื่อนายสั่งยังไง เราก็ต้องทำตาม อีกอย่างตอนนี้ในหัวคุณรามมีแต่ความแค้น แต่ยังไงหนูแก้วลองพูดกับคุณรามดูนะคะเย็นนี้ เผื่อว่าคุณรามจะใจดีขึ้นมาบ้าง”
“ไม่รู้ว่าพูดไปแล้วจะโดนระเบิดอารมณ์ใส่รึเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ ตอนนี้พี่รามเหมือนเป็นคนละคนไปเลย หยาบคายและไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลยค่ะ ที่สำคัญคือใจร้ายมาก” พูดแล้วก็เจ็บจุกในอกเมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาทำกับตัวเอง เพราะร่องรอยฟกช้ำยังอยู่บนตัวให้เห็น
“ลองพูดดูนะคะ แต่ก็ดูอารมณ์คุณรามก่อนพูดนะคะ ป้ากลัวหนูแก้วจะโดนคุณรามทำร้ายอีก ยิ่งตอนนี้ในหัวของคุณรามมีแต่ความแค้นด้วยแล้ว ระวังด้วยนะคะ อย่าดื้อกับคุณรามนะคะ เพื่อตัวหนูแก้วจะได้ไม่เจ็บช้ำไปมากกว่านี้”
“แก้วจะพยายามค่ะป้าปุ๊ ขอบคุณนะคะ”
“ป้าก็ช่วยได้เท่าที่ช่วยแหละหนูแก้ว ป้าไปทำงานของป้าก่อนนะคะ หนูแก้วพักผ่อนเถอะ เพราะไม่รู้คุณรามกลับมาจะเจอกับอะไรอีก”
“ขอบคุณนะคะป้าปุ๊”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก หนูแก้วก็เหมือนลูกเหมือนหลานป้า กล่องพยาบาลนี่ป้าให้หนูไว้นะ เผื่ออนาคตอาจต้องได้ใช้อีก” นางพูดเหมือนรู้อนาคต ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับล็อกประตูจากด้านนอกไว้เหมือนเดิม
เฮ้อ!
“ชีวิตมันโหดร้ายขนาดนี้เลยเหรอแก้ว ไม่สู้แล้วตายไปดีกว่าไหมแก” เธอพึมพำกับตัวเอง แต่ก็ล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม เพราะตายก็ตายไม่ได้ เธอยังมีพ่อที่ต้องคอยดูแลอยู่
“อุวะ!” รามสูรสบถออกมาด้วยความหัวเสีย เมื่อไอ้โชก ม้าแสนรู้พยศสะบัดเขาตกลงจากหลังมัน พอลุกขึ้นได้ก็รีบลุกขึ้นวิ่งตามไอ้โชก ที่วิ่งไปทางท้ายไร่ทันที
“คุณรามครับ คุณราม...” ไอ้ป้อมร้องเรียกเจ้านายที่วิ่งตามไอ้โชกไปทางท้ายไร่
“ไอ้โชก มึงหยุดเดี๋ยวนี้นะ ไม่หยุดกูยิงมึงทิ้งแน่” เขาร้องตะโกนไล่หลังไอ้ม้าพยศของตัวเองที่วิ่งหน้าตั้งไปทางท้ายไร่ไม่ยอมหยุด ยิ่งหงุดหงิดเมื่อมันไม่ยอมหยุด จนต้องหยุดวิ่งแล้วคว้าปืนที่เอวสอบออกมาเล็งไปทางม้าที่วิ่งอยู่ทันทีพร้อมกับเหนี่ยวไกทันที
ปัง!
แล้วไอ้โชกก็หยุดวิ่งกึกเมื่อเสียงปืนหยุดดัง มันมองไปทางเจ้านายแล้วนอนหมอบลงเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองผิด ด้านรามสูรที่ยิงปืนขู่ไอ้โชกได้สำเร็จก็รีบวิ่งไปหามันทันที และตามหลังมาติดๆ คือไอ้ป้อม
“มึงอวดดียังไงพยศสะบัดกูจนตกหลังฮะ!” พอเดินมาถึงไอ้โชกก็ตะคอกพาลใส่อารมณ์ทันที อยากจะเอาปืนยิงแสกหัวมันนักตอนนี้
ฮี่ๆๆ
ไอ้โชกร้องอย่างสำนึกผิดพร้อมกับแนบหัวถูไถไปกับเจ้านายที่ยืนอยู่ข้างๆ
“มึงเนี่ยนะ ไอ้ป้อมพามันไปเข้าคอกซิ กูจะกลับ”
“ครับ คุณราม” คนที่เพิ่งวิ่งมาถึงยังไม่ทันได้หายใจทั่วท้องก็ต้องรับคำสั่งทันที
“พามันเข้าคอกเสร็จก็ไปดูกล้ากุหลาบที่จะส่งให้ลูกค้าด้วยล่ะ”
“ครับ คุณราม”
ฮี่ๆๆ
“กูไปล่ะ” ว่าแล้วเขาก็เดินจากไปทันที และเก็บปืนไว้ที่เดิม
“เกือบตายแล้วไหมไอ้โชก ช่วงนี้นายมึงผีเข้าผีออกอยู่ด้วย อย่าพยศดื้อให้มากนักเดี๋ยวเป็นศพแบบไม่รู้ตัว” ไอ้ป้อมหันมาพูดกับเจ้าม้า
ฮี่ๆๆ
ไอ้โชกร้องตอบรับคำเหมือนกับเข้าใจคำพูดของไอ้ป้อมก็มิปาน
รามสูรกลับมาบ้านตอนบ่ายโมงพร้อมกับถุงข้าวของที่เขาไปซื้อมาก่อนจะกลับมาบ้าน เป็นเสื้อผ้าสามสี่ชุดและของใช้ส่วนตัวของแก้วกาญจน์ เธอไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมาสักชุด เขาเลยไปซื้อมาให้เธอ พอมาถึงบ้านก็ส่งของให้เด็กรับใช้นำขึ้นไปเก็บบนห้องของตัวเอง และตัวเองก็เดินไปหาป้าปุ๊ที่กำลังทำขนมอยู่ในครัว
“ป้าปุ๊ทำอะไรอยู่ครับ”
“ป้ากำลังทำขนมถังแตกของโปรดคุณรามอยู่ค่ะ”
“ขอบคุณครับ แล้วน้องไอ้นุเป็นยังไงมั่งครับ”
“แล้วอยากให้ป้าตอบแบบเอาใจหรือตอบตามความจริงล่ะคะ” นางอดพูดประชดคนหนุ่มไม่ได้
“ความจริงครับ”
“ก็อย่างที่คุณรามเห็นนั่นแหละค่ะ จะสบายได้ยังไงคะ ถูกจับมาขังแบบนี้ ทำไมคุณรามไม่ปล่อยให้หนูแก้วออกจากห้องบ้างคะ สงสารเธอออก อีกอย่างแผลที่มือ ป้าก็ทำแผลให้แล้วนะคะ”
“ครับ” เขาตอบแค่นั้นสั้นๆ แล้วเดินออกจากห้องครัวไปโดยไม่พูดอะไรต่ออีก พร้อมกับที่คนรับใช้ที่นำข้าวของขึ้นไปเก็บบนห้องเดินสวนกลับเข้ามาพอดี
“กุญแจห้อง” เขายื่นมือไปขอกุญแจห้องกับเด็กรับใช้ พอได้มาก็เดินจากไปทันที
“ป้าปุ๊เหมือนคุณแก้วจะไม่สบายเลยค่ะ ตัวร้อนจี๋เลยตอนหนูเอาของขึ้นไปเก็บ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น”
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอก ยัยเด็กคนนี้เนี่ย” ป้าปุ๊วางมือจากขนมที่กำลังทำทันที แต่ก็นึกได้ว่าไม่ควรไปตอนนี้ เพราะรามสูรเพิ่งขึ้นไปข้างบน
“ไม่ขึ้นไปดูเหรอคะป้า”
“ไปทำไม คุณรามขึ้นไปแล้ว ให้คุณรามดูแลเองเถอะ ก็ทำเขาป่วยเอง” นางพูดแล้วก็หันมาสนใจทำขนมของตัวเองต่อ
“คุณรามเหมือนไม่ใช่คุณรามเลยป้า”
อือ...
“ทำงานของเธอไป อย่าสนใจเรื่องของนายเลย ทุกอย่างมันมีเหตุผลของมันและทุกการกระทำก็มีความจริงแฝงอยู่”
“จ้ะป้า” แล้วทั้งสองก็ช่วยกันทำขนมต่อ
ด้านบนห้อง รามสูรเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมปิดล็อกสนิทมองไปยังเตียงนอนนุ่มที่ตอนนี้มีแก้วกาญจน์นอนขดตัวอยู่บนเตียงและเขาได้ยินเสียงหล่อนครางละเมอจึงรีบสาวเท้าเดินไปใกล้ๆ เผื่อจะได้รู้เรื่องอนุทิน แต่พอเข้ามาใกล้ก็ไม่ได้ยินอะไรมีเพียงเสียงลมหายใจหอบถี่ของหล่อน
ฮือ!
ใบหน้าสวยซีดเซียวอาบชื้นไปด้วยเหงื่อ มือหนายกมือขึ้นอังหน้าผากมนแล้วก็ต้องรีบชักมือกลับทันที
“บ้าเอ้ย! ไม่สบายเหรอเนี่ย”
รามสูรมองหน้าเนียนขาวซีดแล้วก็ลุกขึ้นไปยังห้องน้ำเพื่อหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้หล่อน และพอเดินกลับมาก็เห็นเธอกระชับผ้าห่มกอดหนาวสั่น
“ทำไมต้องเอามาเป็นภาระด้วยวะ” เขาบ่นแต่ก็เช็ดหน้าที่ชื้นเหงื่อให้คนตัวเล็กพร้อมกับถอดเสื้อผ้าเธอออกมาเช็ดตัวให้ พอได้เห็นผิวกายขาวเนียนที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจากฝีมือตัวเองก็อดกำมือแน่นไม่ได้ โกรธ เกลียดตัวเอง แต่ก็แค่วูบเดียวเท่านั้น
“สมควรแล้ว แค่นี้มันยังน้อยไป”