ตอน 2
วันเดินทางไอยรา มาถึงขบวนส่งหญิงสาวขึ้นเครื่องบิน ยิ่งกว่าขบวนตามอารักขาปธาณาธิบดีซะอีกรถยนต์ยุโรปหรูหราสีดำเงาวับร่วมห้าคัน แล่นเข้ามาจอดยังหน้าสนามบินเซ็กแล็บก๊อก ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติฮ่องกงแห่งใหม่ ได้เปิดใช้เป็นทางการในปี 2541 การก่อสร้างสนามบินแห่งนี้เกิดจากการถมทะเลระหว่างสองเกาะ ใช้แทนสนามบินเก่าแก่ไคตั๊ก อยู่ในเกาะเกาลูนซิตี้
“เตี่ย” ไอยราอดลากเสียงยาวเรียกขานบิดาไม่ได้ เมื่อเห็นขบวนยาวเหยียดแห่งกันมาส่งเธอเอิกเหลิกแบบนั้น “เซ็ง” บ่นออกมากระปิดกระปอด ใบหน้าสวยห่อเหี่ยว บิดมักทำอะไรเวอร์เกินเหตุอย่างนี้เสมอ
“อะไรของลื้อเรียกเตี่ยน้ำเสียงแบบนั้น” เอี้ยวใบหน้ามาทางบุตรสาว ไม่เคยเลยจะตามใจบิดา ไอ้ลูกคนนี้
“อะไรกันเตี่ย ไอ้ขบวนนั่นน่ะ” นิ้วชี้ไปทางด้านหลัง ขบวนส่งยาวเหยียด ยิ่งกว่าแห่มังกรวันตรุษจีน
“เอ้า มาส่งลื้อไง ลูกสาวคนสวยของอั๊ว จะเดินทางไปทำงาน มีหรืออั๊วจะพลาด ไปเร็วๆเข้าไปข้างในชักช้าจะตกเครื่องไม่รู้ด้วยนาอาหงสส์” มีมารดาคนเดียวสินะเรียกไอยราว่าน้องไอ ส่วนคนอื่นเรียกอาหงส์กันหมด เอ้า อาหงส์ก็อาหงส์
บิดาเคยบอกเธอไว้ว่า “อั๊วต้องการให้ลื้อเป็นหงส์ผู้งามสง่า เพื่อจะก้าวขึ้นมานั่งบนบัลลังก์มังกร ฉะนั้นลื้อต้องเด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง คุมคนให้อยู่ในอุ้งมือ” นั่นคือคำพูดห้าวหาญ จากปากบิดา ไอยรา ได้ฟังถึงอ่อนใจกับความตั้งใจนั้นนี่เธอต้องรับบทหนักภาระใหญ่หลวงพวกนั้นจริงๆหรือนี่
“ไอ้ที่มันตกเครื่องน่ะ เพราะขบวนส่งของเตี่ยนี่ล่ะ” ค้อนบิดาจากนั้นจึงเดินเกี่ยวแขนมารดา ผู้ไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับการกระทำของบิดา หากแต่บิดาช่างเกรงใจยิ่งกว่าสิ่งใด เรียกว่าเหนือมังกรยังมีหงส์ว่างั้นเถอะ เจ้าพ่อกลัวเมีย
“พวกนั้นมันอยากมาส่งลื้อเอง อั๊วก็ตามใจไหนจะไม่ได้เจอกันหลายเดือน ตามใจพวกอีๆหน่อย” หลิ่วตาไปทางเหล่าบรรดาหลานและญาติๆเพื่อให้เห็นพ้องกับคำพูดของตน
“ตั่วแปะเฉินจางซี อาแปะเฉินจูหลัน ตั่วเจ็กเฉินหม่าตง อาเจ็กเฉินซุ่ยฮั่ว อาวุโสทั้งนั้น ยังบ้าจี้ไปกับเตี่ยอีกหรือ เฮ้อ!! ดีหน่อยที่พวกน้องๆพี่ๆไม่ตามมาด้วย”ไล่เลียงญาติฝ่ายบิดาจนเมื่อยปาก จริงๆแล้วไม่มีใครสักคนต้องการมาส่งไอยรา ต่างคนต่างมีงาน
แต่เพราะเฉินเทียนลู่บังคับแกมข้อร้องให้ตั้งขบวนยาวเหยียดมาส่งไอยราเพื่อกดดันให้เธอ รีบกลับฮ่องกงไวๆ อย่าไปเผลอไผลกับเมืองไทย ที่สำคัญเพื่อไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางเวลาอยู่ห่างไกลสายตาบิดาผู้เข้มงวดอย่างเขา ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องให้ผู้ชายหน้าไหนได้มีโอกาสจีบบุตรสาวแสนสวยเพียงคนเดียวซึ่งเขาเองหวังฝากทุกอย่างในชีวิตไว้กับไอยรา
“ใครบอกล่ะอาเจ้/อาหงส์ ว่าพวกเราไม่มา” ทันใดนั้นเสียงเซ็งแซ่ดังขึ้นทางด้านหลัง เรียกสายตาไอยราให้ต้องหันไปตามเสียงนั้นทันที บรรดาลูกพี่ลูกน้องร่วมสิบชีวิต ต่างแห่มากันเต็มรถพร้อมทั้งลูกน้องบิดา เรียกได้ว่าล้นสนามบินนานาชาติฮ่องกงเลยทีเดียว สนามบินเขาออกจะใหญ่โต เจอเข้าไปครอบครัวสกุลเฉินครอบครัวเดียว
สนามบินกว้างขวางแคบไปถนัดตา ไอยราได้แต่มองตามอย่างปลงๆ มีเพียงบิดาของไอยราสินะมีลูกน้อยกับเขาอยู่คนเดียว ลุงใหญ่ มีลูกสี่คน ชายสามหญิงหนึ่ง ลุงรองมีลูกห้าคน ชายสามหญิงสอง ส่วนน้องบิดาคนแรก ตั่วเจ็กเฉินหม่าตง มีบุตรชายกับบุตรสาว สองคน วัยไล่เลี่ยกับไอยรา เธอจึงสนิทสนมกับลูกของตั่วเจ็กเฉินหม่าตงมากที่สุด
โดยเฉพาะบุตรชายชื่อ เฉินจวินอี้ อายุเท่าๆกับไอยรา เรียนที่เดียวกันในระดับปริญญาตรี รวมทั้งเรียนนอกหลักสูตรตามแผนของบิดาด้วยกัน น้องชายสุดท้องของบิดา เฉินซุ่ยฮั่ว ภรรยาพึ่งท้องลูกที่สองใกล้กำหนดคลอดเต็มที ญาติทางฝ่ายมารดาญาติเยอะก็จริงแต่ไม่วุ่นวายเรื่องมากอย่างครอบครัวบิดาเลยสักนิด ไอยราซ่อนความคิด เธอเคยอยู่บ้านเกิดมารดาที่เมืองไทย ในตอนวัยเยาว์
ช่วงเรียนมัทธยมต้นจนจบมัทธยมปลาย ก็นับว่าเป็นครอบครัวใหญ่แต่ทุกคนแยกย้ายออกไป ประกอบอาชีพมีครอบครัวกันหมด ในขณะที่มารดาของเธอคือบุตรสาวคนเล็ก ของตระกูลกิตติคุณไพศาล แต่งงานกับบิดาและย้ายมาอยู่ยังฮ่องกง ไอยรามักใช้นามสกุลมารดาในการติดต่อกับเมืองไทย คราวนี้ก็เช่นกัน เธอใช้ชื่อ ไอยรา กิตติคุณไพศาล ในการเข้าร่วมงานวิจัยของรัฐบาลไทย
สุดท้ายไอยราต้องยอมรับกับขบวนส่งยาวยิ่งกว่ากำแพงเมืองจีน ผู้คนภายในสนามบินต่างหันมองมายังเธอและญาติๆ นึกว่าบุคคลสำคัญกำลังเดินทาง จริงๆบิดาของเธอคือบุคคลสำคัญไม่แพ้ใครเลยทีเดียว หลังจากล่ำลากันเรียบร้อย เรียกว่ากว่าจะครบทุกคนเล่นเอาหญิงสาวหน้าหมวยคนสวยหน้ามืด อยากจะขอยกเลิกการเดินทางเสียด้วยซ้ำ
หากไม่ใช่เรื่องระหว่างสองรัฐบาลเธอคงได้ทำอย่างนั้นแน่ๆ ไอยราผละจากบิดามารดาด้วยความอ่อยอิ่ง เพื่อไปขึ้นเครื่อง เธอมองหน้ามารดาด้วยความคิดถึง อ้อมกอดจากวงแขนเล็กมารดาอบอุ่นเสมอในขณะที่อ้อมกอดของบิดาแฝงด้วยอำนาจมหาศาลจนเธอรู้สึกร้อน กับคำพูดกำชับนับครั้งไม่ถ้วน อาหงส์ของเตี่ยลื้อคือความหวังของอั๊ว
เท้าเรียวในรองเท้าบู๊ทน่ารัก ก้าวแตะแผ่นดินไทยชีวิต เธอได้จากประเทศนี้ไปนานร่วมหลายปี การเดินทางของเธอสิ้นสุดลง หญิงสาวเข็นกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียว แต่ใหญ่มาก ออกมาตามทางเดิน ไม่มีคณะผู้มาต้อนรับ เพราะเธอมาก่อนกำหนด และครั้งนี้ไม่ใช่การเดินทางมาเมืองไทยครั้งแรก จึงแจ้งความจำนงของดขบวนต้อนรับหรือคนมารอรับ เธอจะเดินทางไปยังที่พักเอง นั่นคือเก็ตเฮ้าส์ ติดต่อไว้ก่อนจะเดินทางมา ทั้งๆ ที่มารดาสั่งให้ไปพักบ้านยาย หรือรัฐบาลเสนอห้องพักแต่เธอปฏิเสธ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ส่วนเรื่องงานรับรองเธอจะทำงานไม่ให้ขาดตกบกพร่องแน่นอน
ขณะสายตาวาวกำลังมองหา ยานพาหนะจะพาเธอไปยังเก็ตเฮ้าส์ ตามที่อยู่บนกระดาษแผ่นเล็กในมือ ฉับพลันร่างบางในชุดทะมัดทะแมง ชนเข้ากับร่างใครอีกคน จนเกือบเสียหลัก เซไปด้านข้างนิดๆ ต่างคนต่างร้องอุทานออกมาพร้อมๆ กัน
“อุ้ย ว้าย !!” สองเสียงดังประสานกัน “ขะ...ขอโทษค่ะ” คำกล่าวขอโทษนั้นดังนั้นพร้อมกันอีกด้วย ผู้หญิง ! ไอยราชนเข้ากับผู้หญิง เธอรีบเงยหน้ามองคนถูกชนหรือชนเธอ หวังจะได้ขอโทษกับความซุ่มซ่ามเธอเองจะ ถ้าไม่มองโน่นนี่อย่างกับบ้านนอกเข้ากรุงเธอคงไม่ได้ชนคนอื่นแบบนี้
“ขอโทษอีกครั้งนะคะ” ยกมือถอดแว่นกันแดดออกจากดวงหน้า อีกฝ่ายได้ฟังคำขอโทษครั้งที่สอง จึงเงยหน้ามองกลับมาเหมือนกัน พลางมือบางอีกฝ่ายถอดแว่นกันแดด ดึงหมวกแก๊ปครอบศีรษะลงเพื่อให้เห็นใบหน้าชัดเจน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินไม่ดูเอง” ฝ่ายนั้นขอโทษด้วยความเกรงใจเหมือนกัน เธอกำลังมองหาใครบางคนนัดให้มารับป่านนี้ยังไม่เห็นมา จึงสอดส่ายตามองหน้าทำให้ชนกับเจ้าของร่างบางสมส่วนหน้าหมวย ว่าแต่ยัยหน้าหมวยคนนี้คุ้นๆ
ไอยรา จ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยความครุ่นคิด เธอเคยพบผู้หญิงคนนี้ที่ไหน หน้าตาคุ้นเคย ดังนั้นจึงทั้งใช้ความคิดตั้งหน้าตั้งตาจ้องอีกฝ่ายละสายตา ฝ่ายนั้นจ้องกลับเช่นกันเอาเป็นว่าทั้งคู่ต่างจ้องมองใช้ความคิดกันทั้งคู่ คราวนี้คนที่คลี่ยิ้มก่อนคือไอยรา ความคิดมามายวนเวียนเข้าในหัว จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก....
“เธอ เอ่อ เธอ” ไอยราพยายามรวบรวมความทรงจำ
“ไอ ยัยไอ แกหรือเปล่า” ฝ่ายนั้นเร็วกว่า ร้องเรียกชื่อไอยราจากริมฝีปากอิ่มชมพูระเรื่อคู่
“ยัยมล ใช่แกจริงๆ ด้วย ไปไหนมา มากับใคร สบายดีไม๊ ทำงานอะไร” คำถามมากมายพ่นออกจากริมฝีปีปากบาง ไอยราตื่นเต้น ละคนดีใจได้มีโอกาสพบกับเพื่อนเก่าแก่แสนสนิทอีกครั้ง แม้จะด้วยความบังเอิญก็นับว่าดีไม่น้อย
“ใช่ฉันมลสิตาเพื่อนของแกไง ถ้าฉันจำไม่ผิด แกยัยไอยราตัวแสบใช่ไม๊”
“ถูกต้อง ฉันไอยรา ยัยมลคนสวย แกนี่เอง” ทั้งคู่กระโดดกอดกันกลม ผมยาวสยายปลิวตามแรงกระโดด ผู้คนทั่วสนามบินสุวรรณภูมิต่างหันมาให้ความสนใจสาวสวยทั้งสองเป็นตาเดียว สายตาทุกคู่ลงความเห็นพ้องต้องกัน ให้อภัย เพราะพวกเธอสวยทั้งคู่ สวยเฉี่ยว สวยหมวย ดูแล้วเพลินตา พวกเราไม่รู้ตัวเลยสักนิดกำลังละลายใจหนุ่มทั่วสนามบินในเวลานี้
ไอยรามีใบหน้าที่สวยอย่างสาวหมวย ท่าทีคล่องแคล่ว น่ารัก ตาชั้นเดียว จมูกโด่ง ผิวขาวใส ใบหน้าเรียว เอวบาง ร่างอ้อนแอ้นในชุดกางเกงเข้ารูป กับรองเท้าบู๊ทสั้นน่ารัก อีกคนสวยมั่นใจ ผมยาวดัดลอนใหญ่สีน้ำตาลอ่อนๆ ในชุดสูทแบบสาวทำงาน ร่างบางบนรองเท้าส้นสูงเย้าอารมณ์เสริมบุคคลิก