ตอนที่ 2. ข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ
“อุ้ย ขอโทษนะคะ คือ...ฉัน” รมิดาพยายามช่วยตัวเอง เธอทรงตัวค่อนข้างลำบาก เพราะมีบางอย่างที่เธอนั่งทับอยู่ ‘กำลังตื่นตัว’ เธอสั่นระริกไปกับไอร้อนที่พวยพุ่งออกมา จนแม้แต่เธอยังรับรู้ได้ เธอไม่คิดว่าแค่การเสียดสี จะปลุกสัญชาติญาณป่าเถื่อนเหล่านั้น เธอยิ้มฝืนๆ พยายามโหย่งตัวไม่ให้ตนเองสัมผัสสัดส่วนลึกลับนั้นได้เต็มที่
ลูเซียนกลอกตา เขาผ่อนลมหายใจ พยายามข่มอารมณ์ดิบของตนเองแทบแย่ แต่แม่สาวเนื้อนุ่มกลิ่นตัวหมอชวนดมคนนี้กลับไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร หล่อนขยุกขยิก แตะนั่นแตะนี่จนอารมณ์ดิบของเขาตื่นเตลิด ลูเซียนเลยสอดมือรั้งเอวบางของหล่อนกดไว้ พร้อมกับกระซิบขู่ “อยู่นิ่งๆ สักนาทีได้ไหมหะ!”
แต่ทุกสายตาที่จับจ้องอยู่ กลับเห็นเป็นอย่างอื่น
นันทิสาถึงกับกัดกรามกรอดๆ ในที่สุดรมิดาก็ฉกปลาย่างที่เธอหมายตาไปจนได้
“ฉันอยากลุกค่ะ” รมิดาพึมพำตอบ
“ผมลุกนานแล้ว อยากให้ผมลุกกว่านี้ เราสองคนควรออกไปจากตรงนี้นะ” ลูเซียนเน้นคำพูดเป็นพิเศษ เขากัดกรามจนสันกรามปูด เพื่อข่มความปรารถนาที่ลุกโหมแบบไม่มีทีท่าว่าจะสงบลงเลยนั่น
รมิดาหน้าแดงแปร๊ด ก้มหน้าหลบ และเผลอตัวดมกลิ่นสะอาดจากแผงอกของชายตรงหน้าด้วย กลิ่นน้ำหอมของเขาไม่ได้ฉุนจัด แต่มีเอกลักษณ์ แบบที่ไม่ใช่น้ำหอมราคาถูกที่วางขายตามตลาดนัดเลย
“ผมไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตาคนอื่นนะ เราออกไปจากตรงนี้กันเถอะ” ลูเซียนก้มลงกระซิบ กลิ่นปากของเขาทำเอารมิดาเหม่อทีเดียว ผู้ชายคนนี้สะอาดหมดจด เขาไม่มีกลิ่นแบบผู้ชายที่รมิดารู้สึกขยะแขยงเจือปนสักนิดเดียว
นันทิสากำมือแน่น หญิงชายตรงหน้ากำลังคลอเคลียกันแบบไม่อายสายตาคนอื่นเลย เธอโมโหสุดขีด เลยเผลอตัวโพล่งออกไปแบบไม่ยั้งคิด “คืนนี้เธอคงจะไม่ ‘หิ้ว’ ผู้ชายคนนี้กลับไปกกใช่มั้ยจ้ะดา?”
รมิดาผวาตาเบิกโพลง เธอมองไปรอบๆ และแอบตกใจกับจำนวนผู้คนที่ยืนล้อมกรอบเธอกับชายผู้นี้ไว้ เธอควรให้คำตอบแบบไหนดีละ ความลับของเธอจะได้ไม่แตกโผ๊วะออกมา
ตอนที่ 2. ข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อ
แลนเดนกลั้นขำจนสั่นไปทั้งตัว เขาจับตามอง ตั้งแต่วินาทีแรกที่สาวแปลกหน้าคนนั้น ถลาล้มบนตัวลูเซียน หากเป็นทุกครั้งนะ ผู้หญิงคนนั้นคงถูกเหวี่ยงออกมานานแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ท่าทางเจ้านายเขา ‘ถูกใจ’ หญิงผู้นั้นไม่น้อย แม้ลูเซียนจะมีท่าทางหงุดหงิด แต่เขาก็ยังพยายามข่มความไม่พอใจไว้สุดฤทธิ์
รมิดาเบิกตาโต เธอมองหน้านันทิสาสลับกับคนแปลกหน้าที่ตนเองยังนั่งอยู่บนหน้าตักของเขา
ลูเซียนเองก็นึกสนุก เขาเอนหลังพิงพนักเบาะ หรี่เปลือกตามองสาวน้อยที่นั่งตัวแข็งทื่อบนหน้าตักตนเอง หลังเขาเอนตัวออกห่าง
“ว่าไง ‘ค่าตัว’ ผมแพงนะ” เสียงทุ้มนุ่มแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน
รมิดาเม้มปาก เธอไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าผู้คน แต่มนุษย์เงินเดือนแบบเธอ การเจียดสตางค์จำนวนมากเพื่อเปย์ผู้ชาย มันไม่คุ้มค่าสักนิด
“ว่าไงยัยดา หรือว่าไม่กล้า!!” นันทิสากระทุ้ง เธออิจฉารมิดาแทบอกระเบิด
รมิดาเชิดหน้าขึ้นสูง “เปล่า ฉันแค่ไม่มีสตางค์” เธอพยายามแก้ตัวสุดๆ แล้ว
“ผมรับบัตรเครดิตครับ” ลูเซียนตอกย้ำ เขายิ้มและมองเลยไปที่แลนเดน เหมือนเป็นการส่งสัญญาณ
“ลูกพี่ นั่นเจ้านายพี่ไม่ใช่เหรอ?” หนึ่งในหนุ่มโฮสสุดฮิตเดินมากระซิบถาม
“เฉยๆ ไว้ อย่าเสร่อเข้าไปสอดเชียวนะ หากไม่อยากหมดทางหากิน” แลนเดนปราม การขัดความต้องการของลูเซียน คือการตัดอนาคตตัวเอง ท่าทางเจ้านายคงสนุกไม่น้อย ขนาดลงทุนยอมรับการเป็นโฮส ทั้งที่ก่อนหน้านี้หัวเสียจนปิดไม่มิด
ไม่มีคำพูด มีแต่เสียงหัวเราะขลุกขลัก คงแปลกใจกับรสนิยมของลูเซียน เพราะหญิงผู้นั้นไม่ใช่ทางของเขาเลย ผู้หญิงตัวเล็ก รูปร่างอ้อนแอ้น แม้ท่าทางจะดูรอบจัด แตกต่างจากที่เคยเห็นลูเซียนควง
แลนเดนเดินแทรกกลุ่มคนเข้าไป “เกิดอะไรขึ้นครับ ผมเป็นเจ้าของที่นี่ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”