ตอนที่ 6 แดดมันร้อน
“ไม่มีอะไรครับ คุณไปอาบน้ำเถอะ” รอยยิ้มเอ็นดูปรากฏขึ้น เมื่อเห็นท่าทางของเธอ
“ค่ะ” ท้าวเล็กก้าวไปข้างหน้าช้าๆเพื่อจะผ่านประตูที่เขากำลังยืนขวางอยู่
เฉินซื่อซีหัวเราะ เมื่อหญิงสาวยืนทำหน้าไม่แน่ใจว่าจะทำอย่างไรดี ที่เขาไม่ยอมถอยให้เธอ ชายหนุ่มเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อให้เธอกลับเข้ามาด้านในบ้าน แต่ไม่ยอมก้าวถอยหลังเพื่อหลบร่างเล็กที่ยังยืนทำหน้าไม่เข้าใจอยู่
“ไม่ไปอาบน้ำเหรอครับ” คำถามนี้ราวกับกำลังแกล้งหญิงสาว
“เอ่อ ไปค่ะ” ซินซินทำหน้างงเล็กน้อย แต่ก็ก้าวเท้าเพื่อเดินผ่านเขาเข้าไปในบ้าน
คราวนี้ร่างสูงยอมก้าวถอยหลังหลบให้แต่โดยดี โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่ทันได้รู้สึกตัว ว่าแววตาที่เขามองหญิงสาวตัวเล็กมันเต็มไปด้วยความเอ็นดู
หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ซินซินก็ออกมาจากห้องนอน และเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของหญิงสาว เธอจึงแต่งตัวสบายๆด้วยกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดพอดีตัว เพราะถึงอย่างไร อากาศที่ประเทศไทยก็เป็นอากาศที่ค่อนข้างร้อน อีกทั้งวันนี้เธอยังต้องทำขนมอีก จึงต้องการความคล่องตัวในการทำงาน
“มีอะไรให้ผมช่วยไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจัดการเองดีกว่า ขอบคุณนะคะ”
รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าคนตัวเล็ก ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องครัว หยิบจับข้าวของเพื่อสำรวจวัตถุดิบที่เธอต้องการจะใช้ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นเล็กน้อยเมื่อวัตถุดิบหลักอย่างไข่ไก่มีไม่พอ
“คุณอยู่คนเดียวได้ไหมคะ พอดีของที่ฉันต้องใช้มันไม่พอ ฉันต้องออกไปซื้อ”
“ให้ผมไปด้วยไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพักผ่อนเถอะ”
คนตัวเล็กเข้าไปหยิบกุญแจรถในตู้เก็บกุญแจตรงข้างประตูห้องนอนแล้วเตรียมจะออกจากบ้าน ไม่ทันได้สังเกตว่าสายตาดุของร่างสูงกำลังสำรวจเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่
“คุณไปเปลี่ยนกางเกงดีไหม ผมว่ามันสั้นไปสำหรับใส่ออกข้างนอกนะ”
“หืม ก็ไม่สั้นนะ ที่นี่ก็ใส่แบบนี้กัน อากาศมันร้อนน่ะค่ะ”
“เอาเป็นว่าผมให้คุณไปเปลี่ยนครับ”
“…..ค่ะ”
หญิงสาวตัวเล็กเดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวด้วยความไม่เข้าใจ แต่เธอก็ยอมกลับเข้าไปเปลี่ยนกางเกงแต่โดยดี เธอคิดว่าสายตาที่เขามองตอนที่บอกให้เธอเปลี่ยนกางเกงมันดูน่ากลัวจนเธอไม่กล้าขัดใจ
หญิงสาวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่ได้ปิดประตูห้องนอน เพราะห้องแต่งตัวของเธอที่อยู่ภายในห้องนอนก็มีประตูกั้นอยู่ หญิงสาวจึงปิดแค่ประตูห้องแต่งตัวเท่านั้น โดยไม่ทันรู้ว่าคนตัวสูงอย่างเฉินซื่อซีเดินตามหลังเธอเข้ามาในห้องนอนด้วย
ชายหนุ่มหย่อนตัวนั่งลงบนปลายเตียงนอนของหญิงสาว เขามองสำรวจห้องด้วยสายตาพอใจ
เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จมือเล็กก็เปิดประตูห้องแต่งตัวแต่ก็ต้องชะงักเท้าไป เมื่อสายตาเห็นว่าเธอไม่ได้อยู่ในห้องคนเดียว
“อื้ม ผ่าน”
“เอ่อ ค่ะ”
“ผมไปด้วยดีกว่า”
“…..”
เมื่อพูดจบร่างสูงก็ลุกขึ้นยืนและเดินนำออกจากห้องไป ซินซินมองตามเขาด้วยสีหน้าไม่เข้าใจแต่ก็เดินตามออกเขาไป
หญิงสาวปิดประตูบ้านด้วยรีโมตก่อนจะเคลื่อนรถออกไป จนเมื่อมาถึงตลาดสดเธอก็เตรียมตัวจะลงจากรถ
“คุณจะลงด้วยไหม ข้างล่างมันค่อนข้างร้อน”
“ลงสิ”
“ใส่แค่แมสก็ได้ค่ะ ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นแม่ค้า พวกเขาไม่ใช่คอซีรี่ย์ จะไม่ค่อยรู้จักดาราต่างชาติค่ะ”
“จ้ะ”
เมื่อลงจากรถกันเรียบร้อย หญิงสาวเปิดประเป๋าสะพายข้างของเธอเพื่อเก็บกุญแจรถ แต่ก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆก็มีเสื้อมาคลุมไหล่เธอเอาไว้
“แดดมันร้อน”
“อ่อ ค่ะ…..” ดวงตากลมโตหรี่ลงเล็กน้อย แต่ก็เดินตามชายหนุ่มที่เดินนำไปก่อนแล้ว
หญิงสาวเปลี่ยนมาใส่กางเกงผ้าขายาวกับเสื้อกล้ามสีขาว เผยให้เห็นลาดไหล่เล็กบอบบางกับผิวที่ขาวสว่างจนไม่ว่าใครผ่านก็ต้องหันกลับมามอง
ที่หน้าอกด้านซ้ายของหญิงสาวมีรอยสักเป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่แปลว่าสิ่งที่ฉันเป็น กับที่แผ่นหลังเป็นรูปดอกคาเนชั่นสีชมพูมีตัวเลขตรงก้านดอกไม้
“ซินซิน”
“คะ”
“ที่คุณสัก…..”
“ค่ะ”
“คืออะไรเหรอ”
“ก็หมายถึงสิ่งที่ตัวฉันเป็นน่ะค่ะ ฉันสักตรงด้านซ้ายเพราะมันอยู่ฝั่งหัวใจ หมายถึงฉันรักตัวฉัน รักในสิ่งที่ฉันเป็น”
“ความหมายดีจัง”
หญิงสาวไม่ตอบอะไร ได้แต่ส่งยิ้มให้เขา เธอมั่นใจว่าเขาน่าจะยังไม่เห็นรอยสักอีกที่ตรงแผ่นหลังของเธอ
หลังจากที่ซื้อของเสร็จก็พากันกลับบ้าน หญิงสาวลงมือทำขนมโดยที่มีเฉินซื่อซีคอยมายืนมองหญิงสาวเป็นระยะ เขารู้สึกว่ากิริยาของหญิงสาวมันดูน่ามองน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
“คุณ…..รับโทรศัพท์ให้ฉันหน่อยได้ไหม”
“ไม่มีปัญหา”
ระหว่างที่หญิงสาวกำลังจะเอาขนมเค้กออกจากเตาอบเสียงแจ้งเตือนสายเรียกเข้าก็ดังขึ้น หญิงสาวจึงจำเป็นต้องให้เขารับสายให้เธอ เพราะถ้าไฟในเตาอบดับลงแล้วไม่รีบเอาขนมออกจากเตา เนื้อขนมจะยุบลงเธอจึงต้องรีบเอาขนมออกมา
ชายหนุ่มเดินเข้ามาในครัวแล้วหยิบโทรศัพท์ของหญิงสาวมากดรับสายแล้วเปิดลำโพงให้เธอ
“มึง อยู่บ้านไหม”
“อยู่ ทำไม จะมาเหรอ”
“เออ ว่าง เดี๋ยวเข้าไปหา กำลังจะออกไป”
“แป๊บนะมึง” หญิงสาวส่งสัญญาณให้ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆกดปิดลำโพงก่อนที่เธอจะถามเขาเสียงเบา
“คุณ เพื่อนสนิทฉันจะมา คุณโอเคไหม แต่เธอน่าจะไม่รู้จักคุณหรอก”
“อื้ม มาสิ ไม่มีปัญหา”
“โอเค” เมื่อคุยกันเสร็จคนตัวเล็กก็หยิบโทรศัพท์มาถือแนบหู เพื่อบอกให้เพื่อนมาได้ก่อนจะกดวางสาย
“คุณไม่เป็นไรแน่นะคะ”
“ไม่เป็นไร ผมไม่ซีเรียส”
“อ่อ ค่ะ”
หลังจากตกลงกันเสร็จหญิงสาวก็อบขนมต่ออีกชุด จนกระทั่งเมื่ออบเสร็จก็พักเนื้อเค้กเอาไว้ให้เย็นเพื่อรอแต่งหน้าเค้กต่อ ก็พอดีกับที่เพื่อนของเธอมาถึงที่บ้าน หญิงสาวมองสบตากับร่างสูงก่อนจะเดินออกไป