ลูกชายผู้เกรี้ยวกราด
“ ปากจัดแบบนี้ สงสัยจะไม่ชอบผู้หญิง สงสัยจะเป็นพวกวิปริตผิดเพศตุ๊ดแต๋ว ชอบเพศเดี๋ยวกันล่ะสิท่า ”
“ ผมเคารพทุกเพศบนโลกใบนี้ และพวกเขานั้นไม่เห็นว่าจะวิปริตอะไรตรงไหน ถ้าจะมีใครสักคนวิปริต คนคนนั้นก็น่าจะเป็นผู้หญิงอย่างคุณนี่แหละ ที่อยู่ ๆ ดี ๆ ก็มานั่งแหกแข้งแหกขาต่อหน้าผู้ชายแบบนี้ ”
“ อร๊าย ไอ้บ้าธิเบต ไอ้ทุเรศ ไอ้ปากจัด คอยดู๊ ฉันจะฟ้องแดดดี๊ให้หมด ให้เอาเรื่องแกกับพ่อแก ”
“ เชิญเลย แล้วอย่าลืมบอกพ่อคุณมาเอาเรื่องผมที่บริษัทด้วยนะ ผมจะได้เปิดภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดให้ท่านดู ว่าลูกสาวท่านมีพฤติกรรมแบบไหน ”
เสียงกรีดร้องราวกับเปรตขอส่วนบุญดังห้องแทบแตก เล็ดลอดออกไปถึงนอกห้อง พริมาเลขานุการรีบกดโทรศัพท์เรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้าไปในห้องเจ้านายโดยพลัน
“ เกิดอะไรขึ้นคะบอส ”
“ เรียก รปภ. มาลากผู้หญิงสติไม่ดีคนนี้ออกไปที ” เขาว่าพลางก้าวฉับ ๆ ออกจากห้อง แต่ก่อนประตูจะปิดลง ยังอุตส่าห์หันกลับมากำชับ
“ อ้อ แล้วรบกวนคุณพริมาเอาน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาทำความสะอาดที่โต๊ะให้ด้วยนะครับ ” แล้วหันหลังเดินเข้าลิฟท์ ทิ้งไว้ก็แต่เสียงกรีดร้องโหยหวนไล่หลังมาก่อนประตูลิฟท์จะปิดลง
ธิเบตสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามข่มอารมณ์ให้สงบลง ประตูลิฟท์เปิดออก เขาสาวเท้าออกมาจากที่นั่นแล้วตรงไปยังร้านกาแฟหรูที่อยู่ติดกับบริษัททันที
***
รถยนต์คันหรูวิ่งฉิวไปบนถนนแถบชานเมืองในเวลาตีสี่ครึ่ง คนขับปิดปากหาวหวอด ๆ เป็นระยะ ทำเอาท่านอลังการที่นั่งอยู่ตอนหลังหัวเราะออกมาขำ ๆ
“ ไอ้พวกคนหนุ่มนี่พอให้ตื่นเช้าเข้าหน่อยละก็ทำเป็นคนสามหาวเชียวนะ ไม่สิ นี่มันเลยสามหาวมาหลายหาวแล้ว ”
สุรเดชพลขับหัวเราะออกมาแห้ง ๆ
“ ผมต้องขอประทานโทษด้วยครับคุณท่าน หนุ่มเหนิ่มที่ไหนล่ะครับ ปีนี้ผมก็สี่สิบแปดแล้ว ดูแก่กว่าคุณท่านอีกหลายสิบกอง ”
“ ไม่ต้องมาพูดเอาใจหรอก คนแก่อย่างฉันเนี่ยมันชินแล้ว ตื่นมาทำไมก็ไม่รู้ตั้งแต่ตีสามทุกวัน สมาธิก็แล้ว อะไรก็แล้ว ยิ่งตอนนี้มีเรื่องให้คิดมันก็เลยอยู่ในห้องไม่ได้ มันยิ่งฟุ้งซ่าน สู้ออกมาชมนกชมไม้บ้างดีกว่า ไอ้เรามันก็คนเมือง มาสายรถมันก็ยิ่งติด แทนที่จะได้รีแล็กซ์กลับยิ่งเครียดหนัก ”
“ คุณท่านมีเรื่องไม่สบายใจหรือครับ ” ท่านอลังการผ่อนลมหายใจออกมายาว ๆ
“ จะเรื่องอะไรเล่า ก็เรื่องนายน้อยของแกนั่นแหละ ตั้งแต่แม่หนูสายชลแต่งงานกับพ่อสงครามคู่รักของเขาไปธิเบตมันก็สภาพไม่ต่างจากผีดิบ ปากมันก็บอกรับได้ ๆ ทำใจได้ แต่ไปดูมันตอนนี้สิ ตั้งแต่กลับมาจากนอก มาทำงานช่วยที่บริษัท พฤติกรรมต่าง ๆ ของมันก็ผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ อารมณ์ร้อน ปากร้าย เหม่อลอยไร้สติอยู่บ่อย ๆ ชอบนั่งซึมกะทือเหมือนไก่เป็นห่าไม่มีผิด ”
“ หา ! ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะครับคุณท่าน คุณธิเบตนี่ปกติน่ารักจะตาย เป็นกันเองและมนุษยสัมพันธ์ดีด้วย ”
“ ก็นั่นแหละ ฉันถึงได้หนักอกหนักใจอยู่นี่ไง ตอนนี้มันกลายเป็นคนเย็นชา เก็บตัวอยู่แต่ในบ้านไม่ก็ขลุกอยู่แต่กับงาน อารมณ์ฉุนเฉียว ใครก็เข้าหน้าไม่ติด เหมือนคนจะเข้าสู่วัยทอง ไม่ก็ผู้หญิงเป็นระดูอะไรทำนองนั้น ” สุรเดชหัวเราะขำ
“ แหม คุณท่านก็ช่างเปรียบเสียจริงครับ ”
“ ก็มันจริงนี่นา ฉันก็ได้แต่ปวดกบาล ไม่รู้จะทำยังไงให้มันหาย ก็บอกมันนะว่าให้พักเรื่องงาน บินไปเที่ยวต่างประเทศสักพัก เผื่ออะไร ๆ มันจะดีขึ้น มันก็ไม่ฟัง ไอ้พ่ออย่างฉันก็กลัวมันเครียดจัดแล้วจะกลายเป็นโรคซึมเศร้าอะไรไปนู่น ไม่อยากจะพูดหรอกนะว่าไอ้โรคนี้น่ะ บางทีมันทำให้คนคิดสั้นได้ถ้าไม่บำบัด ไม่รักษา ฉันมีกันแค่สองคน พ่อลูก ยังไงก็ขอให้ได้ตายก่อนลูกเถอะ ไหน ๆ เมียก็ตายก่อนฉันแล้ว อย่าให้ฉันต้องเสียใจแบบนั้นอีกเลย ” สุรเดชนั่งเงียบอยู่พักหนึ่งพลันก็ดีดนิ้วเป๊าะ
“ ผมคิดออกแล้วครับคุณท่านว่าจะใช้วิธีไหนช่วยคุณหนู ” ผู้เป็นนายเลิกคิ้ว
“ ยังไงวะ ”
“ ตอมันเกิดจากอะไร เราก็แก้ที่ตอสิครับ ”
“ บอกมาตรง ๆ ไม่ต้องมามัวสำบัดสำนวน ”