ปากเป็นอะไร
ร่างสูงใหญ่ที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเงยขึ้น คิ้วเข้มขมวดมุ่นทันทีที่เห็นคนแปลกหน้าผู้มาเยือน ก่อนเอ่ยถามเสียงเรียบ
“ คุณเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่ ” ริมฝีปากอวบอิ่มที่พึ่งฉีดไขมันมาให้ละม้ายคล้ายแองเจลีน่า โจลี่ เผยอคลี่ยิ้มก่อนจือปากอย่างเซ็กซี่ หากอีกฝ่ายทักท้วงขึ้นก่อนที่เธอจะได้ พูดอะไร
“ ปากเป็นอะไร เส้นยึดหรือเปล่า ”
“ อุ๊ย ไม่ใช่ค่า แค่คีพลุ้คเซ็กซี่ นี่พีชชี่ไงคะ ธิเบตจำไม่ได้เหรอ พีชชี่ ลูกสาวคนสวยของแดดดี๊พจน์น่ะค่ะ เราเคยเจอกันสมัยเด็ก ๆ ”
“ ลุงพจน์น่ะผมรู้จัก จำได้ว่าท่านมีลูกสาวชื่อ พีชราเคยเล่นด้วยกัน ”
“ นั่นล่ะค่ะ พีชชี่คนนี้เอง ”
“ แล้วทำไมต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้มันไม่ดียังไง ”
“ แหม ธิเบตก็ พีชชี่ไปอยู่เมืองนอกตอนเรียนยูนิเวอร์ซิตี้ ก็ต้องตั้งชื่อให้เรียกง่ายหน่อยสิคะ ”
“ ผมไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่ไฮสคูล ไม่เห็นจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร ผมก็ยังพูดไทยชัดเป๊ะ ยังคงรักวัฒนธรรมของบ้านเกิดเมืองนอนเหมือนเดิม ไม่เห็นต้องทำตัวโอเว่อร์ ” หญิงสาวหน้าเสียนิดหนึ่งหากก็เรียกรอยยิ้มกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปยืนข้าง ๆ ชายหนุ่ม เขาลุกขึ้นยืนและถอยหลังห่างจากเธอทันที
“ แล้วคุณมีธุระอะไร ทำไมจึงมาที่นี่ ”
“ ก็คุณลุงอลังการน่ะสิคะ โทรติดต่อมาที่แดดดี๊ของพีชชี่เองเลย ทันทีที่ทราบว่าพีชชี่กลับมาจากลอนดอน เพื่อจะติดต่อให้พีชชี่มาทำหน้าที่เลขาพิเศษให้กับธิเบตน่ะค่ะ ” ใบหน้าหล่อเหลาขรึมเคร่งทันที คิ้วที่ขมวดปมอยู่แล้วยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่ สันกรามถูกขบจนนูน แล้วเอ่ยลอดไรฟันออกมาเบา ๆ
“ เอาอีกแล้วนะ คุณพ่อ ”
“ ว่าไงนะคะ ” เธอถามย้ำ ก่อนสาวเท้ายาว ๆ เข้าหาร่างสูงใหญ่ ที่เขารีบดันเก้าอี้มาขวางไว้ราวกับเธอเป็นอะไรบางอย่างที่น่ารังเกียจเหลือเกิน หากนั่นไม่ใช่ปัญหาของพีชชี่ เพราะข้อมูลที่เธอได้มาคือ ซีอีโอหน้าหยกคนนี้เป็นหนุ่มหล่อแสนขี้อาย เดี๋ยวเสือสาวอย่างพีชชี่จะสอนให้หายอายไปเลย
อย่างไม่คาดคิด อยู่ดี ๆ เธอก็ก้าวขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานเขาหน้าตาเฉย ขาสองข้างแหกกว้างออกจนเดรสร่นขึ้นไปบนต้นขาขาวอวบ เปิดเปลือยให้เห็นจีสติงตัวจิ๋วสีขาวเนื้อผ้าบางเฉียบจนมันไม่สามารถปิดบางอย่างภายในได้มิด ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญญา เพราะจุดประสงค์ของผู้สวมใส่ไม่ได้ต้องการจะปกปิดมันอยู่แล้ว
“ ธิเบตสัมภาษณ์พีชชี่สิคะ จะสัมนอกสัมใน สัมลึกสัมแรงแค่ไหนได้ทุกอย่างเลยค่ะ ” ธิเบตยืนนิ่ง มองไปยังหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา ไร้ปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งสิ้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นเบา ๆ
“ พ่อคุณรู้หรือเปล่าว่าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้ ” เธอเลิกคิ้วอย่างงุนงง
“ แล้วไปเกี่ยวอะไรกับแดดดี๊ล่ะคะ นี่มันเรื่องของเรา ” เขาส่ายศีรษะ
“ ไม่ใช่เรื่องของเรา มันเรื่องของคุณคนเดียวล้วน ๆ อย่าเอาผมไปเกี่ยว ”
“ ตอนนี้ยังไม่เกี่ยว แต่อีกไม่เกินห้านาทีก็เกี่ยวแล้วล่ะค่ะ ” เธอว่า พลางยกมือขึ้นตะปบทรวงอกใหญ่โตของตนแล้วบีบคลึง ใบหน้าแสดงท่าทางเซ็กซี่ยั่วยวนขั้นสุด แต่ชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าแสยะปาก ก่อนสบถออกมาอย่างเหลืออด
“ น่ารังเกียจที่สุด ” พีชชี่หยุดการกระทำทั้งปวงก่อนถามย้ำอย่างแปลกใจ
“ เมื่อกี้คุณว่าไงนะ ”
“ ผมบอกว่า น่ารังเกียจที่สุด ตั้งแต่ผมเกิดมา ไปอยู่เมืองนอกมาหลายปี ผมยังไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนทำตัวน่าเกลียดเท่าคุณมาก่อน จะเปรียบเทียบกับอะไรดีล่ะพวกผู้หญิงบาร์ สาวอะโกโก้ เขาทำอย่างนั้นก็เพราะเป็นงาน แต่คุณเดินเข้ามาในห้องผมแล้วมาแสดงท่าทางยั่วยวนทางเพศอย่างโจ่งแจ้ง ผมไม่รู้จะใช้คำไหนว่าบัญญัติพฤติกรรมนี้ของคุณได้เลย แล้วกรุณาลงมาจากโต๊ะทำงานของผมด้วย ผมเอาไว้ใช้ทำงาน คุณควรจะรู้จักเคารพคนอื่นบ้าง ” คำพูดนั้นโคตรตำใจเธอเหลือเกิน พีชชี่หน้าร้อนผ่าว กระโดดลง จากโต๊ะ ตาเหลือกลานด้วยความโมโห ความงามงดที่บรรจงแอ๊บแอ้ขึ้นมาเป็นหน้ากาก ตอนนี้หายไปเสียสิ้น เหลือเพียงนางยักษ์ขมูขีที่จ้องชายเบื้องหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ