ตอนที่ 3 เล่นแบบนี้ใช่ไหมมิลิน
มิลินรดาหมดทางเลือกเพราะทั้งกระเป๋าและมือถือถูกเขายึดเอาไว้จนหมด เธอถูกบังคับให้นั่งที่เบาะหน้าคู่กับเขาพร้อมกับรัดเข็มขัดให้เรียบร้อย รถหรูขับออกมาจากตึกใหญ่ใจกลางกรุงในตอนเช้าออกมาที่ถนนที่ค่อนข้างโล่งในวันหยุด
“บอสจะไปกินข้าวที่ไหนเหรอคะ”
“ถึงแล้วก็รู้เอง”
“แต่มิลินไม่หิว”
จ๊อก…..
เสียงท้องที่ร้องออกมาสวนทางกับคำพูดของเธอทำให้เขาหลุดขำออกมาเล็กน้อยแม้ว่าจะยังทำหน้าดุอยู่แต่คนที่นั่งข้าง ๆ ก็ก้มหน้าอายจนพูดอะไรไม่ออก
“คนปากแข็ง”
ร้านอาหาร
มิลินกินทุกอย่างที่ถูกยกมาจานแล้วจานเล่าทั้งไข่กระทะ ขนมปังทาเนยและไส้กรอกอเมริกันกับน่องไก่อบที่เขาสั่งมาวางให้เธอเลือกเพราะไม่รู้ว่าเธออยากกินอะไร ร้านนี้อยู่ไม่ห่างจากที่ทำงานมากนักเมื่อเธอกินจนอิ่มเขาก็สั่งให้บริกรเทน้ำส้มคั้นสดให้เธอเพื่อเป็นการล้างปาก
“อิ่มหรือยัง”
“อิ่มมากเลยค่ะขอบคุณค่ะบอส”
“อืม”
เธอยกผ้าขึ้นมาเช็ดปากพอดีกับเสียงมือถือของเขาที่สั่นขึ้นมา เขามองไปและหันมามองเธอ
“ขอตัวรับสายก่อนนะ”
“ค่ะ”
ภูวินทร์เดินไปรับสายสำคัญที่โทรเข้ามาและคุยอยู่ประมาณห้านาที เมื่อกลับมาที่โต๊ะก็พบเพียงแค่กระดาษโน้ตลายมือของมิลินที่วางทิ้งเอาไว้
“ขอบคุณสำหรับอาหารเช้านะคะ มิลินมีธุระด่วนขอกลับก่อน ขอบคุณค่ะ”
ภูวินทร์กำหมัดแน่นและขยำกระดาษโน้ตในมือแน่นและทิ้งที่พื้นทันทีพร้อมกับเรียกเก็บเงินแต่พนักงานกลับบอกว่ามิลินรดาเป็นผู้จ่ายค่าอาหารทั้งหมดไปแล้วยิ่งทำให้เขาโมโหเธอมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“มิลินรดา เล่นแบบนี้ใช่ไหมแล้วจะได้เห็นดีกัน”
มิลินจำแทบไม่ได้เลยว่าเธอกลับมาถึงที่ห้องได้ยังไง รู้แค่ว่าสิ่งเดียวที่เธอทำได้ตอนมาถึงที่ห้องคือล้มตัวลงนอนและหลับสนิทราวกับกินยานอนหลับเข้าไปและตื่นมาอีกทีตอนเย็นของวันเสาร์
“อะไรเนี่ย หกโมงเย็นแล้วเหรอ”
เพราะเธอกินอาหารเช้ากับภูวินทร์มาเยอะในตอนนี้เธอจึงหลับได้ยาวและสนิทจนเริ่มหิวอีกครั้งเพราะถึงช่วงเย็นแล้วนั่นเอง
“กินอะไรง่าย ๆ ก็แล้วกัน”
วันหยุดของเธอผ่านไปรวดเร็วเหลือเกินเพราะเอาแต่นอน ดูเหมือนว่ามิลินจะค่อนข้างอ่อนเพลียและมัวแต่คิดวนไปถึงเรื่องในคืนวันศุกร์จนเมื่อรู้ตัวอีกทีก็ต้องกลับมาทำงานในวันจันทร์
“แย่จริง รอยบ้านั่นยังไม่หายเอาอะไรปิดดีล่ะ”
เธอเปิดไปที่ต้นคอที่ยังเหลือรอยแดงช้ำอยู่ ซึ่งตามตัวของเธอยังมีอีกหลายจุด เธอยอมรับว่าบอสหนุ่มเก่งเรื่องเซ็กส์มากจนเธอที่ขาดเรื่องนี้มานานหลังจากที่เลิกกับแฟนเก่ายังรู้สึกว่ามันดีกว่าทุก ๆ ครั้งที่เคยมีเซ็กส์มา
“ตายล่ะ จะสายแล้ว”
รถไฟฟ้าที่คนเริ่มแน่นในตอนเช้าแต่นี่เป็นการเดินทางเดียวที่รวดเร็วและไม่ต้องเสี่ยงกับรถที่ติดข้างล่างนั่น เธอมาถึงบริษัทได้ในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เมื่อเดินเข้าไปสแกนบัตรที่ตึกและรอลิฟต์อยู่ก็ต้องตกใจเมื่อเพื่อนร่วมงานเธอเดินมาทักทาย
“มิลินน้อยของเราวันหยุดนอนยาวเลยสินะ”
“พี่อุ่น ตกใจหมดเลยค่ะ”
“เอ๊ะ ทำไมวันนี้ปล่อยผมมาล่ะ พี่ว่าทำทรงนี้ก็สวยดีนะดีกว่ามัดรวบตึงเอาไว้ หน้าผากเถิกเปิดรับทรัพย์ก็จริงแต่แบบนี้ดูดีกว่าเยอะเลย”
“จริงเหรอคะ มิลินว่า…”
“อะแฮ่ม!!”
“เสียงกระแอมด้านหลังทำให้พวกเธอสะดุ้ง เมื่อหันไปต้องตกใจอีกครั้งเพราะไม่ใช่ใคร “ภูวินทร์" บอสหนุ่มหน้าดุและเคร่งขรึมของพวกเธอนั่นเอง เขาหันมามองที่มิลินเล็กน้อยก่อนจะหันไปคุยกับอุ่น พนักงานแผนกเดียวกัน
“สวัสดีค่ะบอส มาแต่เช้าเลยนะคะ”
“สวัสดี พวกคุณยืนขวางลิฟต์อยู่น่ะจะไปหรือเปล่า”
“อ้อ ขอโทษทีค่ะบอสเชิญค่ะ ๆ”
ภูวินทร์เดินเข้าไปในลิฟต์ก่อนพวกเธอ มิลินลังเลเล็กน้อยก่อนจะหันมาบอกอุ่นพี่สาวในแผนกเดียวกันด้วยท่าทีที่เร่งรีบ
“ลืมไปเลยพี่อุ่นมิลินต้องซื้อกาแฟก่อน พี่อุ่นขึ้นไปก่อนเลยนะคะ”
“อ้าวเดี๋ยวสิมิลิน…ไปเสียแล้ว”
อุ่นเดินเข้าไปในลิฟต์ที่เปิดรอเอาไว้ ลิฟต์ขึ้นไปแล้วมิลินที่เดินมาซื้อกาแฟที่ร้านใต้ตึกก็รีบสั่งเครื่องดื่มเพื่อจะนำขึ้นไปดื่มในตอนเช้าด้วย
“คาปูชิโน่ร้อนหวานน้อยกับขนมปังเนยนมสองคู่ค่ะ”
“ได้ค่ะคุณผู้หญิง”
“อเมริกาโน่ร้อนแก้วหนึ่ง คิดรวมกันเลย”
มิลินต้องตกใจเมื่อเสียงที่ดังอยู่ข้างหลังเธอไม่ใช่คนอื่นและเธอเองก็ไม่จำเป็นต้องหันไปเพราะจำได้แม่นว่าเป็นเสียงของใครเมื่อเขากำลังใช้มือถือสแกนจ่ายเงินร้านค้าเธอก็รีบขยับแต่มือหนาของเขาคว้าไหล่เธอเอาไว้แน่นจนไม่สามารถเดินหนีไปได้
“จะรีบไปไหนล่ะ ต้องรอกาแฟก่อนสิมานั่งรอตรงนี้…ด้วยกันก่อนสิ”
มิลินหลับตาเพราะสุดทางที่จะหนี เธออุตส่าห์ไม่ขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับเขาแต่เขากลับตามเธอมาที่ร้านกาแฟโดยที่เธอเองก็ไม่ทันได้สังเกต
“เงียบทำไมล่ะ ผมดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
มิลินไม่อยากจะบอกจะบอกเลยว่าเขาน่ากลัวมากกว่านั้นเสียอีก เธอไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาทักแบบนี้ทั้ง ๆ ที่เรื่องเมื่อวันศุกร์นั้นเธอพยายามจะลืมไปหมดแล้ว
“ทำไมไม่ตอบล่ะ”
“ฉันไม่รู้จะตอบอะไรนี่คะบอสจะถามอะไรล่ะคะ”
“มิลินรดา คุณ…”
“กาแฟได้แล้วค่ะ”
มิลินกำลังจะคว้าแก้วกาแฟแต่ถูกเขาดึงไปเพราะพนักงานคิดว่าพวกเขามาด้วยกันจึงได้จัดใส่กล่องเดียวแบบหิ้วมาให้
“เดี๋ยวก่อน นั่งคุยกันก่อนสิ”
“แต่ว่าจะสายแล้วนะคะมิลินกลัวจะ…”
“ผมเซ็นให้คุณได้ว่าไม่ได้มาสายแต่คุยงานกับผมอยู่ หรือว่าคุณอยากไปกินกาแฟต่อในห้องทำงานของผมล่ะ”
สายตาของเขาพุ่งตรงมองเธอราวกับจะกลืนกินเธอเสียให้ได้เมื่อดึงกาแฟและขนมปังของเธอไป
“บอสมีอะไรก็พูดมาสิคะ”
“เมื่อวันเสาร์…”
“มิลินมีธุระจริง ๆ นะคะก็เลยรีบไปเพราะไม่อยากรบกวนเห็นว่าบอสติดสายอยู่แต่ว่ามิลินก็จ่ายค่าอาหารให้แล้ว”
“ใครจะสนใจว่าคุณจะจ่ายหรือไม่จ่ายค่าอาหารนั่น!!”
เสียงของเขาดังพอที่จะทำให้คนที่นั่งดื่มกาแฟในร้านหันมามอง มิลินคุ้นเคยกับเสียงกระแทกที่เขาใช้เพราะเขามักจะใช้บ่อย ๆ ตลอดหลายเดือนที่เธอทำงานกับเขามา
“บอสคะ ที่นี่ไม่ใช่ห้องประชุมนะคะ”
“ตามผมมา”
“ไปไหนเหรอคะ”
“ไม่พาคุณไปฆ่าหรอกน่ะตามมา”
เธอต้องเดินตามเขาไปแม้ว่าจะไม่อยากทำแต่เพราะเขาเป็นเจ้านายกึ่งหัวหน้างานโดยตรง แม้ว่าจะขัดคำสั่งได้ในวันนี้แต่ก็ต้องเจอกันทุกวันอยู่ดี
ห้องทำงานของภูวินทร์
“ปิดประตูด้วย”
“ค่ะ”
เธอทำตามคำสั่งของเขาทันที เมื่อปิดประตูเรียบร้อยก็เดินเข้ามาในห้องของเขา ไม่คิดว่าจะได้เข้ามาในห้องนี้อีกครั้งแต่บรรยากาศในวันนี้แตกต่างจากวันนั้นนิดหน่อย เขาเอากาแฟของเธอไปวางที่โต๊ะกลางและนั่งลงไปและหันมาสั่ง
“นั่งลงสิจะยืนรออะไร เอาแฟ้มที่โต๊ะมาด้วย”
“ค่ะ”
เธอหันไปเอาแฟ้มที่วางไว้และเดินมายื่นให้เขาทันทีและกำลังจะนั่งลงที่โซฟาอีกตัวข้าง ๆ เขาก่อนที่ภูวินทร์จะกระแอมเสียงดังขึ้นมา
“มานั่งข้าง ๆ นี่”
“คะ?”
“ไม่ได้ยินเหรอ ต้องให้พูดซ้ำไหม”
มิลินทำตัวไม่ถูกแต่ก็ต้องทำตามคำสั่งของเขา เธอค่อย ๆ นั่งลงข้าง เขาและเมื่อยังไม่ทันจะนั่งก็ถูกเขาดึงไปนั่งที่ตักของเขาอย่างรวดเร็วจนเธอไม่ทันได้ตั้งตัว
“รู้ไหมว่าไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่หนีผมมาก่อน คุณเป็นคนแรกที่กล้าทำแบบนั้น วันนี้ผมคงต้องถามสักหน่อยว่าผมทำอะไรไม่ถูกใจคุณงั้นเหรอมิลินรดา”