ตอนที่ 2 ลองตะคอกอีกทีสิ
เขาพูดพร้อมกับคาบบางอย่างอยู่ที่ปาก ซองถุงยางนั่นเองเพราะเสียงที่เขากำลังฉีกทำให้เธอรู้ว่าไม่มีทางจะหนีซาตานตรงหน้าไปได้อีกแล้ว
“บอสคะ จะทำจริง ๆ เหรอคะ”
“ผมให้เวลาคุณตัดสินใจไปแล้วถ้าจำได้ ตอนนี้คุณจะเปลี่ยนใจก็คงไม่ทันแล้ว”
“แต่ว่า…อ๊าา!!!!”
ความใหญ่และคับแน่นนั้นค่อย ๆ สอดเข้ามาหาเธอจนรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัวเหมือนกับถูกไฟช็อต แม้ว่าจะไม่อยากแต่ก็…
“เสียว…อ๊าา”
เมื่อเธอครางออกมาเขาก็เริ่มพอใจ รอยยิ้มที่คลี่ออกทำเอาใจของมิลินยอมทุกอย่างที่เขาจะทำจากนี้ แรงกระแทกจากบั้นท้ายแข็งแรงนั่นทำให้เธอแทบจะบ้าเมื่อเขายกทั้งตัวเธอขึ้นมาจากโต๊ะ
“อ๊ะ จะ จะไปไหนเหรอคะ”
“เปลี่ยนที่”
“แต่ว่า…”
“อ้อ จริงสิผมลืมไปเลยข้างนอกนั่นคงไม่เหลือใครแล้วสินะ”
“ไม่มีแล้ว เหลือฉันคนเดียวค่ะ”
“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็ครางเสียงดังได้”
“อ๊าา เดี๋ยวก่อนช้าลงหน่อยค่ะ”
“ทำไมล่ะ คุณจะเสร็จอีกแล้วเหรอ”
“บอสคะ!!”
“ลองตะคอกอีกทีสิ จะทำจนลืมทางกลับบ้านเลย”
“อ๊าา”
เขาไม่ได้แค่ขู่เมื่อใช้มือดันไปที่จุดกระสันกลางร่องสวาทที่อยู่เหนือท่อนเอ็นที่สอดลึกจนสุด เธอแทบจะหลุดกรี๊ดออกมาเพราะความเสียววาบไปทั้งตัวอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทำไมเขาเก่งขนาดนี้กันนะช่างแตกต่างกับบุคลิกที่นิ่ง และสุขุมที่เขาเป็นอยู่ปกติเสียจริง
“อ๊าา พอก่อนค่ะ พอแล้ว กรี๊ด…..!!!”
แต่เขาหยุดไม่ได้เพราะกำลังจะเสร็จ เป็นอีกครั้งที่ภูวินทร์ดึงเอาถุงยางมาเปลี่ยน มิลินคิดไม่ถึงว่าการที่เธอพลาดเดินเข้ามาในห้องทำงานของบอสหนุ่มในวันนี้จะได้รับประสบการณ์ที่ยากจะลืมแบบนี้
“ดื่มน้ำสักหน่อยสิ”
เขายื่นน้ำมาให้เธอ มิลินรับมาทันทีเพราะเธอกระหายและคอแห้งอยู่แล้ว เมื่อดื่มเสร็จเขาก็เริ่มปลุกอารมณ์เธออีกครั้งโดยดึงแก้วน้ำที่เธอดื่มแล้วมาดื่มต่อจนหมด ร่างผู้ชายที่เซ็กซี่ตรงหน้าทำให้หน้าของมิลินร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่เธอกับเขาพึ่งผ่านค่ำคืนที่เร่าร้อนมาถึงสองรอบ
“อ๊ะ บอสคะ”
“คุณมองผมแบบนั้นแสดงว่ายังไม่อิ่ม”
“เดี๋ยวค่ะ นี่มันกี่โมงแล้วมิลินต้อง…. กลับบ้าน…”
เสียงนั้นถูกกลืนไปพร้อมกับจูบที่ดุดันอีกครั้ง มิลินลืมไปแล้วว่าเคยต่อต้านและเคยแอบด่าเขาลับหลังว่าอะไร ลืมแม้กระทั่งเวลาที่จะต้องกลับบ้านเมื่อเขาเชิญชวนให้เธอเป็นคนควบคุมเกม
“อ๊ะ”
“ขยับเอวสิ ไม่อย่างนั้นถ้าผมทำเองคุณจะจุกเอานะ”
“อ๊าา!! อย่าค่ะ!! ฉันทำเอง”
เธอค่อย ๆ ทำอย่างเงอะงะแต่ก็ยังดีกว่าที่จะให้เขาทำเพราะแค่แรงเบียดเมื่อครู่นี้ก็เกือบจะตายอยู่แล้ว สีหน้าที่แดงจัดของเขาในตอนนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่ฝันเธอยังไม่กล้าแต่ว่าตอนนี้กลับได้เห็นกับตา มันทำให้สัญชาตญาณดิบในตัวเธอตื่นขึ้นในฉับพลัน
“อาา…มิลิน ยอดเยี่ยมไปเลย อาา…ขอกินหน่อย”
“อ๊ะ บอสคะ อย่ากัด มันเจ็บ อ๊าา”
เขาไม่กัดที่หัวนมของเธอแต่เลือกจะฝากรอยเอาไว้แทน ตอนนี้ทั่วทั้งหน้าอกของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงและรอยฟันที่เขาฝากเอาไว้ทุกที่ไม่เว้นแม้แต่….ร่องขาหนีบของเธอ
“อ๊าา จะเสร็จ อื้อ…”
“อยู่เฉย ๆ ผมเอง อาา…”
เขาเด้งรับสัมผัสของเธอและจับเอวเธอเอาไว้แน่นเพื่อกระแทกให้ถูกที่ไม่นานเสียงของทั้งคู่ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับมิลินที่ร่วงซบลงกับแผงอกกว้างที่เธอเองก็ฝากรอยเอาไว้เช่นกัน
“เหนื่อยไหม”
“ไม่น่าถาม”
“แสดงว่าไม่เหนื่อย ถ้าอย่างนั้นต่อนะ”
“บอสคะ!! พอแล้วมิลินแทบจะหมดแรงแล้วค่ะ”
“แต่ถุงยางยังเหลือ”
“เก็บเอาไปใช้กับคนอื่นเถอะ หึ”
“ว่ายังไงนะ”
เหมือนว่าเธอจะพูดผิดไปเสียแล้วเพราะตอนนี้เขาดูจะโมโหมากกว่าเดิม จากที่เธอกำลังจะได้พักกลายเป็นว่าทำให้เขาต้องฉีกเครื่องป้องกันอันใหม่เพื่อจัดการเธอแทน
ตีสี่ของวันเสาร์
มิลินนอนหมดเรี่ยวแรงที่โซฟากว้างในห้องทำงานของภูวินทร์ซึ่งเป็นตัวที่เธอเข้ามาเห็นเขานอนอยู่โดยมีเสื้อสูทราคาแพงของเขาห่มไว้อยู่ ส่วนตัวบอสโหดนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานและกำลังอ่านรายงานของเธอเงียบ ๆ
“โอย…”
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินเพราะเสียงพลิกกระดาษดังขึ้นพอดี มิลินค่อย ๆ ลากตัวเองและเสื้อผ้าที่กองเอาไว้มาใกล้ ๆ เขาคงเป็นคนเอามาวางไว้ให้เธอ
“ห้องน้ำด้านหลังใช้ได้นะถ้าคุณอยากจะล้างตัวสักหน่อย หรือจะให้ผมไปช่วยล้างให้”
“มะ ไม่ต้องค่ะขอบคุณ"
เธอคว้าชุดทั้งหมดและรีบเดินไปที่ห้องน้ำทันทีโดยที่มีเสื้อสูทของเขาพันตัวไปจนถึงห้องน้ำส่วนตัวด้านหลังที่ว่าพร้อมกับปิดล็อกประตูทั้งหมดทันที
“ตาบ้าเอ๊ย!!”
เมื่อได้ล้างตัวมิลินก็รู้สึกสดชื่นขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ยังรู้สึกชาและเมื่อยไปทั้งตัว เมื่อคืนนี้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นทั้ง ๆ ที่เธอไม่คาดคิด แม้ว่าเขาจะป้องกันแต่เธอเองก็คงจะประมาทไม่ได้เพราะเขาทำหลายรอบจนเธอจำไม่ได้ว่าหมดเครื่องป้องกันนั้นไปกี่กล่องกันแน่
“แค่สามกล่องเอง”
“ฉันไม่ได้อยากจะรู้สักหน่อย”
“แต่หน้าคุณมันบอกว่าอยากรู้ ผมตรวจงานทั้งหมดนี่แล้ว”
“ค่ะ มีอะไรที่ต้องแก้ไขไหมคะ”
“ไม่มี เตรียมดำเนินการต่อได้เลย”
“แน่ใจนะคะว่า…”
เธอเผลอไปสบตาเขาอีกครั้งและต้องรีบหลบตาทันที ภูวินทร์ที่ลุกจากเก้าอี้และเดินเข้ามาหาเธอทำเอาแฟ้มในมือสั่นอีกครั้งเมื่อเขาเอื้อมมาเพื่อหยิบสูทสีดำที่ให้เธอยืมสวมเอาไว้ขึ้นมา
“หรือคุณอยากจะ "แก้…" อีกล่ะ"
“ไม่ค่ะ”
“งั้นก็ดีแล้ว รีบเอาไปเก็บผมหิวแล้ว”
“อะไรนะคะ”
“หิวข้าวน่ะผมกับคุณไม่ได้กินข้าวเย็นด้วยกันทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ ผมไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้น รีบไปเถอะจะพาไปกินข้าว”
“ไม่รบกวนค่ะ มิลินกลับบ้านเลยดีกว่าเชิญบอสตามสบายค่ะ”
“ผมบอกว่าไปกินข้าว คุณก็แค่ทำตามคำสั่งมันฟังยากนักหรือไง”
“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ”
“งั้นคุณก็เลือกเอาว่าจะอยู่ในห้องนี้ต่อให้ผม "กิน" หรือว่าจะไปกินข้าวกับผมข้างนอก"
“มิลินจะรีบไปเก็บของเดี๋ยวนี้เลยค่ะรอสักครู่นะคะ”
มิลินรดารีบเดินไปที่ประตูทันทีเมื่อเขาพูดประโยคสุดท้ายเสร็จ เธอคงได้ตายก่อนแน่ ๆ หากต้องอยู่ในห้องนี้กับเขาอีกแค่สามหรือห้านาทีแต่เมื่อไปที่ประตูเธอกลับเปิดไม่ออกจนเขาต้องเดินมาข้างหลัง กลิ่นน้ำหอมของเขาทำให้หัวใจเธอวาบหวามจนอยากจะหันไปกินเขาอีกครั้ง
“ลืมไปว่าล็อกรหัสเอาไว้ ให้เวลาแค่สองนาทีถ้าช้ากว่านั้นก็อย่าหวังจะได้กินข้าวเพราะผมจะจับคุณกินแทน”
มิลินรีบเปิดประตูออกไปทันทีที่เขาปลดล็อกประตูให้ แม้ว่าขาจะสั่นและหัวใจจะเต้นแรงแค่ไหนเธอก็ต้องรีบออกมาจากห้องของบอสให้เร็วที่สุดเพื่อพาตัวเองมาที่โต๊ะทำงาน
“ตายจริง ไม่ได้ปิดคอมเหรอเนี่ย…”
ใช่สิเพราะเมื่อคืนนี้เธอจำได้ว่าเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งเอาไว้และเดินเข้าไปส่งงาน ใครจะคิดว่าเข้าไปแล้วจะไม่ได้กลับออกมาอีกเลยจนถึงตอนนี้ล่ะ
“เสร็จหรือยัง”
“ว้ายคุณพระ!! บอสคะ ทำไมโผล่มาแบบนี้ละคะตกใจหมดเลย”
“ผมไม่ใช่ผีนะ ตกใจอะไรขนาดนั้น เสร็จหรือยังผมหิวข้าวแล้ว”
“ใกล้แล้วค่ะขอบันทึกงานก่อน”
เธอไม่ชินเอาเสียเลยที่มีสายตาดุ ๆ ของเขาจ้องมองแบบนี้แม้ว่าจะไม่ได้เงยหน้ามองก็ตาม เมื่อกดปิดทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเธอจึงคว้ากระเป๋าขึ้นมาแต่เขาเร็วกว่าเธอที่คว้าทั้งกระเป๋าและตัวเธอมาพร้อมกัน
“อ๊ะ เดี๋ยวสิคะบอส”
“ผมหิวแล้ว”
“แต่นั่นกระเป๋าของมิลินนะคะ มิลินถือเองได้”
“เดินตามมาเงียบ ๆ ไม่เถียงไม่พูดมากจะได้ไหมหรืออยากให้ทำอีกรอบที่ลิฟต์นี่”