ตอนที่ 1 ผมกำลังหิว
PV Group
“มิลินยังไม่เสร็จเหรอนี่จะทุ่มหนึ่งแล้ว”
“ยังเลยพวกเธอกลับไปก่อนเถอะ”
“นี่วันศุกร์นะไม่ไปปาร์ตี้ที่ไหนเหรอ”
“เฮ้อ…อยากไปอยู่หรอกแต่ก็อย่างที่เห็น มุกจะไปเที่ยวกับแฟนไม่ใช่เหรอรีบไปเถอะ”
“งั้นเราไปก่อนนะวันจันทร์เจอกัน”
“มิลินรดา” หันกลับไปวุ่นกับงานเขียนโปรแกรมที่แก้แล้วแก้อีกก็ยังไม่ผ่านด่านสุดโหดของบอสหรือผู้จัดการคนใหม่ที่พึ่งจะผันตัวเองลงมาคุมงานแผนก IT และโปรแกรมเมอร์ด้วยตัวเอง
“ผมต้องการงานที่มีประสิทธิภาพเหมือนปากของพวกคุณ เลิกประชุม”
นั่นเป็นคำทักทายแรกที่เขาพูดในการพบกันที่แผนกเมื่อสี่เดือนก่อน “ภูวินทร์ วิศุทธารานิวัฒน์” CEO หนุ่มและลูกชายคนเดียวของเจ้าของ PV Group บริษัทผลิตซอฟต์แวร์และดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ชื่อดังของเมืองไทย
จากที่พนักงานสาว ๆ ต่างสนใจในตัวเขาจนอยากจะร่วมงานด้วยและเฝ้ารอการมาของเขาอย่างใจจดใจจ่อ แต่ผ่านไปเพียงสองสัปดาห์แรกที่เขาลงมาควบคุมงาน ทุกคนก็แทบอยากจะลาออกกันยกแผนกเพราะงานที่หนักและละเอียดมากขึ้นอีกทั้งไม่ว่าพวกเขาและเธอจะสรรหาวิธีการใดไปนำเสนอล้วนถูกปัดตกออกมาหมด
“โธ่เว้ย!! ทำไมไม่ผ่านสักทีวะ”
“ฉันว่านายแก้ตรงนี้อีกหน่อย ระบบมันทำงานไม่เสถียรดังนั้น…”
“ไม่ไหวว่ะ มิลินเธอเก่งกว่าฉันเธอแก้ไปก็แล้วกัน ส่งไปสี่รอบโดนส่งกลับมาหมดไม่รู้ว่าตาซาตานนั่นต้องการอะไรกันแน่”
“เฮ้อ…”
“อนุชิต” เพื่อนร่วมงานในทีมของเธอก็ทนแทบไม่ไหวกับการแก้ไขโปรแกรมที่ไม่แล้วเสร็จนี้เสียที สุดท้ายเธอในฐานะหัวหน้าทีมจึงมานั่งแก้ไขเพื่อให้ทุกอย่างจบและจะได้เดินหน้าทำงานอื่น ๆ ต่อเพราะพวกเธอเสียเวลากับโปรแกรมตัวนี้มาเกือบสองสัปดาห์แล้ว
“น่าจะใช้ได้แล้วล่ะนะ”
มิลินรวบรวมข้อมูลทุกอย่างและพิมพ์ออกมาเพื่อจะไปส่งมอบให้กับบอสหนุ่มที่ยังอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว เมื่อเงยหน้ามองนาฬิกาเธอก็แทบช็อก
“อะไรเนี่ยเกือบสามทุ่มแล้วเหรอต้องรีบกลับแล้วเดี๋ยวรถไฟฟ้าหมดพอดี”
ห้องผู้จัดการแผนก IT
ก๊อก ก๊อก
เธอเคาะประตูอยู่ราว ๆ สามครั้งแต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับ หรือว่าเขาจะหลับอยู่กันแน่นะ แต่เธอเองก็ต้องรีบกลับบ้านเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเปิดเข้าไปเองเพราะประตูไม่ได้ล็อก เมื่อเปิดเข้าไปก็พบกับห้องที่เงียบกริบ ไฟที่คอมพิวเตอร์ยังมีแสงแต่เจ้าของไม่อยู่ตรงนั้น เมื่อเธอเดินไปที่โซฟาก็เห็นว่าบอสหนุ่มนอนพักอยู่ตรงนั้น
“เอายังไงดีล่ะ ปลุกหรือไม่ปลุกดีอย่าเลยรีบส่งแล้วรีบกลับดีกว่า”
สุดท้ายมิลินก็ตัดสินใจที่จะเอางานไปวางที่โต๊ะและกำลังจะเดินกลับออกจากห้อง เสียงมือถือเจ้ากรรมก็ดันดังขึ้นจนเธอต้องกดรับทั้ง ๆ ที่ไม่ทันมองด้วยซ้ำว่าใครโทรมาแต่ก็ต้องรับสายก่อนที่บอสสุดโหดจะตื่น
“สวัสดีค่ะ…. คุณโทรมาทำไมเราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วฉันบอกแล้วว่าหลังจากที่คุณหักหลังฉันในวันนั้น…”
เธอกำลังหัวเสียเมื่อ “ศิระ” อดีตแฟนเก่าโทรมาตามตื๊อขอคืนดี เธอและเขาจบกันไปเกือบสามเดือนแล้ว แต่เขาก็ยังพยายามเปลี่ยนเบอร์เพื่อโทรมาหาเธอ มิลินไม่เคยรับสายเขาเมื่อเธอยอมรับครั้งนี้เขาจึงพูดไม่หยุด
“ฉันบอกแล้วว่า…”
“คุณมีอะไรกับคู่หมั้นของผมอีกไหม ถ้าไม่มีจะได้วางเสียเวลานอน”
มิลินตัวแข็งทื่อเมื่อมือถือถูกใครบางคนดึงไปและพูดอะไรสักอย่างที่ฟังไม่ทันเพราะเธอทำตัวยืนตัวเกร็งไปแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะตื่นขึ้นมาตอนนี้และมายืนชิดด้านหลังจนหายใจรดต้นคอเธอแบบนี้
“ติ๊ด”
“วางไปแล้ว”
“ขะ ขอบคุณค่ะ ขอโทษด้วยค่ะบอสที่ทำคุณตื่น มิลินก็แค่….”
“หืม คุณว่ายังไงนะ”
เสียงทุ้มต่ำ นุ่มและเซ็กซี่ที่กระซิบอยู่ข้างหูทำให้โทรศัพท์ที่อยู่จะตก เธอไม่เคยรู้เลยว่าเขามีมุมแบบนี้ด้วยแม้ว่าครั้งแรกที่พบเขามิลินจะตกตะลึงไปกับความหล่อและรูปร่างสูงโปร่งหุ่นนายแบบในชุดสูทสีเข้มที่ผู้หญิงทุกคนได้เห็นเป็นต้องอยากได้ก็ตามที
“ทำไมไม่ตอบล่ะ ผมคิดว่าพึ่งจะช่วยคุณจากการถูกคุกคามอยู่นะ”
“คุกคามเหรอคะ แต่ว่าตอนนี้….”
“คุณเข้ามาทำอะไรในห้องของผม”
เสียงทุ้มแกมดุเล็กน้อยถามเธอขึ้นมา ตอนนี้ในแผนกคงเหลือแค่เขากับเธอเพียงสองคนเท่านั้น จะให้ทำอะไรได้นอกจากงานที่เขาสั่งให้แก้
“มิลินแค่จะเอางาน งาน…บอสคะ ช่วยถอย…. ออกไปก่อน”
เธอบอกให้เขาถอยแต่เหมือนกับบอสหนุ่มจะยิ่งเบียดกายเข้ามาจนชิด แขนสองข้างของเขาพาดกั้นเอาไว้ไม่ให้เธอหนีพร้อมกับกระซิบข้าง ๆ หูเธออีกครั้ง
“ทำยังไงดีล่ะ คุณพลาดเองไม่ใช่เหรอที่เดินเข้ามาแบบนี้”
“บอสคะ คือว่ามิลินเคาะประตูหลายครั้งแล้วแต่คุณไม่ได้ยินก็เลย…อ๊ะ!”
เขาจับเธอหันมาสบตาเขา โต๊ะทำงานของเขาแม้จะใหญ่และกว้างแต่ก็มีแค่คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวและตอนนี้ก็มีแฟ้มงานของเธอที่วางอยู่แต่ก็ถูกเขาปัดออกและดึงร่างของเธอขึ้นไปวางแทน
“บอสคะ!”
“มิลินรดา”
เสียงของเขาที่กระซิบกำลังจะทำให้เธอยอมแพ้ ใช่ว่าเธอจะไม่หวั่นไหวกับเขาเลยเสียหน่อยและยังเคยคิดอยากจะได้ผู้ชายคนนี้เสียด้วยซ้ำแค่คิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ต่างหาก
“ว่ายังไงล่ะผมกำลังหิวนะ ให้โอกาสคุณอีกนาทีเดียวที่จะพูดและ…หนี”
สีหน้าสับสนของเธอในตอนนี้ทำให้เขาพึงพอใจเพราะเธอกำลังลังเลเขาจึงไม่รอช้าที่จะขโมยจูบเธอในทันทีก่อนที่เธอจะทันได้ตัดสินใจ
“อื้อ…แฮก แฮก…บอส อื้อ…”
ป้ายพนักงานถูกเขาดึงออกพร้อม ๆ กับเสื้อคลุมด้านนอก เขาดูชำนาญในการถอดมากกว่าที่เธอคิด ไม่นานตัวเธอก็เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตด้านในและตัวเขาเองก็ถอดไทสีเข้มออกไปแล้วเช่นกัน
“ผมถือว่านี่คือคำตอบ”
ลิ้นสากหนาล้วงลึกเข้าไปด้านในจนสุดเกินจะถอนตัวได้ทัน มิลินเผลอตอบรับสัมผัสของซาตานไปเสียแล้วเมื่อเขาเริ่มเชื้อชวนให้เธอไปสู่หนทางหฤหรรษ์ที่ตื่นเต้นนี้ มือหนาปลดกระดุมด้านหน้าของเธอออกอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาหน้าอกอวบคู่สวยตรงหน้าทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถอดบราแต่มือเย็น ๆ ของภูวินทร์ก็สอดเข้าไปจนถึงเนื้อในและเริ่มใช้นิ้วขยี้ยอดอกทันที
“อื้อ…. อย่าค่ะ”
อีกฝ่ายไม่รับรู้คำปฏิเสธที่เบาหวิวนั้นแม้จะได้ยินเขาก็ไม่สามารถหยุดได้แล้วในตอนนี้ ท่อนเอ็นล่างปวดหนึบต้องการถูกปลดปล่อยเมื่อค่อย ๆ เอนตัวของโปรแกรมเมอร์สาวสวยที่เขาสะดุดตาตั้งแต่วันแรกลงไปกับโต๊ะทำงานหรูหรา
“อ๊ะ บอสคะ อย่าถอด อื้อ…”
จนถึงตอนนี้ไม่มีคำไหนที่เขาจะฟังเธอพูดเลย กระโปรงบางตัวสั้นของเธอถูกเขาดึงออกไปพร้อมกับบราเข้าชุดกัน สายบราถูกปลดออกพร้อมกับจูบที่หนักหน่วงราวกับเรียกร้องให้เธอตอบรับคำขอที่ดุดันนี้
“อือ อ๊าา…เสียว…”
“ยังจะปากแข็งอีกไหม”
“บอสคะ บอส…. อ๊าา”
นิ้วสากหนาค่อย ๆ กดและลากไปมาระหว่างร่องสวาทด้านล่างทำให้มิลินเสียวสะท้านจนเผลอคว้าต้นคอเขาไว้แน่น ลิ้นที่เผลออ้าออกมาถูกเขาล่วงล้ำดูดกลืนจนแทบละลายไปพร้อมกัน
เสื้อเชิ้ตราคาแพงถูกสลัดไปกองกับพื้นพร้อมกับชุดของเธอ เข็มขัดถูกปลดออกและร่างเปลือยของชายหนุ่มที่งดงามเหมือนในฝันก็ปรากฏต่อหน้าเธออีกครั้ง แม้ว่าสายตาจะเริ่มพร่ามัวเพราะถูกเขาปลุกแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบอสของเธอ “น่ากินสุด ๆ” ไปเลย
“ถ้าเจ็บก็บอกผมจะผ่อนแรงลง แต่ผมจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะกินอิ่ม เข้าใจไหมมิลินรดา”