บทที่ 21 โครงการยอดมนุษย์
หลังจากมาถึง หลินจื่อเวยไม่ลงจากรถ ใบหน้าหวานกลับแดงปลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ประธานหลิน ถึงแล้วครับ”
เย่เฉิงเฟิงเตือนขึ้นหนึ่งประโยคด้วยความไม่เข้าใจ
“นายช่วยหันหน้าหนีไปก่อนได้ไหม?”
หลินจื่อเวยพูดขึ้น “ฉัน...ฉันกระดุมเสื้อหลุดน่ะ”
“อ้อ ได้ครับ”
เย่เฉิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะแอบเหลือบมองหนึ่งที แม้จะไม่เห็นว่ากระดุมเสื้อตรงไหนหลุด แต่เขาก็หันหน้าหนีไปอยู่ดี
ในเวลานี้เอง เย่เฉิงเฟิงก็ใช้กระแสจิตตรวจพบว่า หลินจื่อเวยรีบเปิดช่องเก็บของข้างเบาะคนขับ แล้วรีบยัดแผ่นแปะหน้าอกทรงหัวใจใส่กระเป๋าหลุยส์ วิตตองอย่างรวดเร็ว ราวกับเป็นขโมยอย่างไรอย่างนั้น
คราวนี้ เย่เฉิงเฟิงถึงกับแสดงสีหน้าประหลาดใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ใจคิดว่ายัยหลินจื่อเวยใช้แผ่นแปะหน้าอกที่น่ารักและขี้เล่นขนาดนี้เชียวเหรอ!
ไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนหลินจื่อเวยใส่มัน จะเป็นภาพแบบไหนกันนะ
ในขณะที่เย่เฉิงเฟิงกำลังเคลิบเคลิ้มฝันหวานในหัว หลินจื่อเวยก็รีบปิดกระเป๋าด้วยความประหม่า เผลอทำแฟลชไดรฟ์หล่นไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตัว
เธอเปิดประตูรถแล้วเดินออกไปทันที ท่าทางเหมือนคนที่หนีออกจากสถานการณ์ฉุกเฉิน
แต่เรียวขาอันสวยงามเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ ๆ หลินจื่อเวยก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาพูดว่า “เย่เฉิงเฟิง ขอบคุณที่ช่วยฉันอีกครั้งในวันนี้! แต่ตอนนี้ฉันอยากทุ่มเทให้กับงาน ไม่อยากมีความรัก หวังว่านายจะไม่เสียเวลาไปกับฉันนะ นายเก่งขนาดนี้ ต้องหาใครที่ดีกว่าฉันได้แน่นอน”
“งั้นเรา...เป็นเพื่อนธรรมดากันได้ไหม?”
เย่เฉิงเฟิงยิ้มบาง ๆ ไม่มีวี่แววความเศร้าแบบคนอกหักเลย
สิ่งที่เขามี มีแต่ความโล่งใจที่หลอกล่อหลินจื่อเวยได้สำเร็จ
“ได้”
หลินจื่อเวยพยักหน้าเบา ๆ แล้วหันหลังเดินเข้าไปในวิลล่าหมายเลข 12
ส่วนเย่เฉิงเฟิงก็เลี้ยวรถไปมาก่อนจะเข้าไปในวิลล่าหมายเลข 9
ก่อนจะเข้าบ้าน เย่เฉิงเฟิงก็พบว่าเธอทำแฟลชไดรฟ์ตกไว้ จึงหยิบติดมือลงจากรถไปด้วย
“ผู้บังคับบัญชาเย่ วันนี้คืบหน้าไม่เลวเลยนะคะ!”
เหยียนอี๋เยว่ปรากฏตัวต่อหน้าเย่เฉิงเฟิงอย่างสดใส อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชม “นี่เพิ่งทำงานวันที่สอง คุณก็ได้ไปส่งหลินจื่อเวยถึงบ้านแล้ว อีกไม่กี่วันอาจจะได้เป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของเธอเลยก็ได้นะ”
“เฮ้อ อย่าพูดเลย”
เย่เฉิงเฟิงทิ้งตัวบนโซฟา แล้วบ่นอย่างเซ็ง ๆ ว่า “วันนี้เจอจอมยุทธโบราณที่มาจากสำนักเร้นลับ ถึงแม้ฉันจะเข้าไปช่วยหลินจื่อเวยไว้ทัน แต่เพราะฉันจัดการศัตรูแรงไปหน่อย เลยทำให้เธอสงสัยว่าฉันมีจุดประสงค์ไม่ดี”
“แล้วคุณบอกไปว่าไง?”
“ฉันบอกไปว่า เพราะชอบเธอก็เลยมาเป็นรปภ.ที่บริษัทเธอ”
“คิก ๆ เหตุผลแบบนี้ มีแต่ผู้บังคับบัญชาเย่เท่านั้นแหละที่คิดออก”
เหยียนอี๋เยว่เอ่ยแซวขณะยิ้มหวาน “ผู้บังคับบัญชาเย่ยอดเยี่ยมซะขนาดนี้ ถ้าเธอชอบคุณขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง?”
“ก็ห่อกลับบ้านเลยสิ”
เย่เฉิงเฟิงหัวเราะฮ่า ๆ “สาวสวยปานเทพธิดา ไม่เอาก็เสียดายแย่”
“……”
พอได้ยินคำพูดนี้ เปลือกตาเหยียนอี๋เยว่ก็กระตุกโดยไม่รู้ตัว พลันรู้สึกราวกับลูกแกะที่เดินเข้าสู่ปากเสือ
อย่างไรแล้ว เธอเคยพูดกับเย่เฉิงเฟิงว่า ถ้าเขากล้ารังแกเธออีกครั้ง เธอจะแต่งงานกับเขา
ก่อนหน้านี้เธอคิดว่า เย่เฉิงเฟิงเหมือนจะกลัวการแต่งงานมาก เลยเอาเรื่องแต่งงานมาขู่เขา
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เธอตกหลุมพรางของเย่เฉิงเฟิงเข้าให้แล้ว ไม่แน่ว่าเขาอาจจะอยากให้เธอพูดแบบนั้นเสียด้วยซ้ำ
พอนึกถึงความแปลกประหลาดในจุดนี้ ใบหน้าสวยของเหยียนอี๋เยว่ก็แดงก่ำขึ้นมา ไม่กล้าสบตาเย่เฉิงเฟิงไปสักพัก
“จริงสิ คอมพิวเตอร์เธออยู่ไหน?”
เย่เฉิงเฟิงยกแฟลชไดรฟ์ในมือขึ้นพลางพูดว่า “เมื่อกี้หลินจื่อเวยรีบไปจนลืมเจ้านี่ไว้ในรถ ไม่รู้ว่าข้างในมีไฟล์สำคัญอะไรหรือเปล่า”
“อะ นี่”
เหยียนอี๋เยว่รีบเข้าไปในห้อง หยิบโน้ตบุ๊กที่ยังเปิดเครื่องอยู่เดินออกมา
เย่เฉิงเฟิงรับมาแล้วเสียบแฟลชไดรฟ์เข้าเครื่องอย่างเบามือ
เดิมทีคิดว่าในแฟลชไดรฟ์นี้คงจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารบริษัท
แต่พอเปิดดูจริง ๆ เย่เฉิงเฟิงก็พบว่า ข้อมูลข้างในกลับเกี่ยวกับ “เซรุ่มยอดมนุษย์” เสียอย่างนั้น
แม้ว่าจะมีสมการซับซ้อนมากมายที่เย่เฉิงเฟิงอ่านไม่เข้าใจเลย แต่เขาก็จับคำศัพท์สำคัญบางอย่างได้
สรุปแล้ว เซรุ่มยอดมนุษย์นี้สามารถกระตุ้นความสามารถที่ซ่อนอยู่ในร่างกายมนุษย์ ทำให้คนธรรมดาแปรเปลี่ยนกลายเป็นยอดฝีมือระดับสุดยอด โจมตีเพียงหนึ่งครั้งก็สามารถปลดปล่อยพละกำลังมหาศาล สะเทินน้ำสะเทินบก กระโดดข้ามตึก เดินบนผิวน้ำ ก็ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
ส่วนคนที่ค่อนข้างพิเศษ ก็สามารถมีพรสวรรค์ศักยภาพแฝงที่ทรงพลังเป็นพิเศษ
เช่น ควบคุมเปลวไฟ น้ำ น้ำแข็ง พืช ลม สายฟ้า และอื่น ๆ อีกมากมาย
และที่น่าทึ่งที่สุดคือ หากถูกกระตุ้นด้วยเซรุ่มยอดมนุษย์แล้ว บุคคลนั้นจะสามารถฝึกฝนศักยภาพแฝงของตนด้วยวิธีเฉพาะ และแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
ในข้อมูลนั้น ผู้ที่ถูกดัดแปลงโดยเซรุ่มยอดมนุษย์ จะถูกเรียกว่า “ยอดมนุษย์”
ข้อมูลฉบับนี้ มีชื่อว่า “โครงการยอดมนุษย์”
“โอ้พระเจ้า บนโลกนี้มีอะไรเหนือมนุษย์แบบนี้ด้วยเหรอ!”
เหยียนอี๋เยว่เห็นแล้วร้องเฮือกด้วยความตะลึง “มิน่าล่ะ ผู้บังคับบัญชาอาวุโสถึงได้ให้คุณลงมือด้วยตัวเอง! ถ้าเจ้านี่ตกไปอยู่ในมือของคนที่มีเจตนาไม่ดี หรือประเทศอื่นช่วงชิงไป มันจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจประเมินได้เลย!”
“แต่มันยังพัฒนาไม่สำเร็จไม่ใช่เหรอ?”
แม้เย่เฉิงเฟิงจะรู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์ของเซรุ่มยอดมนุษย์อย่างยิ่ง แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมาย
ในฐานะผู้บำเพ็ญเซียน เย่เฉิงเฟิงในตอนนี้สามารถทะลุกำแพง ลอดดิน เหาะเหินเดินอากาศ ปล่อยเปลวไฟ และใช้ศาสตร์เวทควบคุมลม ฝน ฟ้าร้องและฟ้าผ่าได้
ถ้าเขาสามารถหลอมกระบี่เหินได้สำเร็จ เขาก็จะสามารถบินขึ้นฟ้าได้เช่นกัน
ดังนั้น อย่าว่าแต่เซรุ่มยอดมนุษย์ยังพัฒนาไม่สำเร็จ แม้จะพัฒนาได้จริง มันก็ไม่มีทางเทียบเคียงพลังแห่งการบำเพ็ญเซียนของเขาได้อยู่ดี
แต่ถ้าเหล่าจอมยุทธโบราณได้ใช้ยานี้ขึ้นมา อาจจะกลายเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างคาดไม่ถึง
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เย่เฉิงเฟิงก็มองใบหน้าสวยของเหยียนอี๋เยว่ แล้วเอามือคว้าหมับบั้นท้ายกลมกลึงเด้งงอนของเธอ ก่อนจะฟาดลงไปเบา ๆ “ไม่ต้องกังวลไป! ถ้าเซรุ่มยอดมนุษย์พัฒนาออกมาง่ายขนาดนี้ ป่านนี้ยอดมนุษย์เกลื่อนโลกแล้ว”
“ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าหลินจื่อเวยทำการวิจัยเรื่องนี้ไปเพื่ออะไร!”
เหยียนอี๋เยว่บิดสะโพกโดยไม่รู้ตัว แล้วพูดอย่างแปลกใจว่า “อย่าบอกนะว่าซีอีโอสาวสวยคนนี้เป็นพวกชอบใช้ความรุนแรงโดยกำเนิด? หรือว่าเธออยากเป็นซูเปอร์วูแมน?”
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เย่เฉิงเฟิงยักไหล่ แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ
“นี่ คุณจะทำอะไรน่ะ!”
เหยียนอี๋เยว่รีบดึงเขาไว้
“ก็อาบน้ำน่ะสิ” เย่เฉิงเฟิงยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดว่า “เสี่ยวเยว่เยว่อยากอาบน้ำกับฉันเหรอ? ถึงฉันจะเสียเปรียบนิดหน่อย แต่ก็ไม่ถือสาหรอกนะ”
“ใครจะไปอาบกับคุณกันล่ะ”
เหยียนอี๋เยว่กลอกตาใส่เขา แต่ใบหน้าสวยกลับแดงระเรื่อ รีบพุ่งเข้าไปในห้องน้ำ แล้วหอบชุดชั้นในที่เธอเตรียมไว้เปลี่ยนหลังอาบน้ำออกมา
ก่อนหน้านี้เธอตั้งใจจะอาบน้ำอยู่แล้ว แต่บังเอิญได้ยินเสียงเย่เฉิงเฟิงคุยกับหลินจื่อเวย เลยถูกขัดจังหวะจนไม่ได้อาบ
“ก็แค่ชุดชั้นในไม่กี่ตัวนี่? ต้องระแวงขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เย่เฉิงเฟิงปากกระตุกอย่างอดไม่ได้
“ใครจะไปรู้ล่ะว่าคุณมีรสนิยมวิปริตแบบนั้นหรือเปล่า!”
เหยียนอี๋เยว่กล่าวอย่างมีเหตุผล
“เฮ้ กล้าดูหมิ่นภาพลักษณ์อันสูงส่งของผู้บังคับบัญชาเหรอ?”
ขณะที่เหยียนอี๋เยว่เดินผ่าน เย่เฉิงเฟิงก็คว้าข้อมือขาวเนียนของเธอไว้ แล้วดึงเข้ามาในอ้อมกอด “เชื่อไหมล่ะว่าผู้บังคับบัญชาจะลงโทษเธอตรงนี้เลย?”