บท
ตั้งค่า

บทที่ 15 ก็ชอบให้ใช้กำลังนี่ ใครจะทำไม?

ตอนเย่เฉิงเฟิงออกมาจากวิลล่าหมายเลข 19 ก็ไม่ได้กลับเข้าบ้านทันที แต่เดินเล่นในเจียงปินการ์เดนอย่างสบายใจ

ด้วยเหตุนี้ พอคุณนายวัยกลางคนจากวิลล่าหมายเลข 19 รีบร้อนวิ่งไปที่วิลล่าหมายเลข 9 ก็ไม่เจอใครเลย

เธอรอแล้วรอเล่าอยู่ถึงสองชั่วโมงก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเย่เฉิงเฟิง จึงจำใจกลับไป

แปดโมงเช้าวันรุ่งขึ้น เธอจึงมาหาอีกครั้ง

ที่เลือกเวลานี้ก็เพราะคิดว่าเช้าเกินจะรบกวนเจ้าของบ้านพักผ่อน ส่วนสายเกินก็กลัวว่าเจ้าของบ้านจะออกไปแล้ว

แต่น่าเสียดาย ถึงเธอจะรอบคอบแค่ไหน แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพหลินซื่อมาทำงานกันตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง

รวมกับเวลาเดินทางและกินข้าวเช้า เย่เฉิงเฟิงก็ออกจากบ้านตั้งแต่เจ็ดโมงแล้ว

ส่วนเหยียนอี๋เยว่ก็ไม่ได้อยู่ในวิลล่า พอเย่เฉิงเฟิงออกไปเธอก็ออกไปด้วย

“ประธานหลิน อรุณสวัสดิ์!”

เนื่องจากเมื่อวานเกิดอุบัติเหตุรถชน บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์หกของหลินจื่อเวยจึงเอาไปซ่อม วันนี้จึงขับเฟอร์รารี่ 458 รุ่นเปิดประทุน คันสีแดงสดมา

แต่ชุดของเธอกลับเปลี่ยนเป็นสีดำสุดเท่ สไตล์ชุดยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังเป็นกางเกงขายาวรัดรูปคู่กับสูททำงานตัวเล็ก ดูแล้วเป็นมืออาชีพมาก

เห็นแล้วหัวใจร้อนรุ่มเลย

“เมื่อวาน...ขอบคุณสำหรับสมุนไพรนะ”

หลินจื่อเวยเผลอลูบแผลที่ไม่เหลือแม้แต่รอยแผลเป็น ดวงตาคู่สวยฉายแววใคร่รู้เล็กน้อย

แต่ในพริบตานั้น เธอก็ตระหนักได้ว่าคนที่อุ้มเธอเมื่อวานน่าจะเป็นเย่เฉิงเฟิงสินะ?

ใบหน้าสวยขาวผ่องจึงแดงระเรื่อเล็กน้อย ดูน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง

“ประธานหลินไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ”

เย่เฉิงเฟิงยิ้มพลางพูด

“ไฮ~ พี่เทพรถซิ่ง”

หลินจื่อเฉียงที่นั่งเบาะข้างคนขับ เอ่ยเรียกเสียงหวานในขณะนี้

โดยไม่ต้องให้เย่เฉิงเฟิงเร่งเร้า หลินจื่อเฉียงก็พูดขึ้นมาก่อนเลยว่า “เลกซัสคันเมื่อกี้ ฉันให้คนไปจัดการเรื่องโอนกรรมสิทธิ์แล้วนะ เดี๋ยวยกให้นาย”

“เอ่อ ไม่ต้องหรอก!”

เย่เฉิงเฟิงยิ้มพลางส่ายหน้า “เมื่อวานแค่ล้อเล่น ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ อีกอย่างผมเป็นแค่รปภ. เงินเดือนแค่นั้นดูแลไม่ไหวหรอก”

“นายดูถูกฉันหรือไง หรือเห็นว่าทุกเรื่องที่สัญญากับคนอื่นเป็นแค่เรื่องล้อเล่น?”

หลินจื่อเฉียงเบ้ปากแล้วพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ “ฉันจริงจังนะ! ถ้าเมื่อวานนายแพ้ ฉันลากนายไปล้างรถที่สโมสรแข่งรถฉันทั้งเดือนแน่!”

พูดจบเธอก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ “ส่วนค่าดูแลรถ นายมาทำพาร์ทไทม์เป็นนักแข่งรถที่สโมสรฉันได้นะ! รับรองว่าไม่มีปัญหา!”

“ไม่ดีมั้งครับ? ให้ผมขับรถคันละตั้งหลายล้าน ไม่เด่นไปหน่อยเหรอ”

เย่เฉิงเฟิงยังคงส่ายหน้า

“นั่นมันเรื่องของนาย ยังไงเดี๋ยวมีคนเอารถกับเอกสารมาให้นาย อยากทำยังไงก็เชิญตามสบายจ้า”

หลินจื่อเฉียงแค่นเสียงฮึดฮัด ก่อนส่งสัญญาณให้หลินจื่อเวยขับรถเข้าไปในประตูใหญ่ จากนั้นก็เข้าไปในตึกสำนักงานพร้อมกับหลินจื่อเวย

ตามคาด ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ก็มีหญิงสาวที่บอกว่าตัวเองเป็นพนักงานในสโมสรแข่งรถของหลินจื่อเฉียงขับเลกซัส แอลเอ็กซ์มาถึงหน้าประตูห้องรักษาความปลอดภัย

วางกุญแจรถกับเอกสารไว้บนโต๊ะในห้องรักษาความปลอดภัย แล้วจากไปโดยไม่พูดอะไร

“เฮ้อ คราวนี้อยากทำตัวไม่เด่นก็ไม่ได้แล้วแฮะ”

เย่เฉิงเฟิงหัวเราะอย่างจนใจ ได้แต่คว้ากุญแจแล้วขับรถเข้าไปในโรงจอดรถของบริษัท

แต่ในขณะที่เขากำลังดูภายในรถและตรวจดูช่องเก็บของในรถ เย่เฉิงเฟิงก็เปิดช่องเก็บของข้างเบาะคนขับ และเจอถุงซิปใสใบหนึ่ง

“นี่มันอะไรเนี่ย? ของที่หลินจื่อเฉียงลืมไว้หรือเปล่า?”

เย่เฉิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เปิดถุงซิปออกมา แล้วหยิบกล่องพลาสติกสีชมพูออกมา

หลังจากเปิดกล่องพลาสติก เขาก็เห็นวัตถุทรงหัวใจสีเนื้อลักษณะเหมือนจุกดูดสองชิ้นวางอยู่ตรงนั้นเงียบ ๆ

พอจับดู ก็รู้สึกนุ่มมือ

“โอ้พระเจ้า! นี่คงไม่ใช่แผ่นแปะหน้าอก...ที่เขาลือกันหรอกนะ?”

เย่เฉิงเฟิงมุมปากกระตุก รู้สึกเหมือนกำลังถือของร้อนอยู่ในมือ

ดูจากสไตล์น่ารักของแผ่นแปะหน้าอก ก็รู้เลยว่าเป็นของหลินจื่อเฉียง

ของส่วนตัวแบบนี้ ถ้าเขาเอาไปให้หลินจื่อเฉียง หลินจื่อเฉียงคงจะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน

ถ้าไม่คืนให้ หลินจื่อเฉียงจะคิดยังไงกับเขา?

แผ่นแปะหน้าอกทรงหัวใจสีเนื้อ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งซื้อมายังไม่ได้ใช้! เวลาหลินจื่อเฉียงใส่ชุดราตรีหรือชุดสายเดี่ยวจะต้องใช้แน่นอน!

“แล้วต้องทำยังไงดีเนี่ย!”

เย่เฉิงเฟิงรีบวางของกลับที่เดิม แล้วก็รีบลงจากรถกลับไปที่ห้องรักษาความปลอดภัย

ในใจคิดว่า รอให้หลินจื่อเฉียงมาถาม เขาค่อยบอกว่าไม่รู้ ให้เธอไปหาที่รถเอาเอง

นี่ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เลว

ระหว่างที่เย่เฉิงเฟิงหาทางออกได้แล้ว ก็มีจากัวร์ เอฟไทป์คันสีขาวมาจอดเท่ ๆ อยู่หน้าประตูเลื่อนอัตโนมัติ พร้อมบีบแตรไม่หยุด

“มาหาใครครับ?”

เย่เฉิงเฟิงมองนาฬิกาบนผนัง นี่ผ่านเวลาเข้างานของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพหลินซื่อไปแล้ว ในใจคิดว่าน่าจะเป็นคนนอก

เขาจึงไม่ได้เปิดประตู แต่เดินไปถาม “ไม่ทราบว่ามาหาใครครับ?”

“ฉันคือผู้จัดการใหญ่บริษัทเซียวซื่อ เซียวตงหมิง เป็นเพื่อนของประธานหลินด้วย”

หน้าต่างรถจากัวร์เลื่อนลงมา ชายผมสั้นสีน้ำตาลสวมแว่นกันแดดคนหนึ่งยิ้มเล็กน้อย “ได้ยินว่าเมื่อวานเธอชนรถคนอื่นตรงประตูทางเข้า ฉันเลยอยากมาเยี่ยมดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง รบกวนเปิดประตูให้หน่อย”

“สักครู่ครับ ผมจะช่วยถามให้”

พอเย่เฉิงเฟิงได้ยินชื่อเซียวตงหมิงเท่านั้น ก็แอบหัวเราะเยาะในใจทันที

แต่ถึงอย่างนั้นบริษัทก็มีกฎของบริษัท เขาจึงโทรหาวังเสี่ยวฮั่นพอเป็นพิธี

จากนั้น เย่เฉิงเฟิงก็ส่ายหัวให้เซียวตงหมิงแล้วพูดว่า “เมื่อครู่ประธานหลินบอกว่าเธอยุ่งมาก ไม่มีเวลาพบคุณ แต่ก็ขอบคุณในน้ำใจของคุณนะครับ”

“นี่แก ทำไมถึงไม่รู้จักมารยาทแบบนี้?”

เซียวตงหมิงถอดแว่นกันแดดออก แล้วพูดอย่างไม่พอใจ “เมื่อวานตอนเช้า แกขวางไม่ให้ฉันเข้าไปก็ช่างเถอะ แต่ตอนเที่ยงประธานหลินชนรถคนอื่น ฉันในฐานะเพื่อนสนิทไม่ควรมาเยี่ยมเธอหน่อยเหรอ? เร็วเข้า เปิดประตูให้ฉัน ไม่งั้นฉันจะไม่เกรงใจแกแล้วนะ”

“ไม่เกรงใจยังไงล่ะ?”

เย่เฉิงเฟิงยิ้มเย้ยหยัน “เมื่อวานฉันสั่งให้ไอ้หัวทองฝากไปบอก คิดว่าแกจะมาขอโทษฉันซะอีก ยังคิดจะให้แกเข้ามาอยู่เลย แต่ตอนนี้ถึงแกจะขอโทษฉันก็ไม่ให้เข้าแล้ว!”

“ไอ้นี่ พูดดี ๆ ไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังเหรอวะ!”

เซียวตงหมิงกล่าวเสียงเย็น

“ฉันชอบให้ใช้กำลัง ใครจะทำไม?”

เย่เฉิงเฟิงกวักมือท้าทาย แสดงความเหยียดหยาม

“คิดว่าเมื่อวานมีฝีมือนิดหน่อย แล้วเก่งมากดิ?”

เซียวตงหมิงกระโจนลงจากรถจริง ๆ แล้วชี้หน้าด่าเย่เฉิงเฟิงว่า “ฉันบอกแกให้ บนโลกนี้มีคนที่เก่งกว่าแกไม่รู้ตั้งเท่าไร ฉันสุ่ม ๆ เรียกมาก็อัดแกเละได้เลย!”

เขาไม่ได้พูดข่มเล่น ๆ

บนโลกนี้ มีสำนักวิทยายุทธโบราณเก่งกาจที่ซ่อนตัวอยู่มากมายจริง ๆ ถูกเรียกว่า ‘สำนักเร้นลับ’

แต่โดยทั่วไปศิษย์ในสำนักเร้นลับจะไม่ค่อยมาเดินเพ่นพ่านอยู่ข้างนอก

“งั้นก็เรียกมาฆ่าฉันสิ”

เย่เฉิงเฟิงย่อมรู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร

แต่อย่าลืมว่าเย่เฉิงเฟิงเป็นถึงผู้บำเพ็ญเซียน ต่อให้จอมยุทธโบราณจะเก่งกล้าสามารถสร้างภัยคุกคามให้เขาได้ แต่เขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย เขาเชิดหน้าขึ้น แล้วพูดอย่างติดตลก “ฉันรออยู่ตรงนี้แหละ ถ้าไม่เรียกมาถือว่าแกอ่อนหัด!”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel