บทที่ 4 คนดังชั่วข้ามคืน
เหตุการณ์ชุลมุนด้านนอกอาคารสงบลงได้ในเวลาต่อมา บิลเข้ามาทำหน้าที่เป็นสารถีต้อนรับดารานักร้องหนุ่มทั้งสองแทนชานิศา ทีมแพทย์และพยาบาลฉุกเฉินภายในสนามบินเร่งเข้ามาตรวจรักษาคนป่วยได้อย่างรวดเร็ว และทันท่วงที หมอให้น้ำเกลือเข้าทางเส้นเลือด เนื่องจากคนไข้มีภาวะร่างกายขาดน้ำ และมีภาวะเกลือแร่ในร่างกายต่ำ อาจเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นได้ อาการทั่วไปไม่น่าเป็นห่วงนัก ตอนนี้รอเพียงแค่เธอฟื้นขึ้นมาก็สามารถกลับบ้านหรือไปทำหน้าที่ต่อได้ไม่มีปัญหาอะไร
“นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะ มีแขกมาเยือนถึงสองคนทำไมไม่ส่งซิกตั้งแต่แรก ทำงานประสาอะไรกัน พวกนายไม่น่าพลาดกับอีเรื่องแค่นี้เลยนะ” ชัชชาติผู้เป็นเจ้าของบริษัท Security Guard ก่นด่าลูกน้องที่ยืนเรียงรายนับสิบคนด้วยใบหน้าบูดเบี้ยว ดวงตาถมึงทึงบดบังความหล่อเหลาไปเสียครึ่ง เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ครานี้เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะคนเจ็บคือเธอคนนั้นจึงทำให้เขาลงความโมโหมาที่ลูกน้องผู้ชายเต็ม ๆ
“ขอประทานโทษครับ ต่อไปผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกแน่นอนครับ” บิลซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเอ่ยออกมาเป็นคนแรกเพื่อยอมรับในสิ่งที่ผิดพลาด
“หวังว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายนะบิล” ชัชชาติเดินเข้าไปหาลูกน้องคนสนิท ตบไหล่หนาหนัก ๆ หนึ่งครั้งก่อนจะจ้องหน้าบิลแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดจิกเต็มที่ แน่นอนว่าความเสียหายในครั้งนี้ทางบริษัทต้องรับผิดชอบหนักแน่ เสี่ยใหญ่มองผ่านกระจกใสทะลุเข้าไปในห้องรับรองเย็นเฉียบ ที่มีร่างแน่งน้อยนอนอยู่ด้วยสายตาอ่อนแสงลง เขาเป็นห่วงเธอแทบบ้าเมื่อรู้ข่าวว่าเธอไม่สบาย เขารีบตรงดิ่งมาที่นี่ทันที รู้อย่างนี้คงไม่ส่งตัวเธอมางานนี้แน่ กรามแกร่งบดเข้าหากันแน่น เขารู้ได้ทันทีว่าจะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปอีกไม่ได้แล้ว หัวใจของเขามันกระตุกวูบทุกครั้งเมื่อรับรู้ข่าวสารของเธอไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องร้าย เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว มารหัวใจของเขามีอยู่รายรอบตัวไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ไอ้เจ้าบิลที่ต่อหน้าทำเป็นพี่ชายที่แสนดี แต่ในใจนั้นผู้ชายด้วยกันเองก็ดูออกว่าหมอนั่นคลั่งรักแม่สาวน้อยชานิศาแค่ไหน
“ฝากดูแลชาด้วยนะ ผมต้องไปทำธุระต่อ” ชัชชาติเอ่ยกับบิลก่อนจะเดินออกจากห้องรับรองแขกวีไอพีไป
“ครับ” บิลยืดอกรับคำสั่งเจ้านายด้วยความแข็งขัน ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยอาการคลายความอึดอัดลงได้
‘แฟนคลับสาวคลั่ง ปลอมตัวเป็นบอดี้การ์ดแกล้งเป็นลมต่อหน้าแดเนียล เฉิน!'พาดหัวข่าวตัวใหญ่หนา โดยมีรูปสาวร่างเล็กบอบบางในชุดสูทอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม รูปร่างสูงโปร่งหน้าตาหล่อเหลา สีผิวขาวจัด ส่วนชา อึน ซอกก็ตามประกบช่วยเปิดทางให้แดเนียล เฉินอุ้มร่างสาวไร้สติเข้าไปยังห้องพักแขกวีไอพีท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดและโห่ร้องจากบรรดาแฟนคลับจนเกิดความโกลาหลไปหมด
ข่าวฮอตมาแรงที่ดังที่สุดภายในชั่วข้ามคืน ทั้งสื่อสังคมออนไลน์ โซเชียลเน็ตเวริ์ค ทั้งสำนักพิมพ์จากหลายมุมทั่วโลกต่างก็ปั่นกระแสกันไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะทวิตเตอร์ที่ถูกแฮชแท็กติดอันหนึ่งในเช้าของวันถัดมา เมื่อจู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบริเวณสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ของประเทศไทย เมื่อนักร้องนักแสดงวงเคป๊อปที่กำลังโด่งดังเป็นพลุแตกอยู่ในตอนนี้ มาเยือนถึงสองคนนั้นก็คือ ชา อึน ซอก และ แดเนียล เฉิน โดยฉพาะคนหลังที่แอบมาเซอร์ไพรส์แฟนคลับแต่ก็ถูกแฟนคลับเซอร์ไพรส์ตอบซะงั้น
“ตื่นหรือยังห๊ะ! ยัยเพื่อนตัวดี แกไปทำเปิ่นเป๋ออะไรที่นั่นยะ รู้ตัวไหมว่าตอนนี้ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านไปทั่วสารทิศเลยรู้หรือเปล่าเนี่ย!” เสียงแหลมปรี๊ดจากแม่เพื่อนสาวเพียงหนึ่งเดียวที่เธอคบอยู่ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจนกระทั่งจะจบมหาวิทยาลัยเดียวกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้เอง แต่จะเลิกคบกับมันก็เพราะเสียงแหลมที่คอยเสียดแทงแก้วหูนี่แหละ
“อืม..นี่เบา ๆ หน่อยได้ไหม อะไรของแกเนี่ยไอ้แวว” ดูเหมือนว่าคนที่โดนบ่นยังไม่ตื่นดีสักเท่าไหร่ ฟังจากเสียงงัวเงียแล้วน่าจะใช่
“ฉันกำลังขึ้นไปบนห้องแก ข้างล่างมีแต่พวกนักข่าวเต็มไปหมด แกน่ะเป็นคนดังแล้วรู้ไหมยัยเพื่อนเลิฟ ทั้งทวิตเตอร์ เฟสบุ้ค อินสตาร์แกรม ยูทูป ติ๊กต๊อก โอ๊ย..ยังมีอีกเยอะแยะที่มีแต่เรื่องของแกแผ่หลา ไม่เว้นแม้แต่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ข่าวสด!”เพื่อนสาวร่ายยาวเสียจนคนฟังยกหูออกมาดูก่อนแวบหนึ่งเพื่อพักหู
“คนดังคนเดิงอะไรของแกเนี่ย ไปกันใหญ่แล้วฮ้าว..” คนที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังตกเป็นข่าวทอร์คออฟเดอะทาวน์ ลุกจากเตียงเดินโซซัดโซเซไปเปิดผ้าม่านเพื่อรับแสงแดดยามเช้า แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อ บริเวณระเบียงหลังห้องของเธอมีฝูงแมลงผึ้งยักษ์บินว่อนเต็มไปหมด ไวเท่าความคิด มือเล็กรีบรูดม่านปิดแทบจะทันทีเมื่อได้ยินเสียงหึ่ง ๆ จากเจ้าตัวประหลาดด้านนอกนั้น
“เฮ๊ย! ไอ้แววฉันว่าแกรีบขึ้นมาบนนี้โดยด่วนเลย มนุษย์ต่างดาวกำลังบุกห้องฉันแล้ว” ร่างเล็กรีบเผ่นเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันเพื่อให้หูตาสว่างขึ้นกว่าเก่า เรื่องอาบน้ำค่อยว่ากันทีหลัง ก่อนจะรีบผลัดเปลี่ยนชุดนอนแบบกางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามคอย้วยเป็นเสื้อยืดแบบใส่สบาย ๆ พร้อมกางเกงขายาวนั่งรอเพื่อนรักอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก
ระหว่างที่รอเพื่อนสาวมาหา ชานิศาก็รีบกระโจนเข้าไปเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่วางทิ้งไว้ตรงโต๊ะเล็กกลางห้องโถง ซึ่งรายล้อมไปด้วยกระดาษและปากกาเต็มไปหมด ในช่วงยุ่งขิงที่มีทั้งงานราษฎร์ งานหลวงเธอก็ปล่อยให้มันเละเทะแบบนี้ไปก่อน ทั้งที่ปกติห้องของเธอไม่ได้เป็นเช่นนี้เลย.. (จริง ๆ)
ข่าวล่ามาแรงที่สุดเพียงแค่เปิดหน้าจออากู๋มาก็เจอเข้ากับคำว่า แฟนคลับสาวคลั่งฯแทบทั้งสิ้น แถมภาพประกอบนั้นก็โดดเด่นเป็นสง่าเสียจนแทบอยากจะเป็นลมมันเสียอีกสักรอบ โชคยังดีที่มือใหญ่เรียวยาวของอีตาหน้าหล่อนั่นช่วยบดบังใบหน้าของเธอเอาไว้ แต่..เดี๋ยวนะ..จะว่าช่วยบังก็ใช่ที่ อีตานั่นกดหัวเธอให้ดมจั้กแร้ต่างหากเล่า มิน่าล่ะถึงได้...หอมนัก อร้ายย..มันใช่เวลาจะมาชื่นชมเต่าตานั่นที่ไหนกันเล่า!
‘หน้าด้านจริง ๆผู้หญิงอะไร '
'หน้าต้องหนาแค่ไหนถึงจะทำแบบนั้นได้’
‘แดเนียลอย่าไปหลงกลนางนะ’
‘ไร้ยางอายที่สุด!’
‘นางทำให้ชื่อเสียงประเทศไทยเสื่อมเสีย ต้องเอาตัวไปตบสั่งสอน'
‘พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรือไง ทำงามหน้า เสียชื่อทั้งประเทศ’
'บ้านอยู่ไหนจะไปตบ!''
‘นางเป็นบอดี้การ์ดจริงหรือเปล่า'
‘แหล่งข่าวสืบมาว่านางเป็นการ์ดมาแล้วหลายงานแล้วนะ'
‘เขาอาจจะป่วยจริงก็ได้'
ฯลฯ……..
“ด่ากันขนาดนี้ตัวต่อตัวเลยดีไหม พวกนักเลงคีย์บอร์ดเห็นฉันเป็นคนเฉย ๆ แต่ไม่ได้โง่นะเว๊ย”คนที่ถูกโดนด่าว่าหน้าหนาลูบผิวแก้มไปมาอย่างลืมตัว รู้สึกแค้นเคืองใจขึ้นมาติดหมัด อยากกระโดดถีบสองขาโดยเฉพาะกับคอมเม้นต์ที่ด่าถึงบิดามารดาของเธอ