บทที่ 3 ผู้ชายอะไรหล่อจนแทบอ้วก!!
ส่วนข้อมูลหรือรายละเอียดปลีกย่อยทางด้านอื่นนั้นเธอแทบไม่ต้องอ่านซ้ำรอบสองก็จำได้ขึ้นใจแล้ว ชานิศายอมรับกับตัวเองว่าวันนี้เธอไม่เต็มร้อยในการทำงานเอาเสียเลย แต่ด้วยความเป็นคนมุ่งมั่นและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายทำให้เธอฝืนร่างกายที่อ่อนแอไว้ภายใน หรือว่าโรคประจำตัวของเธออาจแสดงอาการมาตอนนี้ก็เป็นได้ ไม่นะ..ไหนหมอบอกว่ามันจะไม่กำเริบในเร็ววันนี้ไงล่ะ..
ร่างเล็กเผลอกำภาพในมือจนยับ ก่อนจะยกขึ้นมาทาบที่บริเวณอกด้านซ้าย เมื่อรู้สึกว่าหัวใจของเธอวูบไหวอย่างไรบอกไม่ถูก อาจเพราะเธอมัวแต่จดจ่ออยู่กับใบหน้าชวนฝันของดารานักร้อง นักแสดงคนนี้มากจนเกินไป ความหล่อบาดตาของอีตานี่ตีวนจนเธอแทบอยากอ้วกออกมาเสียให้ได้ (สำหรับคนอื่นคงเรียกว่าหล่อวัวตายควายล้ม แต่สำหรับเธอนั้น..เขาหล่อจนแทบอ้วก)
แย่แล้วเธอจะมามีความรู้สึกในด้านบวกและลบกับลูกค้าวีไอพีไม่ได้นะ ชานิศาสะบัดใบหน้าเล็กพรืดเพื่อขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป พยายามเรียกความเป็นมืออาชีพออกมาทดแทน ร่างเล็กยืดอกขึ้นอีกครั้งเรียกออกซิเจนเพื่อให้ไปเลี้ยงสมองโดยไว มือเล็กขยับหน้ากากผ้าสีดำคู่ใจให้เข้าที่อีกครั้ง โชคดีที่ช่วงนี้เป็นช่วงโรคระบาดที่เรียกว่าโควิดในประเทศไทยยังคงต้องป้องกันอยู่เธอจึงสามารถนำมันมาใช้ในหน้าที่ได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะโดนตำหนิ และช่วยลดทอนอาการของโรคเก่าจะกำเริบเมื่ออยู่ต่อหน้าคนแปลกหน้า
ชานิศากางขาออกเล็กน้อยเพื่อเสริมความมั่นคง ตวัดสายตาหันไปมองโดยรอบเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจจากเพื่อนร่วมทีม และที่เห็นเด่นเป็นสง่ามากที่สุดก็คือบิลลี่พี่ชายที่แสนดีของเธอ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเขาจะเป็นคนแรกที่ถึงตัวเธอก่อนเสมอ บิลพยักหน้าให้เธอหนึ่งครั้งก่อนจะใช้สายตาคมกริบส่งให้เธอหันกลับไปยังจุดที่ควรเพ่งมองมากกว่าสิ่งอื่นใด เมื่อโดนดุทางสายตา คนตัวเล็กถึงกับหน้าหงอ รีบหันกลับมาอยู่ในท่วงท่าที่มั่นคงใหม่อีกครั้ง
“อีกไม่ถึงสิบนาทีแขกที่มาเยือนจะมาถึงจุดที่ชานิศายืนอยู่เตรียมตัวให้พร้อมนะ”บิลย้ำผ่านหูฟังให้ทุกคนรับทราบอีกหนเพื่อป้องกันความผิดพลาด
“รับทราบค่ะ..ครับ”
จากจุดนี้ ชานิศา สามารถมองเห็นอาคันตุกะที่นำทีมโดยชา อึน ซอก ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาลอ่อน เก็บชายไว้ข้างในภายใต้กางเกงสแลคสีดำ ผมรองทรง จมูกโด่งรับกับใบหน้า คิ้วเข้มเรียวสวย ดวงตาเรียวรีออกเชื้อสายทางเกาหลีโดยแท้ ทันทีที่ ชา อึน ซอก ปรากฏตัว เสียงชัตเตอร์และเสียงกรี๊ดจากเอฟซีที่มารอต้อนรับก็ดังกึกก้องทั่วทั้งสนามบิน ซึ่งชายหนุ่ม เองก็ได้ยกมือไหว้สวัสดีทักทายแฟนคลับอย่างสวยงาม ไม่เสียชื่อว่าที่เขยไทย(ในมโนของสาว ๆ หลายคน) รวมถึงโบกมือทักทายแฟนคลับที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง แม้จะสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า แต่ออร่าความหล่อของเขา นั้นก็พุ่งทะลุแมสก์ออกมาสมกับเป็นไอดอลจริง ๆ นี่สินะที่เขาเรียกกันว่าเบ้าหน้าฟ้าประทาน
‘ใช่..ต้องเป็นเขา ไม่ผิดตัวแน่นอน’ ชานิศาย้ำกับตัวเองอีกครั้ง เพียงแค่อึดใจเดียวเท่านั้น ร่างสูงสง่าก็จะถึงตัวเธอที่ยืนรอรับอยู่ก่อนแล้ว บอดี้การ์ดสาวยืดอกขึ้นอีกรอบ ส่งยิ้มหวานเยิ้มออกมาทางสีหน้าและแววตา ดวงตากลมโตพยายามเพ่งมองไปยังชายหนุ่มผู้หล่อเหลาที่โบกไม้โบกมือให้เหล่าเอฟซีมาตลอดทาง ใกล้เข้ามา ณ จุดที่เธอยืนอยู่อีกไม่กี่นาทีนี้แล้ว
บอดี้การ์ดสาวเตรียมยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อรอรับการทักทาย แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อจู่ ๆ ชา อึน ซอก ก็มีสองคน! ไม่นะ! พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย! ชายหนุ่มที่กำลังเดินมาถึงตัวเธอเพียงไม่กี่ก้าวตรงหน้า กลับกลายเป็นสองคน หรือเพราะเธอจะตาลายมากเกินไป จึงมองเห็นภาพซ้อนเป็นบุรุษหนุ่มที่มีเค้าโครงหน้าและรูปร่างที่คล้ายคลึงกันอย่างมาก ส่วนสูงเท่าเทียมกัน ใส่หน้ากากเหมือนกัน จะมีต่างกันตรงที่บนหัวของอีตาผมสีทองเหลืองอร่ามมีหมวกแก๊ปสวมทับไว้เท่านั้นเอง!
วิ้ง..วิ้ง ..ชานิศารู้สึกได้ว่าในหูของเธอมีเสียงเหมือนลมและเสียงคล้ายจิ้งหรีดร้องดังเบา ๆ มันมาพร้อมกับอาการมึนศีรษะ รู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมาทันทีทันใด บอดี้การ์ดสาวมือไม้สั่น รู้เลยว่าเริ่มควบคุมสถานการณ์ตรงหน้านี้ไม่ได้แล้ว เธอรู้สึกสับสน อึดอัดจนแทบจะเป็นลมล้มลงตรงหน้าเสียให้ได้ ตอนนี้สมองของชานิศากำลังทำงานอย่างหนัก เธอพยายามนึกใบหน้าของนักร้อง นักแสดงคนดังกล่าว แต่..อนิจจาเธอแยกไม่ออกระหว่างสองคนนี้ ใครคือชา อึน ซอกกันแน่!
เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ร่างเล็กถึงกับอ่อนระทวยเป็นลมล้มพับไปตรงหน้าแขกผู้มาเยือน โชคยังดีที่มืออุ่นหนาใหญ่ของใครบางคนก้าวเข้ามารับศีรษะและตัวของเธอไม่ให้หัวกระแทกกับพื้นเสียก่อน กลิ่นหอมกรุ่นจากเรือนกายของใครคนหนึ่งโชยมาแตะจมูกของเธอ จนต้องครางออกมาเสียงเบาหวิวทั้งที่ตายังปิดสนิทอยู่
“หอมจัง”
“ชาช่าตั้งสติ..ให้ดี ๆ พี่กำลังเข้าไป..”ร่างสูงใหญ่ของบิลพุ่งตัวสุดกำลังเมื่อแลเห็นแล้วว่าลูกน้องสาวโอนเอนทำท่าจะล้มแหล่มิล้มแหล่ตั้งแต่ทีแรก แต่เขาก็ไม่สามารถฝ่าฝูงชนที่มามุงดูใครกันแน่ระหว่างลูกน้องบอดี้การ์ดสาวของเขากับดารานักร้องดังคนนั้น กว่าบิลจะเข้าถึงตัวลูกน้องสาวได้ ร่างอ่อนระทวยก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของดารานักร้องชื่อดังนามว่า แดเนียล เฉินเรียบร้อยแล้ว
บิลหมายจะเข้าไปรับร่างไร้สติของชานิศาด้วยตัวเอง แต่เขากลับได้รับการปฏิเสธกลาย ๆ ด้วยการที่อีกฝ่ายกระชับวงแขนรัดร่างเล็กเข้าแนบชิดแผงอกล่ำสันหน้าตาเฉย ซ้ำยังเบี่ยงกายสูงโปร่งหลบเขาที่ยื่นแขนเพื่อจะรับช่วงต่อ หากอีกฝ่ายกลับทำหน้าพยักเพยิดให้บิลนำทางพาไปยังห้องรับรองโดยด่วน การ์ดรุ่นพี่จึงทำได้แค่ช่วยเปิดเส้นทางฝ่าฝูงแฟนคลับที่ออกันเข้ามาเพื่อให้ได้ใกล้ชิดดาราหนุ่มที่ตัวเองชื่นชอบแลดูวุ่นวายไปหมด