บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“ผมจะบอกเหตุผลกับคุณ ตอนคุณยืนอยู่ตรงหน้าผมแล้ว นารินดา”

คีรินทร์ ลูซาคอฟ เจ้าของใบหน้าคมเข้มเอ่ยตอบพร้อมกับกระตุกยิ้มตรงมุมปาก แน่นอนว่าเขามีเหตุผลสำหรับการเลือกบอร์ดี้การ์ดคนที่เดินโชว์คนสุดท้ายคนนี้

เพราะนอกจากจะสนใจประวัติการทำงานของนารินดาแล้ว เขายังถูกใจกับคำเค้นด่าที่หญิงสาวจงใจเอ่ยแขวะให้เขาได้ยิน ในตอนยืนอยู่หน้ากล้องโทรศัพท์ด้วย

เจ้าของนัยน์ตาคมกริบเอนกายพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทีผ่อนคลาย ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มบางๆ ประดับอยู่ ขณะนึกถึงเจ้าของดวงตาคู่สวยแต่ดุราวกับแม่เสือ รวมทั้งริมฝีปากอวบอิ่มที่เจ้าตัวช่างสรรหาถ้อยคำมาเค้นด่าเขาตลอดเวลา

และที่ทำให้เขาติดใจมากที่สุด คงเป็นสัดส่วน 36 24 34 ซึ่งทำเอาเขาตื่นเต้นใจสั่นรัวกับหุ่นอันสุดแสนเซ็กซี่ของบอร์ดี้การ์ดสาวคนนี้

“เจ้านายครับ เจ้านายคิดดีแล้วหรือครับที่จะไปประเทศไทย”

โลแกน บอร์ดี้การ์ดหนุ่มซึ่งเติบโตมาพร้อมๆ กับคีรินทร์ เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งบอร์ดี้การ์ดส่วนตัว คอยอารักขาคีรินทร์แทบจะตลอด 24 ชั่วโมง เอ่ยถามเจ้านายหนุ่มด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจสักเท่าไรนัก

คีรินทร์ถอนหายใจลึก ดันกายนั่งตัวตรง ใบหน้าติดเคร่งเครียดขึ้นมาในทันทีกับคำถามของโลแกน

“เราคิดดีแล้ว โลแกน ที่จะไปประเทศไทยในอีกสองวันข้างหน้านี้”

“แต่มันอันตรายเกินไปนะครับ” โลแกนค้านเสียงเครียด “ถ้าเจ้านายออกจากบ้าน ก็เท่ากับว่าเจ้านายกำลังอยู่ในที่แจ้ง เป็นเป้าล่อให้พวกมันอย่างดี”

“เรากำลังทำแบบนั้น โลแกน” คีรินทร์ตอบเสียงเครียดไม่แพ้กัน “เราจะออกจากถ้ำ เพื่อล่อให้พวกมันมาหาเรา ก่อนจะจัดการพวกมันให้สิ้นซาก ไม่ให้พวกมันคอยตามรังควานเราได้อีก”

“เจ้านายครับ มันทั้งเสี่ยง และอันตรายมากๆ ถ้าเกิดเจ้านายพลาดโดนพวกมันจับตัวไปอีก คราวนี้พวกมันคงไม่ปล่อยเจ้านายไว้แน่” โลแกนไม่เห็นด้วยกับความคิดของเจ้านายหนุ่ม

“ก็อย่าให้พลาดสิ โลแกน”

คีรินทร์สวนกลับในทันควัน ใช่! งานนี้จะมีคำว่า ‘พลาด’ เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็หมายถึงชีวิตของเขาเอง ที่จะถูกแก๊งค้ามนุษย์ซึ่งโหดเหี้ยมที่สุดในรัสเซียจับตัวไปเรียกค่าไถ่ และฆ่าทิ้งในทันทีหลังจากได้เงินจากการเรียกค่าไถ่แล้ว

คีรินทร์หลับตาลง เพราะไม่ต้องการให้โลแกนเห็นความหวาดกลัวที่ยังคงวิ่งวนอยู่ในดวงตาของเขา เหตุการณ์ถูกลักพาตัวในวัยเด็ก ผุดขึ้นมาในหัวสมองอย่างชัดเจน ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กว่าจะได้รับการช่วยเหลือให้รอดพ้นมาได้ ทำเอาเขาแทบตายคามือ คาตีนของพวกมัน

ความโหดเหี้ยมของอมนุษย์พวกนี้ เป็นฝันร้ายที่ตามหลอกลอนติดตัวเขากระทั่งเติบโต และนั่นส่งผลให้เขาต้องเก็บตัวอยู่แต่ภายในบริเวณคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้

ภายในอาณาบริเวณคฤหาสน์ลูซาคอฟมีเนื้อที่เป็นร้อยๆ ไร่ แน่นอนว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จะเรียกว่าเป็นอาณาจักรส่วนตัวของเขาก็ไม่ผิด

ที่นี่มีทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามเทนนิส สนามฟุตบอล โรงภาพยนตร์ นอกจากนั้นยังมีรันเวย์สำหรับเครื่องบินเจ็ทขึ้นและลงจอดด้วย

นานๆ ครั้งเขาจะออกจากคฤหาสน์ เพื่อไปเปิดหูเปิดตาดูโลกภายนอกบ้าง แต่การออกนอกคฤหาสน์ในแต่ละครั้งก็ใช่ว่าจะเป็นไปได้ง่าย เพราะเขาและโลแกนต่างก็หวาดระแวงว่าอาจจะถูกลอบทำร้าย ถูกลักพาตัวในนาทีใดนาทีหนึ่งก็เป็นไปได้

คีรินทร์ถอนหายใจยาวขณะลืมตาขึ้น พร้อมกับลุกเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณระเบียงนอกห้องนั่งเล่น ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของอาณาจักรของเขาได้แบบเต็มตา ก่อนจะเอ่ยบอกโลแกนถึงการตัดสินใจของตนเองในครั้งนี้

“เราไม่สามารถหลบซ่อนตัวอยู่แต่ภายในบ้านได้ตลอดทั้งชีวิตหรอกนะ โลแกน ครึ่งชีวิตที่ผ่านมา เราต้องอยู่แต่ภายในบริเวณบ้านหลังนี้ เราไม่เคยออกไปไหน ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศด้วยซ้ำไป เพราะความกลัว ทำให้เรามุดหัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ต่างจากกบอยู่ในกะลา ถึงเวลาแล้วที่เราต้องออกไปเผชิญหน้ากับพวกมัน วางกับดักเพื่อกวาดล้างพวกมันให้สิ้นซาก”

“ด้วยการเอาตัวเจ้านายเป็นเป้าล่อพวกมันนะหรือครับ” โลแกนยังคงไม่สบายใจและเป็นกังวลกับความคิดของเจ้านายหนุ่ม

“ใช่แล้วโลแกน” คีรินทร์พยักหน้ารับ “งานนี้เราต้องยอมเสี่ยง เพราะเราไม่อยากมีชีวิตที่ต้องหลบซ่อนอยู่แต่ภายในบ้านอีกต่อไป เราอยากมีคนรัก เราอยากมีลูก สร้างครอบครัวกับใครสักคน ซึ่งทำให้เรามอบหัวใจให้เธอได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่พบเจอกัน”

ขณะพูดประโยคท้าย จู่ๆ ภาพของนารินดาก็ผุดขึ้นมา ทำเอาคีรินทร์นึกแปลกใจตนเองที่ดูท่าว่าจะชื่นชอบบอร์ดี้การ์ดสาวคนนี้เอามาก ทั้งๆ ยังไม่ได้เจอหน้ากันแม้แต่ครั้งเดียว

โลแกนจำต้องยอมรับในแผนการที่เจ้านายหนุ่มได้วางไว้ “ว่าแต่ทำไมเจ้านายถึงเลือกไปประเทศไทยล่ะครับ เราไม่จำเป็นต้องล่อให้พวกมันออกจากรังไกลถึงเพียงนั้น”

“เราเลือกประเทศไทย ก็เพราะว่าเป็นประเทศเกิดของแม่ยังไงล่ะ เราชอบอาหารไทย ชอบอากาศในประเทศไทย และที่สำคัญ...เราชอบผู้หญิงไทยด้วย”

“เจ้านายจะล่อให้พวกมันไปประเทศไทย และเก็บพวกมันที่นั่นเลยใช่ไหมครับ”

“ใช่...หากเป็นไปได้ เราอยากทำเช่นนั้น เก็บพวกมันให้สิ้นซาก”

คีรินทร์ตอบเสียงเย็น ดวงตาแข็งกร้าว เมื่อนึกกลุ่มโจรที่คอยตามติดความเคลื่อนไหวของเขา เพื่อรอจังหวะในการลักพาตัวเหมือนอดีตที่ผ่านมา

“ถ้ายังงั้น ผมจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศไทย เพื่อขอความร่วมมือเป็นพิเศษกับการกวาดล้างพวกมันให้พ้นไปจากชีวิตของเจ้านาย”

“จัดการตามนั้นเลย โลแกน วางแผนให้ดี ห้ามมีคำว่า ‘พลาด’ เด็ดขาด”

“ได้ครับ เจ้านาย”

โลแกนพยักหน้ารับคำสั่ง เขามีเพื่อนพ้องในวงการสายสืบ สายลับ และเหล่าบอร์ดี้การ์ดอยู่ค่อนข้างมาก จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการตามคำสั่งของเจ้านาย และแน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง ว่าเขาต้องวางแผนให้ดี ให้รอบคอบ ไม่ให้ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว

และก่อนไปทำตามคำสั่งของเจ้านาย โลแกนก็เอ่ยถามในสิ่งที่ตนเองสงสัยมานาน “เจ้านายครับ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้านายต้องจ้างบอร์ดี้การ์ดในประเทศไทยด้วย แถมยังเลือกผู้หญิงอีก ผมคิดว่าแค่ผมกับลูกน้องอีกสองคนก็น่าจะเพียงพอ พวกเราสามารถคุ้มกันเจ้านายได้แน่นอนครับ”

“ไม่โลแกน งานนี้เราจะไม่ยกขบวนบอร์ดี้การ์ดไปเป็นโขยงให้ตกเป็นเป้าสายตาของพวกมัน เราจะให้นายไปกับเราเพียงคนเดียวเท่านั้น และที่เราเลือกบอร์ดี้การ์ดเป็นผู้หญิง ก็เพื่อให้ดูกลมกลืนว่านารินดาเป็นคนรักของเรามากกว่าคอยมาตามคุ้มกันเรา ทำเหมือนเรากำลังไปท่องเที่ยวกับคนรักมากกว่าจะตั้งใจขุดหลุมพราง เพื่อดักล่อพวกมันให้มาติดกับดัก”

“เจ้านายไว้ใจฝีมือของเธอหรือครับ”

โลแกนยังไม่เคยเห็นฝีมือของนารินดา น้ำเสียงที่เอ่ยถามจึงติดสบประมาทในทักษะการต่อสู้ และทำหน้าที่เป็นบอร์ดี้การ์ดคอยพิทักษ์ใครสักคน

“เราค่อนข้างไว้ใจ ได้ยินเจ้านายของเธอบอกถึงประวัติการทำงานของนารินดาแล้วนี้ แม้จะไม่ได้เป็นสไนเปอร์สาวมือหนึ่งของประเทศไทย แต่ประวัติการทำงานของเธอฟังดูเก่งกาจเอาการ” คีรินทร์กระตุกยิ้มชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยบอกลูกน้องต่อ

“เราชอบดวงตาของนารินดา เธอมีดวงตาเหมือนแม่ของเราไม่มีผิด ทั้งสวยงามและฉายแววเด็ดเดี่ยวในตัว ตอนเห็นใบหน้าของนารินดา ทำให้เราคิดถึงคุณแม่ของเราในทันที”

“เจ้านายไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนมาก่อนนี่ครับ”

แม้จะอยู่แต่ภายในอาณาจักรของตนเองเป็นซะส่วนมาก แต่ก็ใช่ว่าคีรินทร์จะขาดสาวๆ มาคอยบำเรอสวาท บำบัดความใคร่ให้ หากวันใดต้องการผู้หญิงสักคน แค่เพียงเอ่ยปาก โลแกนก็จะจัดหาสาวๆ ที่สะอาดและปลอดภัยมาให้เจ้านายหนุ่ม

“ใช่...โลแกน...เราไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย น่าแปลกนะ โลแกน ที่เรารู้สึกชอบนารินดาทั้งๆ ยังไม่ได้เห็นตัวจริงของเธอด้วยซ้ำไป”

“รักแรกพบหรือเปล่าครับเจ้านาย”

โลแกนหรี่ตาเอ่ยถาม เขาคิดว่าเจ้านายหนุ่มกำลังถูกกามเทพแผลงศรเข้าให้อย่างจัง

แต่! คีรินทร์ส่ายหน้าปฏิเสธคำพูดของโลแกนในทันที “ไม่น่าจะใช่อย่างที่นายพูด เราแค่ชอบนารินดา ไม่ถึงกับรักเธอ”

“ก็ไม่แน่นะครับเจ้านาย บางทีเจ้านายอาจจะหลงรักเธอเข้าสักวัน”

“รู้สึกว่านายอยากให้เรามีความรักซะเหลือเกินนะ โลแกน”

คีรินทร์ต่อว่าลูกน้องไม่จริงจังนัก เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้ หัวสมองนึกถึงแต่บอร์ดี้การ์ดสาวปากจัด ซึ่งด่าเขาไม่เลือก

โลแกนคลี่ยิ้มกว้าง ยอมรับในคำพูดของเจ้านาย “ใช่ครับ ผมอยากให้เจ้านายมีคนรัก เจ้านายจะได้ไม่เหงายังไงล่ะครับ”

“ขอบใจในความหวังดีของนาย” คีรินทร์ประชดลูกน้อง พลางเอ่ยสั่งต่อ “ไปทำงานตามที่เราสั่งได้แล้ว โลแกน อีกไม่กี่วันก็จะเดินทางไปประเทศไทยแล้ว นายต้องวางแผนทุกอย่างให้รัดกุมที่สุด”

“ได้ครับ เจ้านาย”

โลแกนรับคำ พลางลุกขึ้นยืน เดินออกจากห้องเพื่อไปทำตามที่เจ้านายสั่ง และก่อนจะเดินพ้นประตูห้อง ก็ไม่ลืมหันมายักคิ้วย้ำคำพูดของตนเองด้วย

“เจ้านาย อย่าลืมรับคำพูดของผมไปพิจารณานะครับ หานายหญิงมาให้พวกผมสักคน แล้วก็มีคุณหนูสักโหล ที่นี่จะได้ไม่เงียบเหงาอีกต่อไป”

“เออ...แล้วจะรับไว้ในพิจารณา”

คีรินทร์ตอบกลั้วเสียงหัวเราะ พอโลแกนออกไปจากห้องแล้ว ก็คิดตามที่โลแกนได้เอ่ยบอกมา คงจะดีไม่น้อย หากมีลูกๆ ของเขาวิ่งเล่นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวเต็มบ้าน และเขาคงมีความสุขมากๆ ขณะกอดภรรยาอันเป็นที่รัก นั่งมองลูกๆ วิ่งเล่นเต็มบ้าน

“นารินดา...”

และเมื่อคิดถึงคนที่จะมาเป็นภรรยาของตนเอง จู่ๆ ใบหน้าของนารินดาก็ผุดขึ้นมาในมโนภาพทันที ซึ่งเขาเองยังนึกแปลกใจว่าทำไมจดจำได้แค่เพียงใบหน้าของนารินดาเท่านั้น

“สัดส่วน 36 24 34 แม่สาวหุ่นสะบึม อีกไม่กี่วันผมก็จะได้เห็นแล้วว่า คุณเซ็กซี่มากเพียงใด และคุณจะเอาชนะใจผม ทำให้ผมหลงรักคุณได้หรือเปล่า”

แค่เพียงคิดถึงนารินดา คีรินทร์ก็ตื่นเต้นแทบทนรอเวลานั้นไม่ไหว!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel