ตอนที่ 1. เมื่อมาเฟียเบื่อการเป็นโสดแล้ว..
“ถึงบ้านอานิลาแล้วค่ะ คุณจอดรถข้างหน้านี่ล่ะค่ะ รถยนต์เข้าไปในซอยไม่ได้หรอก” อานิลากระซิบบอกเมื่อใกล้ที่พักตนเอง เธอรู้สึกอายหน่อยๆ กับความเสื่อมโทรมแถวนี้ มันแตกต่างกับคฤหาสน์หลังใหญ่ของเอียนลิบลับ เอียนมองเลยไปเบื้องหน้า ชุมชนที่ค่อนข้างแออัด...เขาจะไม่ยอมให้อานิลาต้องอาศัยอยู่ในที่แบบนี้อีกแล้ว
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในตรอกแคบๆ มีสายตาหลายคู่แอบมองตามด้วยความสนใจ เพราะเอียนอยู่ในชุดสูทหรู แต่งตัวเป็นทางการ เดินมากับอานิลาที่แต่งกายซอมซ่อ กางเกงยีนขาดๆ กับเสื้อเชิ้ตสีซีด เธอดิ้นรนทำงานตัวเป็นเกลียวเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่อายุสิบเจ็ด บิดาสิ้นใจจากโลกใบนี้ไป แต่กลับทิ้งหนี้ก้อนใหญ่ไว้ให้ อานิลาดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอด แถมยังต้องตามเช็ด ตามล้างหนี้สินที่ตัวเองไม่ได้ก่อไว้อีก
“บ้านคนแถวนี้คับแคบ และแออัดจังเลยเนอะ!!” เอียนชวนคุยแก้เก้อ เมื่อรอบตัวเขามีแต่ความเงียบ
“ค่ะ...” อานิลาตอบเสียงเรียบ คนจนกับคนรวยแตกต่างกันแบบเห็นได้ชัด แม้กระทั้งความเป็นอยู่ยังห่างไกลกันสุดขั้ว และคนข้างตัวเธอคงอดแปลกใจไม่ได้
“อีตัวดี!! ...หายหัวไปไหนมาทั้งวันเลย กูมารอมึงตั้งแต่เช้า หายหัวไปไหนมาวะ” เสียงแข็งๆ ตะโกนลั่น แถมยังมองอานิลาตาขวาง เอียนมองสบตาผู้ชายร่างใหญ่หนวดเคราเต็มหน้า ชายผู้นั้นส่งเสียงดุดันเมื่ออานิลาเดินเข้าไปในรัศมีสายตาของเขา
“กลัวฉันเบี้ยวหรือไงก็ออกไปหาเงินมาให้นี่แหละ ใจเย็นๆ สิ” อานิลาตอบเสียงเคร่ง เธอสอดมือลงไปในกระเป๋ากางเกง เพื่อควานหาสตางค์ แล้วรีบส่งให้ เพื่อตัดความรำคาญ
“แค่นี้เองเหรอวะ กูบอกให้เอาบุญนะ หากมึงยังทำงานพวกนั้นไม่มีทางใช้หนี้กูหมดหรอก!!”
“ฉันใช้หนี้แกมาเป็นปีแล้วนะ หนี้ยังไม่ลดลงเลยเหรอ ถามหน่อยเถอะ พ่อฉันเป็นหนี้พวกแกเท่าไหร่แน่” อานิลาเหลืออด เธอทำงานหนักเพื่อชดใช้หนี้แทนบดามาเป็นปีๆ แต่หนี้นั่นไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย
“เวลาเอาไป กราบกรานเหมือนกูเป็นพระเจ้า แต่เวลาต้องคืน ทำไมเสียงแข็งแบบนั้นละ”
“ฉันแค่อยากรู้ ฉันต้องชดใช้แทนพ่ออีกนานเท่าไหร่?
“ตลอดชีวิตมึงนั่นแหละนังหนู หรือไม่อยากปลดหนี้ ลองทำงานอย่างว่าดูสิ ได้เมินก้อนใหญ่ๆ จะได้ปลดหนี้ไวไวไง”
อานิลาหน้าร้อนวาบ เธออายเอียนแทบอยากมุดดินหนี
เอียนเดินมาขวางหน้า ยื่นมือไปจับมือผอมแกร็นที่ทำท่าจะแตะต้องอานิลาไว้
“เห้ย!! อย่าเสือกว่ะไอ้หนุ่มหน้า...ไม่อยากเจ็บตัวอย่าเสือกสิวะ!!” มันตวาดเสียงเขียว มองเอียนตาขวาง
เอียนยิ้มมุมปากจางๆ แววตาดุดัน จนไอ้หน้าเคราเฟิ้มถึงกับชะงัก แววตานั่นแฝงแววอำมหิตจนเขาขนลุกซู่ “ผมใช้หนี้แทนอานิลาเอง...เธอเป็นหนี้คุณเท่าไรครับ” เอียนเสนอตัวให้ และอีกฝ่ายก็รีบตะครุบทันที
“จริงรึ!! ไอ้หน้าอ่อน...มีปัญญาใช้แทนนังหนูนี่แน่เรอะ”
“เท่าไรล่ะ?” เอียนถามย้ำ
“ห้าหมื่น €” มันพูดเสียงดัง และอานิลารีบโวยทันที
“อย่าถือโอกาสสิ!! ฉันใช้หนี้แกมาตั้งนานแล้วนะ หนี้มันเพิ่มขึ้นได้ยังไง...พ่อเป็นหนี้แกขนาดนั้นเชียวเหรอ คิดจะโกงเหรอไงหะ!!”
“ดอกเบี้ยยังไงละโว้ย!!...แกใช้มาแค่เศษเงิน ต่อให้ใช้ทั้งชาติ ก็ไม่มีทางหมด ดอกเบี้ยก็เพิ่มสิวะ” มันกระตุกยิ้มเหยียดๆ ทอดสายตามองเอียน พร้อมกับประเมิณในใจ ไอ้หนุ่มละอ่อนคิดจะใช้เงินแทนลูกหนี้ของตนเอง ต่อให้แต่งตัวดี แต่ไม่มีเงินในกระเป๋าก็เท่านั้นแหละ
เขาหวังจะรวบอานิลามาเป็นเด็กในสังกัด นังคนนี้คงสร้างรายได้ให้เขาไม่น้อย แต่อานิลาดื้อและหัวแข็ง เด็กสาวนั่นโหมทำงานหนัก มาเป็นปีๆ รอดปากเหยี่ยวปากกาแบบหวุดหวิดหลายครั้ง แต่อีกไม่นานหรอก อานิลาต้องพลาด...เมื่อคนไม่ใช่เครื่องจักร...โหมทำงานหนักแบบนี้ อีกไม่นานก็คงป่วย เมื่อนั้นเขาก็จะได้ทั้งเงินและความสาวสดจากอานิลา!! แต่ดันเสือกมีตัวยุ่งมาขวาง เพราะฉะนั้นต้องแน่ใจว่า ชายผู้นี้จะไม่มีทางแทรกเข้ามาได้ มันจะได้ไม่สอดมือเข้ามายุ่งด้วย
“ช่างมันเถอะอานิลา...ผมจ่ายได้ รับเซ็คไหมครับ...รออีกสักหน่อย ผมจะให้คนของผมเอาเงินสดมาให้”