ตอน ก็มันนอยด์ น้อยใจ
เช้าวันต่อมา
"พี่ทัชๆ เกิดเรื่องแล้วพี่" อัลวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาทัชที่โรงฝึก
หลังจากเมื่อคืนที่กิมนอนกอดเขาทั้งคืน พอตอนเช้าเขาตื่นมาก็ไม่เห็นอีกฝ่ายแล้ว ทำให้ทัชรู้ได้ทันทีว่ากิมคงออกไปทำงานแล้วแน่ๆหรือไม่ก็อาจจะไปหาศิลาที่เกาะ เพราะร่างสูงเคยบอกเอาไว้ว่าอยากจะไปเยี่ยมเพื่อนสักหน่อย
"เรื่องอะไรของมึงอัล"
"พี่อิ๋วกับพี่กุน.." พูดเพียงเท่านี้ทัชก็รีบออกไปด้านนอกทันที และรู้ว่าทั้งสองอยู่ที่ไหน ถ้าไม่ใช่ด้านหลังสวนของบ้าน เพราะบอดี้การ์ดทั้งหมดจะรู้ดีว่าถ้าได้พักจากการฝึกซ้อม ก็จะมานั่งกินน้ำกินข้าวกันที่นี่
..
..
"มึงก็ปีนดิ"
"พี่นั่นแหละ"
"ผมโดนล็อคติดกันอยู่จะให้ปีนกันยังไง พี่นั่นแหละ"
"พอๆๆ งั้นเอางี้แล้วกัน ให้ไอ้น้ำมันปีน"
ภาพที่ทัชเห็นตรงหน้าคืออิ๋ว กุนและตุลย์กำลังเถียงอะไรบางอย่างอยู่ โดยมีต้นน้ำยืนกุมขมับอยู่ใกล้ๆ
"พวกมึงมีเรื่องอะไรกัน" ทัชขมวดคิ้วถามเสียงเข้ม
"พี่ทัช!" ตุลย์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ทั้งหมดรีบเข้ามาหาทัชทันที
"ทำอะไรกัน?"
"พอดี..ไอ้สองคนนี้มันอยากกินมะยมอ่ะพี่"
"มะยม?"
"ใช่ครับ" ต้นน้ำพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะขยับเข้ามายืนตรงหน้าทัช ทัชเองก็จำสิ่งที่กิมบอกเมื่อคืนได้ จึงค่อยๆถอยห่างจากเด็กหนุ่ม
"แล้วที่กูได้ยินว่าปีนๆ ปีนอะไร?"
"ปีนเก็บมะยมพี่" ตุลย์ชี้ไปยังต้นไม้ด้านหลังของตน ทัชถอนหายใจออกมาเบาๆ
"แล้วพวกมึงจะปีนกันทำไม ให้ป้านิดแกเก็บให้ก็ได้" ทัชเอ่ยถึงแม่บ้านอีกคนที่อยู่ในครัว
"เออว่ะ/เออใช่" ทั้งอิ๋วและกุนพูดออกมาอย่างนึกขึ้นได้
"ไอ้ฟายย" ตุลย์ส่ายหน้าไปมาและหันไปมองทางต้นน้ำที่เอาแต่มองทัชยิ้มๆ
"พี่ทัชมาทำอะไรที่นี่เหรอครับ" ต้นน้ำถามเสียงนุ่ม
"กูมาที่นี่ปกติอยู่แล้ว และมึงอ่ะซ้อมไปถึงไหนล่ะ" ทัชถามกลับ อิ๋วกับกุนเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็รีบเข้าไปในครัวเพื่อให้ป้านิดมาเก็บมะยมให้ทันที
"พอได้บ้างแล้วครับ แต่ยังมีติดขัดอยู่นิดหน่อย"
ทัชที่ได้ฟังก็พยักหน้ารับรู้ และหันไปมองทางตุลย์
"ดูแลความเรียบร้อยให้ดีนะไอ้ตุลย์ กูอาจจะเข้าไปทำเอกสารของคุณหญิงท่านข้างใน มีอะไรเกิดขึ้นก็โทรแจ้งแล้วกัน"
"ครับพี่"
หลังจากนั้นทัชก็เดินออกจากบริเวณนี้ไป ต้นน้ำก็ทำท่าจะตามทัช ตุลย์จึงรีบดึงไหล่ของต้นน้ำให้หันมามองทางตัวเองทันที
"นี่มึงคิดจะทำอะไร"
"ทำอะไร? ผมไม่ได้ทำอะไรนี่"
"มองพี่มันจนแทบจะแดกเข้าไปแบบนั้น มึงคิดว่ากูมองไม่ออกเหรอ"
ต้นน้ำที่ได้ยินก็ยิ้มมุมปากนิดๆแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ตุลย์
"มองแบบนี้หรือเปล่าครับ"
"มะ..มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย!" ตุลย์รีบถอยห่างจากใบหน้ของต้นน้ำทันที แต่เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเมื่อกี้เขาเผลอหัวใจเต้นแรงและก็มองว่าอีกฝ่ายดูดีขึ้นมาเสียอย่างนั้น
"ก็ทำเหมือนที่พี่ว่าผมเมื่อกี้ไงครับ"
"ไอ้บ้า!" ตุลย์หันหลังแล้วเดินเข้าไปในโรงซ้อมทันที ต้นน้ำได้แต่มองตามแผ่นหลังไปยิ้มๆแต่เป็นรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ไม่น้อยสำหรับคนที่เห็น
..
..
เวลา 14:33น.
"อะไรนะครับ!?" ทัชร้องลั่นด้วยความตกใจ เมื่อนิพภากับอานันท์เรียกเขากับกิมให้เข้าไปในห้องส่วนตัว และบอกมาบอกเรื่องสำคัญบางอย่างกับพวกเขา ซึ่งมันทำให้ทัชแทบจะล้มทั้งยืน ผิดกับกิมที่ดูนิ่งๆไม่ทุกข์ร้อนอะไร
"ได้ยินไม่ผิดหรอก แม่กับพ่ออยากจะให้ทัชกับกิมแต่งงานกันเร็วขึ้น นี่แม่ไปหาฤกษ์มาแล้วนะ ได้เป็นอาทิตย์หน้าแหน่ะ" นิพภาพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง พลางหันไปมองหน้าสามีตัวเองนิดๆ ซึ่งอานันท์ก็มองภรรยากลับไปเช่นกัน
"พ่อกับแม่เราสองคนตัดสินใจกันดีแล้ว เลยจะมาถามทัชกับกิม ว่าทั้งสองคนจะตกลงหรือเปล่า"
ทัชเองก็รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเมื่ออีกฝ่ายพูดแทนตัวเองว่าแม่กับพ่อ เพราะเขาไม่เคยมีพ่อแม่ ทำให้ทัชรู้สึกขาดตรงนี้พอสมควร
"มันไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ" ทัชถามด้วยความสงสัย เขาเพียงแค่รู้สึกแปลกใจและเคลือบแคลงใจที่นิภากับอานันท์ดูร้อนใจกันมากขนาดนี้ ก่อนจะเหลือบตามองกิมที่มีสีหน้านิ่งๆ ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับสิ่งที่ได้ยิน
"ไม่หรอก อย่าบอกนะว่าทัชกำลังจะเปลี่ยนใจไม่แต่งกับเจ้ากิมมันแล้ว" อานันท์ถามเสียงนิ่งๆ พร้อมกับรอบมองใบหน้าของลูกชายตัวเองไปด้วย ซึ่งตอนนี้กิมเองก็กำลังจ้องหน้าทัชอยู่
"คือ.."
"มึงไม่อยากแต่งกับกูเหรอทัช" เสียงเข้มของกิมถามทัช พร้อมกับจ้องหน้าไม่วางตา
"เปล่าครับ แต่ระยะเวลาที่เร็วแบบนี้ ผมแค่ไม่ทันตั้งตัวเฉยๆ" ทัชตอบและหลบสายตาของกิมที่มองมา
"ผม?" กิมขมวดคิ้วมองอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เมื่อได้ยินอีกฝ่ายแทนตัวเองด้วยคำว่าผม
"กิม อย่าดุน้อง" นิพภาเอ่ยปรามลูกชาย แต่มีหรือที่กิมจะฟัง สายตาของเขาเอาแต่จ้องหน้าของทัชอย่างกดดัน
"ทัชขอโทษครับ แต่ทัชไม่ได้ไม่อยากแต่งนะครับ ทัชแค่..รู้สึกว่ามันเร็วไปเฉยๆ" ทัชตอบเสียงอ้อมแอ้ม
"ไม่เร็วหรอก" กิมตอบกลับไปทันที
"ตกลงทัชโอเคกับเรื่องที่พ่อกับแม่บอกใช่ไหม" นิพภาถามยิ้มๆ
"โอเคครับคุณน้า"
"เรียกแม่ได้แล้วหน่า จะตบจะแต่งกันอาทิตย์หน้าอยู่แล้ว ยังจะเรียกน้าอีก" เธอมองใบหน้าจิ้มลิ้มของทัชดุดุ
"ครับ..คุณแม่"
"ดีมากจ่ะ"
"แล้วแกล่ะกิม ว่ายังไง" อานันท์หันไปถามลูกชาย
"ผมตกลงครับ"
ทัชก้มหน้าลงอย่างคนคิดไม่ตก เดิมทีเขาคิดว่าเรื่องงานแต่งงานอาจจะเป็นปีหน้าเสียอีก แต่พอมาได้ยินแบบนี้ก็ทำให้ทัชอดที่จะรู้สึกเครียดและเกร็งไม่ได้
"ถ้าทั้งสองคนไม่มีปัญหาอะไรก็ดี เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะ" นิพภายิ้มกว้างด้วยความพอใจ
"ครับ/ครับ"
"ถ้างั้นทัชออกไปข้างนอกก่อนไป แม่ขอคุยกับกิมก่อน"
"ครับคุณแม่" ทัชพยักหน้าน้อยๆแล้วค่อยๆลุกขึ้นเดินออกไป จนภายในห้องเหลือเพียงแค่กิมกับอานันท์
"นึกยังไงถึงอยากเลื่อนงานแต่งให้เร็วขึ้น" นิพภาถามกิเสียงเข้ม แววตาคาดคั้นพร้อมจะคาดคั้นเพื่อเอาคำตอบที่แท้จริงของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้ได้
"ก็ไม่มีอะไรแม่" กิมบอกปัด แต่ยังเจอสายตาของมารดาสุดที่รักจ้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ "เฮ้อออ นี่แม่จะสงสัยอะไรผมเนี่ย ดูพ่อดิ ยังไม่เห็นสงสัยอะไรผมเลย" กิมพยักหน้าไปทางอานันท์นิดๆ
"ฉันไม่พูด ไม่ใช่ว่าไม่สงสัยหรอกนะ แต่แค่แกเจอแม่แกคาดคั้นคนเดียวก็ดูท่าน่าจะแย่แล้วล่ะมั้ง"
"เอ๊ะ! นี่คุณว่าฉันเหรอคะ!?" นิพภาถลึงตามองสามีดุดุ
"เปล่าจ้ะเปล่า ใครจะกล้าว่าคนสวยอย่างคุณได้ล่ะครับ" อานันท์รีบโผลเข้ากอดถรรยาของตนทันที
"ตกลงยังไงกันตากิม แกจะบอกแม่ได้หรือยังว่าทำไมถึงได้ตื่นแต่เช้าแล้วรีบแจ้นเข้าไปหาแม่ที่ออฟฟิศของพ่อ และพูดเรื่องงานแต่งขึ้นมาทั้งๆที่งานแต่งของแกจะได้จัดเดือนหน้า"
"ก็..ไม่รู้เหมือนกันแม่ ผมแค่ไม่อยากวางเนื้อไว้เรี่ยราดให้ฝูงหมาไฮยีน่ามันตามแทะ" กิมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองนิดๆ พลางนึกฉุนขึ้นมาเมื่อนึกถึงสายตาของต้นน้ำที่มองทัช
นิพภากับอานันท์หันมองหน้ากันนิดๆ ทั้งคู่ก็รู้ได้ทันทีว่าลูกชายคนนี้กำลังเป็นอะไร
"ถ้างั้นแกก็ต้องสัญญากับพวกเราก่อน ว่าถ้าได้ตบได้แต่งกันแล้ว ห้ามเกเรและออกนอกลู่นอกทางเด็ดขาด"
กิมยืดตัวตรงนิดๆ แล้วหลบสายตาของแม่ที่มองมา
"รู้แล้วหน่าแม่ ผมไม่ทำให้ลูกชายสุดที่รักของแม่ต้องมีปัญหาหรอก" กิมพูดทีเล่นทีจริง แต่ส่วนใหญ่จะออกไปทางเล่นๆเสียมากกว่า
"แม่ไม่ได้กลัวน้องมีปัญหา แต่แม่ไม่อยากให้แกทำน้องเสียใจ เข้าใจที่แม่พูดไหมกิม" นิพภาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง พลางจ้องหน้ากิมนิ่งๆ
"ครับๆ รู้แล้วครับท่านแม่"
"ถ้างั้นก็ออกไปข้างนอกไป แล้วพาน้องไปด้วย ไปร้านตรงย่านทองหล่อนะ แม่คุยกับเจ้าของร้านเอาไว้แล้วว่าจะให้เราสองคนไปดูชุดแต่งงาน"
"ห๊ะ!? ตอนนี้เลยเนี่ยนะแม่"
"ก็เออน่ะสิ ไม่ไปตอนนี้แล้วแกจะไปตอนไหน แกเป็นคนเร่งงานแต่งเองนะ อย่ามาทำเหมือนถูกฉันบังคับจะได้ไหมห๊ะ!"
"แค่ถามเอง แม่จะดุทำไมเนี่ย" กิมถอนหายใจออกมาหนักๆ
"ใครจะรู้คนอย่างแกล่ะ เลิกพูดมากแล้วพาน้องไปได้แล้ว เดี๋ยวมันจะมืดจะค่ำซะก่อน"
"ครับๆๆ" กิมพยักหน้างึกงักแล้วลุกออกจากห้องไปทันที
..
..
"คุณกิมครับ.."
"มึงเลิกเรียกกูด้วยคำสุภาพแบบนั้นได้แล้ว จะเป็นเมียกูอยู่แล้ว ยังเสือกทำตัวเหินห่างอยู่ได้" กิมพูดโดยไม่หันไปมองคนข้างกาย
"กิมจะพาทัชไปไหน" ทัชถามด้วยความสงสัย พร้อมกับเปลี่ยนสรรพนามเรียกอีกฝ่ายตามที่กิมต้องการ เพราะหลังจากที่กิใออกมาจากห้องของนิพภา ร่างสูงก็คว้าข้อมือของเขาแล้วดึงให้ตามมาที่รถ ก่อนจะขับออกไปโดยไม่พูดอะไร
"ร้านชุดแต่งงาน"
"ไปทำไมอ่ะ"
"ไปนั่งปิ้งเขียดกินมั้ง"
"กิม" ทัชขมวดคิ้วมุ่น เมื่อเจอคำพูดกวนๆของกิมที่ตอบกลับมา
"ไปร้านชุดแต่งงาน มึงคิดว่าเขาจะไปทำอะไรกันได้อีก นอกจากไปลองชุด"
"พูดดีๆก็ได้ไหม จะกวนกลับมาทำไมเนี่ย"
"ดีดี"
"ถ้ายังกวนแบบนี้อีก ทัชจะไม่พูดดีด้วยแล้วนะ" ทัชเริ่มพูดเสียงดุ
"แล้วมึงจะพูดยังไง" กิมลอยหน้าลอยตาหันมาถามยิ้มๆ
"ก็จะไม่เรียกกิมเฉยๆ แต่จะเรียกไอ้กิมแทนนี่ไง อยากให้หยาบไหมห๊ะ!?" ทัชถลึงตามองนิ่งๆ
"โว๊ะ พูดเล่นแค่นี้ก็ไม่ได้" กิมบ่นอุบ แต่ก็ไม่ได้พูดกวนอะไรต่อ
เมื่อขับมาถึงหน้าร้าน กิมก็เลี้ยวเข้าไปทันที ก่อนจะพากันลงจากรถและเดินเข้าไปข้างใน
"ร้าน BB พรีเวดดิ้ง สวัสดีค่ะ"
"คุณกิมใช่ไหมคะ" หญิงสาวที่ดูท่าทางแล้วเหมือนเจ้าของร้านเดินตรงเข้ามาหาชายหนุ่มทั้งสอง
"อืม แม่ผมได้คุยกับคุณหนิงแล้วใช่ไหมครับ"
"ใช่ค่ะ ดิฉันเตรียมแบบและสีชุดไว้ให้กับพวกคุณแล้วนะคะ ทางด้านนี้ค่ะ" หนิงผายมือไปยังด้านขวามือของตน แล้วเดินนำทั้งสองไปนั่งที่โซฟาสีครีม พร้อมกับหยิบสมุดที่มีแบบและสีของชุดเจ้าบ่าวให้กับกิมและทัชได้ดู
"มึงอยากได้แบบไหนบอกเขาได้เลย กูขอเวลาส่วนตัวแป๊บ" กิมพูดจบก็ก้มหน้ากดโทรศัพท์ทันที โดยไม่หันไปมองทัชเลยสักนิดว่าตอนนี้กำลังมีแววตาที่หม่นหมองมากแค่ไหน เขาหันไปมองทางด้านหญิงสาวก็เจอกับสายตาที่ดูเห็นใจเขาไม่น้อย รอยยิ้มหวานๆของทัชเผยขึ้นนิดๆเพื่อไม่ให้ดูเรียบนิ่งมากเกินไป
"สอบถามได้นะคะ" เธอพูดขึ้นเพื่อเป็นพิธี ถึงแม้ว่าตัวของเธอนั้นจะพอมองออกว่า ชายหนุ่มที่หน้าหวานกว่าดูไม่ค่อยสนใจในงานแต่งงานครั้งนี้เท่าไหร่เสมือนว่าอีกฝ่ายถูกบังคับมา ผิดกับอีกคนที่ดูเหมือนจะตื่นเต้น แต่สายตากลับดูเศร้ามากเหลือเกิน
"ผม..ยังไงก็ได้ครับ" ทัชบอกยิ้มๆ แต่มุมปากกลับยกยิ้มได้ไม่เต็มแก้ม เหมือนกำลังฝืนยิ้มมากกว่ายิ้มออกมาจากหัวใจ
"ยังไงก็ได้ได้ไง มึงชอบอันไหนก็เลือกเอาดิ" กิมขมวดคิ้วหันไปมองทัช ก่อนจะหันกลับมาพิมพ์บางอย่างในมือถือ ซึ่งทัชไม่อยากเห็นด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายกำลังพิมพ์หาใคร เพราะไม่ได้อยากรู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว
"ผมเอาตัวนี้ก็ได้ครับ" ทัชชี้ไปที่แบบเสื้อมั่วๆ
"เอ่อ..สีแดงเลยเหรอคะ" หนิงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม นั่นทำให้ทัชได้สติและหันไปมองในสิ่งที่ตัวเองชี้
"เอ่อ..เลือกใหม่ก็ได้ครับ"
"มึงเป็นอะไรของมึง" กิมขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
"เปล่า ทัชไม่ได้เป็นอะไร"
"ไม่ได้เป็นอะไรก็ทำหน้าตาให้มันดีๆแล้วก็เลือกดีๆด้วย นี่งานแต่งมึงนะ ทำหน้าเหมือนโดนบังคับมาอยู่ได้"
ทัชหลบสายตาดุดุของกิมที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ เพื่อไม่ให้ร่างสูงเห็นน้ำตาที่เอ่อคลอทั้งสองข้าง
กิมเองก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วหันไปพูดกับหนิง
"ขอเวลาส่วนตัวสักครู่ได้ไหม"
"ดะ..ได้ค่ะๆ" เธอรีบออกไปจากบริเวณนี้ทันที พร้อมกำชับเด็กในร้านว่าไม่ให้เดินเข้าไปยุ่มย่ามบริเวณนั้น อีกทั้งยังปิดม่านกันไม่ให้คนนอกเข้าไปได้อีกด้วย เพื่อให้เวลาทั้งสองได้ปรับความเข้าใจและเคลียร์ใจกัน
"เอาล่ะพูดกับกูดีๆสักทีเถอะ มึงเป็นอะไร"
"เปล่า"
"ถ้าตอบว่าเปล่าอีกคำเดียว กูจะจับมึงจูบตรงนี้ แล้วจะเรียกให้พนักงานเข้ามาดูด้วย เอางั้นดีไหม" กิมพูดเสียงนิ่ง แต่แววตากลับดูจริงจังมากจนทัชเริ่มกลัว
"กะ..ก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไรนี่"
"ไม่รู้จะตอบว่าอะไร ก็ตอบสิ่งที่มึงคิดออกมาสิ จะมัวแต่นั่งอมน้ำจนแก้มพองทำไม"
"ทัช..ทัชแค่.."
กิมส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย เมื่อคนที่ดูเป็นหัวหน้าบอดี้การ์ดและดูเก่งไปเสียทุกเรื่อง กลับมีท่าทีที่ไม่มั่นใจและเหมือนเด็กแบบนี้ กิมดึงเอวบางของทัชให้มานั่งที่ตักตัวเอง และหันใบหน้ากลมๆของทัชให้มองทางที่เขา
"เมื่อกี้กูพิมพ์โทรศัพท์คุยกับไอ้ฐาน มันบอกว่ามันจะมาหากูแต่มันจะพาไอ้ภัทรแล้วก็ไอ้ศิมาด้วย กูคิดว่ามันต้องวุ่นวายมากแน่ๆกูก็เลยไม่ให้พวกมันมา"
ทัชที่ได้ยินคำตอบก็อึ้งไปทันที เพราะเขาไม่คิดว่ากิมจะคุยกับเพื่อนสนิท
"เลิกคิดมากได้แล้ว กูสัญญาว่ากูจะไม่คุยกับใคร ไม่ไปหาใคร ไม่เอากับใคร ในตอนที่ยังไม่ได้แต่งงานกับมึง..โอเคไหม?" กิมให้คำมั่น มือหนากุมมือนุ่มของทัชแล้วลูบเบาๆ ทัชเม้มปากอย่างเขินๆให้กับคำสัญญาของร่างสูง
"อื้อ"
"คิดอะไรเลอะเทอะอยู่ได้ แล้วที่กูบอกว่าให้มึงดูไปก่อนเลยเพราะกูจะได้เลือกตามมึง กูใส่อะไรก็ได้ทั้งนั้น แต่กูอยากให้มึงเลือกในสิ่งที่มึงชอบ..ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมกูถึงให้มึงเลือกก่อน" กิมอธิบายเพิ่มอีก เพราะรู้ดีว่าคนตรงหน้าคงยังมีคำถามในใจอีกแน่ๆ
"อื้ม ขอโทษที่คิดมากนะ"
"คิดมากกูไม่ว่า แต่อย่าคิดไปเองแล้วก็เงียบแบบนี้ เพราะกูไม่รู้ว่ามึงโกรธอะไรหรือกำลังสงสัยอะไรในตัวกู ถ้ามึงคิดไปเองแล้วสิ่งที่มึงคิดมันไม่ใช่สิ่งที่กูทำ กูจะได้อธิบายให้มึงฟังได้ มึงก็จะได้สบายใจด้วย เข้าใจแล้วใช่ไหม"
"เข้าใจแล้ว ทัชขอโทษนะ"
"เข้าใจแล้วก็ดี ทีนี้เลือกได้แล้วใช่ไหมว่าอยากได้แบบไหน"
"อื้อ"
"งั้นก็เลือกไป กูจะคุยกับพวกมันต่อ" กิมพูดจบก็กดโทรศัพท์หาพิฐานอย่างที่พูดจริงๆ แต่ไม่ได้ปล่อยเอวบางของทุชให้เป็นอิสระ กลับโอบเอาไว้แบบนั้นไม่ยอมให้ทัชได้นั่งดังเดิม
"กิมปล่อยทัชก่อน ทัชจะได้ไปเลือกให้ไง"
"จะเลือกก็เลือกไปดิ อย่าวุ่นวายหน่า" กิมบ่นออกมาเล็กน้อย แต่สายตายังคงจดจ่ออยู่กับแชทของเพื่อนอยู่ นั่นทำให้ทัชต้องนั่งอยู่บนตักของกิมอยู่แบบนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
+++++++++++
#เนื้อเรื่องอาจจะเรื่อยๆไม่ค่อยมีอะไรมากนะคะ