2 เท่าไรก็ไม่พอ (2)
“ทำไมไม่ยอมโกนหนวดกลับมา ตั้งใจจะแกล้งลูกชุบใช่ไหม” ถามงึมงำ ปลายนิ้วซุกซนยื่นแตะแก้ม แตะแนวคาง หาวน้ำตาซึมไปหนึ่งที ถ้าไม่ถูกปลุกขึ้นมาตื่นอีกทีก็เช้าเลย แบบนี้ทรมานกันชัด ๆ แต่แบบนี้ก็ดี ได้เจอกันเร็วหลายชั่วโมง
เรื่องหนวดโดมินิกไม่ได้ใส่ใจ เมียเขาแค่หาเรื่องพูดบ่นไปเรื่อย มันมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้น “ทำไมเห็นหน้าสามีอย่างพี่แล้วที่รักไม่ตกใจเลย หรือไอ้คินมันแอบรายงานเราแล้ว” มือเขาไม่อยู่นิ่ง บีบแก้มขาวข้างที่ไม่ได้เบียดอยู่กับแผงอก เด็กคนนี้กินอะไรเข้าไปทำไมถึงได้ตัวนุ่มนักไม่รู้ หรือเพราะปกติชอบกินซาลาเปาเลยนุ่มนิ่มเหมือนของที่ชอบ แล้วก็ส่ายหน้าในใจเงียบ ๆ ไม่น่าใช่ ความคิดเขาบางครั้งมันก็เหลวไหล โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวพันกับเมีย อะไรก็คิดออกมาได้ทั้งนั้น
“พี่คินน่ะเหรอคะจะบอก ฮึ! ไลน์ไปถามถึงเสี่ยยังไม่ยอมตอบเลย คงกลัวจะทำแผนเจ้านายแตกเลยเมินข้อความลูกชุบ เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าใครจะรายงานลูกชุบเลยค่ะ ไม่มีใครหลุดปากบอกสักคนแม้แต่คุณเลขาฯ ผู้ช่วย เก็บกันเงียบสนิททั้งเจ้านาย ลูกน้อง น่าตีที่สุด” มุ่ยปากแล้วก็ลงมือตีเลยจริง ๆ ตีที่กล้ามอกแน่น ๆ นี่แหละ สำหรับโดมินิกแล้วมันไม่เจ็บแต่ให้ความรู้สึกคันยุบยิบมากกว่า “แล้วที่เสี่ยคิดว่าลูกชุบไม่ตกใจน่ะคิดผิดแล้วค่ะ ลูกชุบเกือบจะร้องกรี๊ดให้คนมาช่วยแล้วรู้ไหมคะ นึกว่าถูกโจรโรคจิตบุกห้องซะอีก ดีที่ลูกชุบมีสติ โจรที่ไหนก็บุกเข้ามาบ้านเราไม่ได้ถ้าไม่ใช่โจรเจ้าเล่ห์แถวนี้ ไขห้องเข้ามาไม่พอ แถมยังทำท่าเหมือนโกรธลูกชุบด้วย ลูกชุบไปทำอะไรให้” ว่าพลางทำปากยื่นแง่งอนด้วยความคับข้องใจอีกรอบ พลางเงยหน้าขึ้นมาค้อนขวับ เธอก็นอนหลับของเธอดี ๆ ไม่ได้ดื้ออะไรสักหน่อย
“งั้นต้องให้รางวัลคนสติดี” เขาพูดธรรมดาแต่น้ำเสียงไม่ธรรมดา
“ไม่เอาจูบนะคะ” คนโดนรู้ทันหัวเราะ แกล้งทำหน้าเสียดาย
“งั้นเอาอะไรคะ กระเป๋าดีไหม?”
คนถูกของล่อแกล้งกลอกตา ถามว่า “ไม่ใช่ว่าซื้อมาให้ลูกชุบแล้วเหรอคะ?” มันเป็นสิ่งที่เธอได้รับมาตลอด ถ้าโดมินิกมีโอกาสได้บินไปทำงานที่ต่างประเทศ เขาจะต้องหิ้วมาฝาก แล้วไม่ใช่แค่ท่านประธานคนนี้ที่ชอบซื้อให้ แต่เป็นทุกคนในครอบครัว รุ่นไหนหายาก ออกมาจำนวนจำกัด แค่ไม่กี่ชิ้นในโลก เธอได้มาครอบครองเกือบทั้งหมด มันกลายเป็นของสะสมโดยไม่รู้ตัวไปแล้ว ถ้าเอาออกมาขายคงได้เงินมานอนกอดให้รู้สึกอุ่นใจหลายบาทเลยล่ะ “ลูกชุบใช้ไม่ทันแล้ว” ปากบ่น แต่ใจมันฟูฟ่องเบิกบานสุด ๆ
ไม่ใช่แค่กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับเท่านั้น เรียกว่าทุกอย่างเลย ทุกอย่างจริง ๆ แม้แต่ของน่ารักกุ๊กกิ๊กที่ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้แต่ราคาแพงจนปวดใจ ถ้าถูกใจพี่ชายคนนี้เขาก็ยอมรูดบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินจ่ายออกไปง่าย ๆ บอกเอาไว้ให้เธอดูเล่น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องราคา เพราะถือเป็นคำต้องห้ามระหว่างเธอกับเขา เงินมีไว้ใช้ ซื้อของให้เธอแค่นั้นไม่ทำให้เขาจนลงได้
“สักวันลูกชุบคงโดนของพวกนั้นทับตาย”
โดมินิกระบายรอยยิ้มเต็มใบหน้า เอ็นดูคนบ่นหงุงหงิง เมียเขามีแต่ความน่ารัก เธอใช้คำนั้นได้เปลืองมาก ปากพูดเหมือนไม่ต้องการแต่ดวงตากลมโตนั้นเป็นประกายสดใส เขาจะทำเป็นมองไม่เห็นแล้วกัน สัญญาที่เขาเคยให้ไว้ว่าจะทำให้ผู้หญิงที่ชื่อโรสิตาคนนี้กลายเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดคนหนึ่งเขายังคงจำไม่ได้ลืม และต่อจากนี้ไปก็จะทำให้ดีกว่าเดิมด้วย
คนของเขาต้องไม่น้อยหน้าใครทั้งสิ้น เงินทองที่เขาหามาได้ถ้าไม่เอามาปรนเปรอคนในครอบครัวจะเอาไปปรนเปรอใคร คนอื่นยิ่งไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่าย ประเภทบอกให้ไปบริจาค ทำการกุศลเพื่อบุญใหญ่ เรื่องพวกนี้จำเป็นให้ใครต้องมาชี้นำตั้งแต่เมื่อไร
“เอ๊ะ!”
“หืม?”
“ไม่ต้องมาหืมเลยค่ะ” โรสิตาทำตาเขียว ปากยื่นใส่ โดมินิกทำหน้างงแล้วยังถูกเมียหยิกแก้มด้วย “ลูกชุบยังไม่ลืมนะว่าเสี่ยทำเหมือนโกรธลูกชุบตกลงว่ามันคือเรื่องอะไรกันคะ ลูกชุบต้องการความกระจ่างเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” จากความรู้สึกหวานล้ำในใจ คิ้วน้อย ๆ ก็เริ่มขมวดอีกครั้ง ดิ้นจะให้ร่างสูงที่อิงแอบปล่อย แต่เขากลับทำตรงข้าม กระชับวงแขน และเกี่ยวขาเธอไว้ คนงามจึงทำได้แค่ถลึงตา
เห็นหน้าตาขึงขังเหมือนลูกแมวจอมดื้อของคนสวยแล้ว โดมินิกก็ ทั้งขำ ทั้งโมโห แต่สำหรับเรื่องนี้เขาโมโหมากกว่าขำ เรียกว่าขำไม่ออกจะดีกว่าถ้าต้องพูดมันขึ้นมา ภาพนั้นยังฝังอยู่ในหัวเขาอยู่เลยถึงจะแกล้งทำเป็นลืมก็ยังลืมไม่ลง
“ก็ไอ้นักบาสนั่น ที่รักกล้าดียังไงถึงไปถ่ายรูปกับมัน” ถึงจะรูปที่ถ่ายร่วมกับอีกหลายคน แต่เมียเขาเล่นยืนติดกับมันเลย แล้วยังลง IG ด้วย ถ้าเขาไม่เข้าไปลบรูปนั้นด้วยตัวเอง ป่านนี้มันก็ยังอยู่ “พี่ยอมรับว่าตัวเองเป็นคนใจแคบ”
โรสิตาเม้มปาก ก่อนจะกลอกตา สุดท้ายกลั้นยิ้มจนแก้มพอง โอเค เธอเข้าใจที่มาแล้ว แต่ว่า…พลางหรี่ตา “เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเราสองคนคุยกันจบไปแล้วเหรอคะ” ชันศอกขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเป็นท่าที่สบายขึ้น แล้วยื่นหน้าจุ๊บมุมปากเอาใจคุณหมีขี้โมโห ฉายาที่เธอมักใช้เรียกเวลาเสี่ยดอมคนนี้กลายร่างเป็นมนุษย์เอาแต่ใจ “ผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว ทำไมเสี่ยถึงกลับมางอนเรื่องนี้ได้อีกล่ะคะ”
“เพราะมันแวบเข้ามาในหัว”
โรสิตาอมยิ้ม แหย่ว่า “อย่าแวบบ่อยนะคะ เหนื่อยค่ะ”
“ที่รักก็อย่าทำให้พี่หวงสิคะ หวงจนอยากให้อยู่ในสายตาตลอด สวยจนไม่อยากให้สวยไปมากกว่านี้แล้วรู้ไหมหืม” ถูจมูกกับพวงแก้มนุ่มก่อนจะงับเบา ๆ เชิงหยอก พลางถามเสียงอ่อนโยนว่า “ที่รักคิดถึงพี่ไหม” ฝ่ามือหนาลูบแผ่นหลังเล็กด้วยสัมผัสทะนุถนอม
“ค่ะ”
“ไม่ตอบแบบนี้ทูนหัว ตอบใหม่เร็วเข้าเด็กดี”
“คิดถึงค่ะ ลูกชุบคิดถึงเสี่ยดอมที่สุดในโลกเลย” ตอบแบบนี้ไม่ใช่เพราะความจำยอม หรือเพราะอยากเอาใจเขาเท่านั้น แต่เป็นเพราะเกือบสองเดือนเต็มที่ไม่ได้ใกล้ชิดกันอย่างนี้ เธอยอมรับจากหัวใจเลยว่าโหยหาอ้อมกอดนี้ที่สุด
“คิดถึงแล้วต้องทำยังไง”
โรสิตาแสร้งค้อนปากยื่นให้คำถามที่เหมือนถามเด็กน้อยโดยการชี้นำหวังให้ทำตามในสิ่งที่ผู้ใหญ่เคยสอน บ่นในใจทว่าก็หยัดกายขึ้นจูบที่มุมปากหนาอย่างไม่อิดออด พอจะผละห่างออกมาท้ายทอยก็ถูกประคองให้รับจุมพิต
ความคิดถึงที่อัดแน่นอยู่ในอกของโดมินิกถูกส่งผ่านมาทางสัมผัสหวามไหวเจืออ่อนหวานระคนเร่าร้อน เรียวลิ้นหนาสอดล้ำเข้าไปในโพรงปากนุ่มได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ริมฝีปากแตะกันก็คล้ายมีแรงดึงดูดมหาศาล ต่างฝ่ายต่างตักตวงความหอมหวานจากกันและกันจนลมหายใจหอบกระชั้นด้วยกันทั้งคู่
“เหนื่อยค่ะ”
โดมินิกหัวเราะให้กับความน่ารักน่าเอ็นดูที่มองยังไงก็ใสซื่อ พลางกดริมฝีปากจูบหนัก ๆ บนฝ่ามือนุ่มนิ่มที่คนสวยยกขึ้นมากั้นไม่ให้รังแกต่อ แต่กั้นยังไงก็ไม่สามารถหยุดความต้องการของเขาได้ ยังเบี่ยงหลบมาจูบเรียวปากอิ่มได้อยู่ดี เพียงแต่ไม่ได้สอดลิ้นเข้าไปรุกล้ำเหมือนก่อนหน้านี้ ให้เวลาเด็กน้อยได้หายใจ
“สองเดือนที่ผ่านมาไม่มีพี่คอยพาออกกำลังกายเลยทำให้ที่รักเหนื่อยง่าย เพราะฉะนั้นหลังจากพรุ่งนี้เป็นต้นไปเราต้องขยันออกกำลังกายให้มาก ๆ” เขาวางมือไว้ที่บั้นท้ายอวบอั๋นภายใต้ชุดนอนตัวสวยที่แทบปกปิดความเย้ายวนของเรือนกายนี้ไม่ได้เลย หุ่นโรสิตาไม่ได้ผอมบางเหมือนสมัยนิยม มีน้ำมีนวล ซึ่งมันเซ็กซี่มาก ๆ เขาชอบที่เด็กน้อยของเขามีรูปร่างอย่างนี้ ใส่อะไรก็สวย แต่ถ้าไม่ใส่อะไรเลยมันดียิ่งกว่า
โรสิตารู้ทัน การออกกำลังที่เหนื่อยยิ่งกว่าการออกกำลังกายน่ะสิ เลยเปลี่ยนเรื่อง “เสี่ยกลับมาตั้งแต่เมื่อไรคะ เมื่อวานตอนเราคุยกันไม่เห็นบอกลูกชุบเลยว่าเสี่ยจะกลับก่อนกำหนด” พูดอู้อี้กับซอกคอแกร่งขณะที่ลำตัวครึ่งหนึ่งของเธอก่ายเกยอยู่บนเรือนกายวมบูรณ์แบบอย่างสบายใจ อุ่นกว่าผ้าห่มก็คุณหมีนี่แหละ
โดมินิกอมยิ้มให้ความน่ารัก ช่างอ้อนของสาวน้อย ปลายนิ้วไล้อยู่บนแก้มก้นอวบนุ่ม หอมริมผม กระหม่อมบาง “พี่กลับมาถึงเมื่อวานตอนบ่ายสามโมงค่ะ” ตอนนี้มันเข้าสู่วันใหม่แล้ว “เพราะว่าอยากเซอร์ไพรส์เลยไม่ได้บอกว่าจะกลับก่อน มาถึงแล้วก็เข้าบริษัทไปประชุม ไปเซ็นเอกสาร อยู่ยาวจนดึก”
“โถ เหนื่อยแย่เลยค่ะ ทีหลังไม่เอาแบบนี้แล้วนะคะ ถ้าต้องแลกกับการทำงานหนักเพื่อจะได้กลับมาไว ๆ แต่ครั้งนี้ถือว่าแผนเซอร์ไพรส์ของเสี่ยสำเร็จค่ะ แล้วเสี่ยจะต้องกลับไปที่อเมริกาอีกหรือเปล่าคะ ทุกอย่างที่นั่นเรียบร้อยดีใช่ไหมคะ อื้อ...”
“พูดใหม่ค่ะ” หลังจากลงโทษเด็กดื้อสำเสร็จเขาก็พูดเชิงสั่ง
“พูดใหม่อะไรคะ เสี่ยกำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันแน่?” โรสิตาทำหน้าไม่เข้าใจ มีเครื่องหมายคำถามอยู่ในดวงตาเต็มไปหมด เมื่อกี้ยังยิ้ม หัวเราะกับเธออยู่เลย จู่ ๆ มาบอกให้พูดใหม่โดยไม่มีคำอธิบายอะไรเลย เธอจะเข้าใจได้ยังไง
“ลูกชุบต้องเรียกพี่ว่ายังไงคะ?”
เขาไม่ตอบคำถามแต่เป็นฝ่ายตั้งคำถามเสียงเครียดกับเธอซะเอง จะไม่ใจอ่อนยอมให้แม่สาวน้อยจอมดื้อเรียกแบบเดิมอีกต่อไป ตอนคุยกันผ่านวิดีโอยังพอหลับตาปล่อยผ่านไปได้ เพราะอยู่ไกลกัน ลงโทษกันลำบาก แต่วันนี้เขากลับมาอยู่ตรงนี้แล้ว อย่าหวังว่าจะรอดถ้าพูดไม่ฟังอีก ฟังแล้วไม่ลื่นหู ทีกับน้องชายเขาสองคนเรียกพี่ได้ แต่กับเขาเรียกเสี่ยตามคนอื่นตั้งแต่พบหน้ากันจนถึงตอนนี้
ปากอิ่มยื่นออกมานิด ๆ หลังทราบสาเหตุที่ทำให้คนตัวโตแสดงอาการหงุดหงิดให้เห็นแบบงง ๆ ก่อนจะพูดเสียงอุบอิบ “พี่ดอม” ด้วยรู้ดีว่าถ้ายังดื้ออยู่เขาคงมีวิธีที่ทำให้เธอเรียกจนได้นั่นแหละ แค่นี้ก็จ้องเธอตาดุ บอกใบ้ให้รู้กลาย ๆ ว่าถ้ายังไม่ทำตามที่เขาต้องการจะโดนดีแน่ ตามใจเธอมาตั้งนานพอบทจะไม่ให้เรียกก็เอาเลย ก็รู้มาตลอดนั่นแหละว่าเขาไม่ชอบแต่ความอยากแกล้ง แล้วเขาไม่เคยว่าเธอเลยติดและชิน