2 เท่าไรก็ไม่พอ (3)
“อะไรนะคะ”
“พี่ดอม” เพิ่มเสียงขึ้นมาอีกนิด ค้อนอีกเล็กน้อย ได้ยินแต่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เชอะ ถ้าอยู่ต่อหน้าคนอื่นถ้าเธอจะเรียกเธอจะเรียกเขาว่าพี่ ไม่เรียกว่าเสี่ย คำนั้นเธอจะเรียกเฉพาะตอนอยู่ด้วยกันตามลำพัง ต่อหน้าต่อหน้าคนในครอบครัว และต่อหน้าคนสนิทเท่านั้น
คราวนี้สีหน้าขรึม ๆ ของโดมินิกผ่อนคลายลงจนเกือบเป็นปกติ แต่ก็ยังแกล้งใช้น้ำเสียงกึ่งดุ สอนเด็กดื้อที่ชอบเรียกขัดใจผัว “เมียที่ดีต้องเรียกผัวด้วยคำที่สนิทสนมแบบนี้ถึงจะถูก หรือถ้าไม่อยากเรียกพี่ น้องจะเรียกที่รักก็ได้ พี่ไม่ขัด”
ดวงหน้าหวานแดงซ่านค้อนควักแก้เขิน ความสัมพันธ์ของเธอกับโดมินิกเปลี่ยนไปแบบก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วก็เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ปี่สี่เทอมหนึ่ง ซึ่งจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดมันมาจากการที่เธอไปงานวันเกิดของศิริกัญญา เพื่อนสนิท แล้วเผลอดื่มเหล้าเข้าไป
ลืมตาตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในเพนท์เฮาส์ของพี่ชายที่เพิ่งจ่ายเงินซื้อมาในราคาเกือบ 300 ล้านบาท ในสภาพเนื้อตัวเปลือยเปล่า มีเพียงแค่ผ้าห่มที่ช่วยปกปิดร่างกายเธอไว้เท่านั้น แค่นั้นไม่พอเธอยังถูกเรียกร้องกึ่งบังคับจากพี่ชายด้วยเรื่องให้แสดงความรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น!
“กี่โมงแล้วคะเนี่ย” ถามพลางควานมือหาโทรศัพท์ที่จำได้ว่าวางไว้ใกล้หมอน “จะตีสองแล้วค่ะ ลูกชุบว่าพี่ดอมกลับห้องไปนอนพักผ่อนได้แล้วล่ะค่ะ ตอนเช้าพี่ดอมจะได้ไม่ต้องรีบตื่นด้วย ถ้าเราพากันนอนตื่นสายทั้งคู่ไม่มีใครปลุกใคร ลูกชุบกลัวว่าถึงตอนนั้นอาจจะมีคนในบ้านบังเอิญเดินมาเห็นเข้าว่าพี่ดอมออกจากห้องของลูกชุบ” เรื่องของเธอกับ
โดมินิกยังไม่เป็นที่เปิดเผยให้คนอื่นได้รู้ในความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่ง เพราะเธอขอเอาไว้ ทำอะไรจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งก็เป็นแค่เธออีกที่คอยระวัง ส่วนคนเอาแต่นอนกอดไม่ให้ความร่วมมือเท่าไรเลย ทำเป็นมึนทุกที
“พี่จะนอนกับเมีย เมียนอนอยู่นี่จะให้พี่กลับไปนอนเหงาคนเดียวฝันไปหรือเปล่าหืม เราไม่ได้อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน ต้องกอดกันชดเชยทดแทนช่วงเวลาที่เสียไปให้มากหน่อย ป๋ากับคุณแม่ก็ไม่อยู่ ป่านนี้เที่ยวกันจนลืมไปแล้วด้วยมั้งว่าทิ้งลูกสาวให้อยู่เฝ้าบ้านตามลำพัง ส่วนคนอื่นยิ่งแล้วใหญ่ ไม่จำเป็นต้องแคร์ใครทั้งนั้น มีพี่คอยกางปีกปกป้องอยู่ทั้งคน ลองใครมาว่าเมียพี่ดูสิ ทีนี้จะได้รู้กันว่าพี่จะมีวิธีจัดการกับคนพวกนั้นยังไง พี่พร้อมเปิดตัวว่าเป็นผัวเราทุกวัน มีแต่เรานั่นแหละที่เอาแต่หลบซ่อนพี่ไว้ในมุมมืด เลิกกังวลได้แล้วค่ะ ลูกชุบก็เรียนจบแล้วนะคะ ถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว พี่ว่าถึงเวลาที่เราสองคนต้องทำอะไรให้มันชัดเจน และถูกต้องตามครรลองครองธรรมมากกว่านี้แล้วล่ะ”
ดวงตาคู่สวยค้อนขวับ บ่นอุบอิบว่าพูดมาได้ว่าอยากทำตามครรลองครองธรรม อยู่ด้วยกันสองต่อสองทีไรหาเรื่องรังแกเธอตลอดเลย คิดแล้วพลางซบหน้านิ่งกับแผงอกกว้าง พูดกันตามตรงคือเธอหนักใจ กังวลไปสารพัด เรื่องเรียนจบเธอก็เพิ่งสอบวิชาสุดท้ายเสร็จไปก่อนพี่ดอมกลับมาแค่ไม่กี่วันเอง “เรายังไม่บอกไม่ได้เหรอคะ ลูกชุบกลัวค่ะ กลัวว่าทุกคนจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องของเรา”
โรสิตาแคร์คนในครอบครัว
ถึงเธอจะไม่ใช่สายเลือดคุณป๋ากับหม่ามี้ แต่ท่านทั้งสองก็รัก และคอยมอบให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เธอเสมอตั้งแต่วันแรก จนถึงปัจจุบัน ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไหนจะพี่ลีโอกับพี่ริคอีก แต่คนที่เธอกังวลมากที่สุดคือหม่ามี้ ถ้าหม่ามี้รู้ว่าสถานะพี่ชายคนโตกับน้องสาวเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าท่านจะรู้สึกยังไง จะรับได้หรือเปล่า
“พี่อยากบอกใครต่อใครแล้วว่ามีหวานใจชื่อลูกชุบ เพราะฉะนั้นไม่ให้ต่อรองแล้วค่ะ พี่ให้เวลาเราเตรียมใจมานานพอแล้วสำหรับเรื่องนี้” โดมินิกดุเด็กช่างต่อรองเสียงเข้ม ก่อนจะปรับน้ำเสียงให้อ่อนลงด้วยเพราะเข้าใจในความกังวลของสาวน้อยในอ้อมกอด “ที่รักเชื่อพี่เถอะค่ะว่าคุณป๋ากับหม่ามี้ของหนูไม่มีทางผิดหวังกับความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของเราแน่นอน ได้ลูกสาวคนโปรดที่รักมากกว่าลูกชายมาเป็นลูกสะใภ้รับรองได้ว่าพวกท่านจะต้องดีใจมากแน่ ๆ พี่กล้าเอาหัวตัวเองรับประกันเลย ทำใจให้สบายเถอะค่ะ” ป๋ากับคุณแม่บางทีพวกท่านอาจจะระแคะระคายเรื่องนี้บ้างแล้ว เพียงแต่ยังไม่พูดอะไร มาดามอุษาไม่เคยเร่งรัดให้ลูกชายหาลูกสะใภ้ก็จริง แต่เรื่องมีหลานน่ะเคยบ่นให้ได้ยิน
“แล้วถ้าเราสองคนเกิดไปด้วยกันไปรอดล่ะคะ ต่อไป อ๊ะ!”
ลงโทษคนพูดจาไม่น่าฟังด้วยการกัดจมูกรั้นแล้วโดมินิกก็เตือนเสียงเข้มแกมดุ “ต่อไปห้ามพูดอะไรแบบนี้ให้พี่ได้ยินอีกนะคะ พูดเผื่อก็ไม่ได้ เพราะพี่ไม่ชอบ แม้แต่คิดจะเปลี่ยนใจไปจากพี่ก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน ลูกชุบเป็นเมียพี่แล้วต้องเป็นไปตลอดชีวิต ตายไปก็ยังต้องเป็นคนของพี่ เข้าใจไหมคะ”
“เหมารวมถึงชาติหน้าด้วยเลยไหมคะ?”
“แน่นอนว่าด้วย”
“แล้วถ้าสมมุติว่าชาติหน้าลูกชุบเกิดเป็นแมวล่ะคะ?”
“ไม่แน่ว่าพี่อาจเกิดเป็นคนเลี้ยงแมว”
“คนเลี้ยงแมว!”
“อือฮึ” ปากได้รูปหยักขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ได้คำตอบไม่ถูกใจก็ทำปากยื่นแง่งอน “ไม่อยากคุยด้วยแล้ว”
โดมินิกหัวเราะ “งั้นไม่ต้องคุยครางอย่างเดียวเลยแล้วกัน”
เขารอเวลานี้มานานแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาก้มต่ำ สันจมูกโด่งคลอเคลีย หอมหน้าผากใสของคนใต้ร่าง ลมหายใจร้อนผะผ่าวรินรดดวงหน้าแดงระเรื่อ ริมฝีปากหยักเจือด้วยรอยยิ้มเอ็นดูค่อย ๆ แนบประกบเรียวปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มอย่างหลงใหล ฝ่ามือสากระคายลูบไล้ ผิวกายเรียบเนียน เรียวลิ้นสอดรุกเข้าไปในโพรงปากนุ่ม จุดเริ่มต้นของจุมพิตเร่าร้อน