บทที่ 4 หวงเมีย [2]
“เสียวก็บอกมาเถอะ อยากให้กระแทกแรงๆ ก็ไม่ให้ต้องอายเลย เราเป็นผัวเมียกันนะ ต้องการอะไร อยากได้แบบไหนพี่จัดเต็มให้อยู่แล้ว”
“พะ...พอได้แล้วค่ะ เดี๋ยวใครผ่านมาเห็นเข้า” มีนาพยายามดึงสติตัวเองกลับมาหลังจากหลงมัวเมาไปกับไฟพิศวาสที่พี่เมฆจุดขึ้น ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองด้วยสีหน้าเว้าวอน อยากขอร้องให้พี่เมฆหยุดเล่นงานเธอสักที แต่หารู้ไม่ว่าจิตใจของคนร่างสูงไปไกลเกินกว่าจะกู่กลับมาได้
ชายหนุ่มขยับเอวสอบกระแทกลำรักเข้าไปสุดทาง ก่อนจะถอนออกมาเกือบสุด และก็ผลักดันเข้าไปใหม่ ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววชั่วร้าย ริมฝีปากเหยียดยิ้มอำมหิตเลือดเย็นไม่ยอมหยุดตามคำร้องขอของน้องสาว
“อยากให้พี่หยุดเหรอ ฝันไปเถอะ! ยังอยากไปเรียนอยู่มั้ยฮะ”
“ยะ...อยากสิคะ พี่เมฆอย่าทำแบบนี้สิ อื้อ ฮื้อออ อ๊าาา~” เธอสะอึกกายขึ้นผวากอดรัดร่างสูงกำยำพลางเบิกตาโพล่ง รู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างถูกฉุดกระชากไปจากร่าง
มีนาตัวสั่นหายใจหอบเหนื่อย นัยน์ตาดำขลับหวานเยิ้มพร่ามัว เธอปรือตามองพี่เมฆอย่างสับสน ร่างสูงใหญ่ยังโจนจ้วงเข้าออกในกายสาวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งรุนแรงขึ้นและหนักหน่วงจนเธอรู้สึกเจ็บ
“เจ็บค่ะ พี่เมฆ...มีนเจ็บ” เสียงหวานสั่นเครือร้องบอกด้วยน้ำตาคลอเบ้า เมฆาเห็นแล้วก็สบถหัวเสียรีบเร่งโถมกระหน่ำเข้าใส่หญิงสาวรัวเร็วราวกับลมพายุหมุน ทำเอามีนาหวีดครางเสียงแหลมสูงกระตุกตอดรัดปลดปล่อยความทรมานระคนเสียวซ่านออกมา
“ทิ้งกันเลยนะ” เมฆาพูดเพียงเท่านั้นก็คำรามเสียงต่ำเหยียดร่างแข็งเกร็งแนบติดกับร่างเพรียวบาง ดวงตาคมสาดประกายวาวโรจน์ดุดัน หลังจากนั้นร่างกายก็ผ่อนคลายทิ้งลงทับบนร่างอ่อนนุ่มหอมรัญจวนใจ
“หนักค่ะ...”
“เงียบเถอะน่า ขออยู่อย่างนี้สักพักหนึ่งไม่ได้รึไง หวงเนื้อหวงตัวใหญ่แล้วนะ” เสียงทุ้มต่ำบ่นอยู่ข้างใบหูเล็ก ก่อนจะตวัดลิ้นสากร้อนเลียไล้อย่างหยอกเย้าทำเอาร่างในอ้อมแขนสะดุ้งน้อยๆ หลุดเสียงครางวาวหวิวออกมา
“อย่าค่ะ...พี่เมฆไปทำงานสายแล้วนะคะ”
“ช่างมันเถอะ สายแล้วนี่ทำไงได้ อยู่กินเมียลงท้องดีกว่า” เมฆาพูดอย่างคนเอาแต่ใจไม่เคยสนใครอยู่ในสายตาทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันไม่ชอบใจที่อีกคนเป็นแบบนี้เลย
“ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องรีบไป ตอนนี้ยังพอทันอยู่นะคะ ตอนบ่ายพี่เมฆก็มีประชุมสำคัญด้วย เป็นผู้บริหารแท้ๆ อย่าทำตัวไม่น่านับถือสิคะ เดี๋ยวก็ถูกลูกน้องเอาไปพูดในทางที่ไม่ดีหรอกค่ะ”
“ใครอ้าปากพูดก็ไล่ออกไปสิ กลัวอะไรล่ะฮะ แล้วไหนว่าไม่ชอบโผล่ไปที่บริษัทไง ยังไงซะวันนี้เราก็ต้องทำตัวติดกับพี่ทั้งวัน ห้ามหนีกลับบ้านก่อนเด็ดขาด ได้ยินแบบนี้แล้วยังอยากจะไล่ให้ไปอยู่ไหม”
“อยากไปค่ะ ยิ่งพี่เมฆพูดแบบนี้มีนยิ่งต้องไป มีนไม่ยอมเป็นต้นเหตุให้พี่เมฆหนีประชุมหรอกนะคะ แล้วก็เอาของพี่เมฆออกไปด้วยมีนอึดอัดค่ะ”
“อึดอัดหรือว่าเสียวกันแน่ฮะ ดูมันจะชอบซุกร่องอุ่นๆ ของเราจะตายไป ยิ่งอยู่นิ่งๆ แบบนี้ยิ่งรู้สึกถึงมันชัดเจน มันยังแข็งพอจะทำให้มีนครางดังๆ ได้อยู่เลย” เขาพูดพลางอมยิ้มขบขันเมื่อเห็นใบหน้าคนตัวเล็กแดงเถือกด้วยความเขินจัด ก่อนจะถลึงตาดุร้ายใส่เขา ขู่ฟ่อเหมือนลูกแมวน้อยเตรียมจะพุ่งเข้าใส่ศัตรู
“พูดอะไรน่าเกลียดเกินไปแล้วนะคะ มีนไม่ได้เสียวอะไรทั้งนั้นแหละ”
“ขาสั่นระริกขนาดนี้ น้ำเยิ้มเลอะเทอะไปทั้งเบาะแบบนี้ ยังกล้าปฏิเสธไม่ยอมรับความจริงอีกเหรอ หน็อยแน่ คิดว่าพูดไปใครจะเชื่อ ในเมื่อหลักฐานมันเด่นชัดออกอย่างนี้”
เมฆาจิ้มนิ้วลงไปบนแอ่งน้ำหวานที่ล้นทะลักผสมรวมกับลาวาขุ่นข้นของเขาจนเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งต้นขา ร่างเล็กถึงกับขนลุกซู่ ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นมอง ริมฝีปากสั่นระริก มีนาเม้มปากแน่นสะกดกลั้นอารมณ์ร้อนเร่าที่พลุ่งพล่านขึ้นมา เธอรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อมาขยับปีกตรงช่องท้อง อึดอัด ทรมานจนแทบทนไม่ไหว
“สนุกมากมั้ยคะ พี่เมฆชอบหาเรื่องแกล้งมีนให้ร้องไห้ตลอด ชอบมากรึเปล่าค่ะที่เห็นมีนเป็นแบบนี้” เธอต่อว่าเสียงน้อยใจรีบเบี่ยงหน้าหลบไปด้านข้างก่อนที่น้ำตาจะไหลลงมาให้อีกคนเห็น แต่แล้วใบหน้าเธอกลับถูกรั้งให้หันกลับมา มือหนาบีบคางมนเล็กน้อยบังคับไม่ให้อีกฝ่ายหันหนีไปอีก
“สนุกสิ ยิ่งเห็นมีนร้องไห้พี่ก็ยิ่งสนุก แต่ต้องเป็นเฉพาะตอนที่พี่เป็นคนแกล้งเท่านั้น แต่ถ้ามีนต้องร้องไห้เสียใจเพราะคนอื่นเป็นคนทำ พี่สาบานว่าจะตามไปลากคอมันมาอัดให้น่วม กระทืบให้ยับคาตีนเลย”
“พูดจาไม่เพราะเลยนะคะ แล้วมีนก็ไม่ชอบเห็นพี่เมฆใช้กำลังแก้ปัญหาด้วย”
“ไม่ชอบก็อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกใครรังแกได้สิ โดยเฉพาะไอ้พวกหน้าจืดที่มหา’ลัย ไม่ใช่ว่าพอพี่ไม่ได้ตามคุมเราปุ๊บ พวกมันก็รีบมายุ่งวุ่นวายกับเราปั๊บเลยนะ ถ้าพี่โผล่ไปเห็นจังๆ จะซัดมันให้หมอบเลย”
“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ขยับออกไปเลยค่ะ มีนหายใจไม่ออกจริงๆ แล้วนะ เจ็บไปหมดแล้ว” มีนาไม่อยากพูดกับคนขี้หวงอีกจึงรีบยกมือขึ้นดันร่างสูงใหญ่ออกไปจากตัว แต่อีกฝ่ายกลับขืนตัวไว้ไม่ยอมขยับตาม แถมยังบดเบียดลงมาทับตัวเธอแนบแน่นกว่าเดิมจนแทบหายใจไม่ออกจริงๆ
“เฮ้อ เหมือนจะยังกินไม่อิ่มเลย มีนอย่าใจร้ายนักสิ พอคิดมากร่างกายมันก็สูญเสียพลังงาน ก็ต้องหาของอร่อยโยนเข้าปาก แล้วมีนก็เป็นของหวานที่พี่อยากกินที่สุดตอนนี้ ต่อให้กลืนลงท้องไปแล้วหลายครั้งก็ยังไม่รู้สึกอิ่มสักที”
“ข้ออ้างของคนตะกละแล้วค่ะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ตะกละมากด้วย หึ” ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มโน้มลงต่ำจงใจให้ปลายจมูกโด่งแตะชนปลายจมูกโด่งรั้นของคนตัวเล็ก ลมหายใจอุ่นร้อนรดรินใบหน้าสวยหวาน พวงแก้มนุ่มอมชมพูพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำรีบเบี่ยงหน้าหลบแทบไม่ทัน
“อย่ามาอ้อนค่ะ” มือเรียวยื่นออกไปดันหน้าหล่อๆ ของสามีไว้ไม่ยอมให้ตามลงมาใกล้อีก
“ชิ เด็กดื้อ นิสัยไม่ดี เดี๋ยวนี้ไม่น่ารักเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ ตั้งแต่ไปอยู่กับคุณปานวาดก็นิสัยเปลี่ยนไป ไม่ยอมตามใจพี่เหมือนเดิม”
“มีนก็ต้องทำตามคำสั่งคุณแม่สิคะ คุณแม่บอกไว้ว่าอย่าตามใจพี่เมฆมาก เพราะพี่เมฆเป็นคนเจ้าเล่ห์ ถ้าให้กินมากเกินไปก็จะเอาแต่เรียกร้องไม่หยุด แล้วอย่างนี้ร่างกายมีนจะทนรับความปรารถนาเร่าร้อนของพี่เมฆไหวได้ยังไง”
“หึ คำก็คุณแม่ สองคำก็คุณแม่ คุณปานวาดไม่ใช่แม่แท้ๆ ของมีนสักหน่อย อย่าไปฟังมากนักสิ” เมฆาทำหน้ามุ่ยเบ้ปากใส่ เขายังจำได้ว่าตอนที่มีนาหนีออกจากบ้านไปอยู่บ้านของผู้หญิงคนนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง แล้วก็จะไม่มีวันสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นด้วย
หล่อนทำเขาไว้แสบมาก วางแผนตลบหลังเขาไว้เสร็จสรรพจนหมดหนทางสู้ ถึงจะอายุมากแต่หน้าตาก็ยังสวยและสาวกว่าอายุจริง เพราะอย่างนั้นแหละพ่อเขาที่รู้จักหล่อนมาก่อนหน้าถึงตกหลุมรักอย่างง่ายดาย พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หล่อนมาครอบครอง
เขาไม่สนว่าพ่อจะสนใจผู้หญิงคนไหนมากแค่ไหน จะปฏิบิตต่อเธออย่างไรก็ช่าง ขอแค่รู้ว่าควรทำอะไรให้สมกับที่เป็นพ่อของเขาก็พอ เรื่องความรักของผู้ใหญ่ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเขาจัดการกันเอง เขาไม่มีสิทธิ์ไปกีดกันหรือตัดสินใจแทน แต่รู้สึกว่ายายตัวดีนี่จะไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลยสินะ
“ถึงไม่ใช่แม่แท้ๆ ของมีน แต่ในตอนที่มีนลำบากมากที่สุด ไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้าง ก็ได้คุณแม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือไว้นี่คะ แล้วมีนก็เป็นลูกบุญธรรมของท่านแล้วด้วย เรียกว่าคุณแม่ไม่ถูกตรงไหน”
“ยอกย้อนผู้ใหญ่เหรอฮะ!”
“อื้อ! เจ็บนะคะ อย่ามาบีบจมูกมีนนะ!”
มีนาหลบหน้าหนีเป็นพัลวันจากมือหนาที่ตามมาบีบจมูกเธอด้วยความมันเขี้ยว เธอร้องโวยวายอย่างไร้ทางสู้ ก่อนที่พี่เมฆจะเห็นใจเลิกกลั่นแกล้งเธอไปเอง แต่หันมาคว้าใบหน้าเธอให้แหงนขึ้น ประทับจุมพิตร้อนผ่าวลงมา ริมฝีปากของเราสองคนบดเบียดเข้าหากันแนบแน่น ต่างฝ่ายต่างลิ้มรสความหวานล้ำที่ละลายอยู่ในอุ้งปาก กวาดต้อนทุกซอกทุกมุมขโมยกินขนมหวานที่ซ่อนไว้ข้างใน
ร่างเพรียวบางบิดหนีมือหนาที่ซอกซอนเข้าล้วงลึกจุดสงวนอีกครั้ง เรียวขางามถูกจับให้แบะอ้ารองรับร่างสูงใหญ่ที่แทรกลงมาตรงตำแหน่งเหมาะสม บทเพลงแห่งรักเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง จุดปะทุความร้อนภายในรถให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเหงื่อกาฬแตกพลั่ก สอดประสานร่างกายหลอมรวมกัน
เมฆาแหงนหน้ากัดฟันแน่น ดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ได้พุ่งทะยานแหวกวายในความอ่อนนุ่มเร่าร้อนของภรรยา เขาหลงใหลเสน่ห์เย้ายวนใจของมีนา ความรักที่มีให้มาพร้อมความหวงแหนที่จะไม่ยอมให้ใครได้แตะต้องหรือช่วงชิงเอาไป
“เธอเป็นของพี่ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็มาแย่งตัวเธอไปจากพี่ไม่ได้ทั้งนั้น!