บทที่ 8
ณ บ้านหลังใหญ่ครอบครัวสิระกุล
ตอนที่หญิงสาวกลับมาถึงบ้านนายจ้าง..ร่างเพรียวระหงเหลือบมองรถสปอร์ตยี่ห้อดังแบรนด์ยุโรปสีน้ำเงินสุดหรู..คิมหันต์ยังคงชอบสีน้ำเงินไม่ต่างจากเดิม..ดูท่าวันนี้ชายหนุ่มก็ยังคง wfh อยู่บ้าน
ครั้งหนึ่งในอดีตสมัยที่เราเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ช่วงนั้นเป็นช่วงมัธยมศึกษาปีที่ห้า เด็กหนุ่มคนหนึ่ง กับเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ตอนนี้ต่างก็กำพร้าแล้วทั้งคู่..ตายายของแฟนหนุ่มเสียตั้งแต่เด็กหนุ่มอยู่มัธยมศึกษาปีที่สี่ ส่วนพ่อของเธอพึ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนที่แล้ว
จังหวัดของเธอนั้นจะมีโรงเรียนประจำจังหวัดใหญ่ๆ อยู่สองโรงเรียน..โดยจะแบ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วน และโรงเรียนชายล้วน ในสมัยมัธยมต้นทั้งเธอทั้งเขาต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไป..แต่พอถึงตอนเข้าเรียนมัธยมปลาย คิมหันต์กับเลือกจะสมัครเรียนต่อโรงเรียนเธอซะงั้น
'เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาไง'
'นายไม่เบื่อบ้างเหรอ นึกยังไงมาสอบเข้าโรงเรียนหญิงล้วน'
'ไม่เห็นเป็นไรเลย ที่โรงเรียนศิ..ม.ปลายก็มีเด็กผู้ชายเรียนตั้งหลายคนนี้'
'อื่อ แล้วแต่คิมละกัน'
ตั้งแต่นั้นเด็กสาวก็ตื่นตั้งแต่เช้าขี่มอร์เตอร์ไซต์คันน้อยประจำตัว มารับเด็กหนุ่มที่หน้าบ้านทุกวัน..ถึงจะบอกว่าเธอกับเขาอยู่กันคนละหมู่บ้าน แต่แท้จริงแล้ว แค่เดินข้ามสะพานเดียวก็ถึงกันแล้ว
ตกเย็นทั้งสองก็ยังเลือกที่จะเรียนพิเศษที่เดียวกันกับคุณครูคนเดียวกัน ตอนเย็นก็ซ้อนรถมอเตอร์ไซต์กับบ้านด้วยกัน
ตั้งแต่จำความได้ ศิศิรามักจะฝากท้องไว้ที่บ้านไม้หลังนั้น โดยมีตากับยายของชายหนุ่มคอยดูแล เพราะพ่อของเธอนั้นเข้าเวรแทบไม่เป็นเวลา...เพราะแบบนี้คิมหันต์ถึงไม่มีความคิดแม้แต่วินาทีเดียวที่เขา และเธอจะห่างกัน
ตอนที่เด็กหนุ่มกับเด็กสาวต่างก็สูญเสียผู้ใหญ่ในบ้าน คุณป้าเพ็ญศรี..พี่สาวคนเดียวของพ่อคิม ถึงอยากพาคิมกลับไปอยู่กรุงเทพด้วย..แต่เด็กหนุ่มนั้นห่วงใยคนรัก..เขาไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว...คุณป้าจึงรับเป็นผู้ปกครองให้เด็กทั้งสองรวมถึงการเซ็นเอกสารหลายๆ อย่างที่จำเป็นต้องใช้
แต่ปัญหาของคนทั้งคู่ก็ยังไม่จบ พอถึงเวลาเลือกเส้นทางชีวิตจริงๆ ถึงจะเติบโตมาด้วยกัน แต่พื้นฐานความชอบของแต่ละคนก็ต่างกัน..ศิศิราแม้จะดูมีคาแรกเตอร์ที่นิ่ง และแอบหยิ่ง แต่เธอเป็นคนชอบเด็กเล็กมาก กับเด็กหญิงสาวมักใจเย็นเป็นพิเศษ..ความฝันของเธอ คือการได้เป็นคุณครูโรงเรียนอนุบาล
ส่วนคิมหันต์นั้น เขาใช้ชีวิตเรียบเรื่อยไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษ..แต่พื้นฐานการเรียนดี ช่วงเลือกคณะเด็กหนุ่มจึงหนักใจมาก ยังดีที่เงื่อนไขการใช้ชีวิตของเขาไม่เยอะมาก หนึ่งขอเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันกับแฟนสาว สองขอให้จบมา..ทำอาชีพที่ไม่ต้องพบผู้คนมากนัก เพราะเขาเป็นผู้ชายขี้อาย
พอดูข้อจำกัดทุกอย่าง 'อาชีพโปรแกรมเมอร์' น่าจะเหมาะกับเขามากที่สุด และที่สำคัญโดยพื้นฐานอาชีพสามารถไปทำงานที่ไหนก็ได้ ถ้าเธอเลือกสมัครเป็นครูโรงเรียนรัฐ และต้องโยกย้าย เขาจะได้ตามไปอยู่ด้วยได้สบายๆ เราจะได้ไม่ต้อง 'ทะเลาะกัน' หรือต้องแยกกันอยู่
ในอดีตสำหรับชายหนุ่มแล้ว ศิศิรามาเป็นที่หนึ่งเสมอ
ในห้องนั่งเล่น..อดีตแฟนหนุ่มกำลังนั่งปั่นงานอยู่บนโซฟาเหมือนที่เธอคิดจริงๆ ใบหน้าหล่อเหลากำลังใช้ความครุ่นคิด...บนศีรษะมีไม้คาดผมเล็กๆ คาดอยู่..ร่างสูงใหญ่เอวสอบอยู่ในชุดเสื้อยืดสบายๆ สีฟ้าอ่อน กับกางเกงยีนขาสั้นสีซีด..ศิศิราก้มมองเสื้อแขนกุ๊ดลายสก็อตสีฟ้าที่ตัวเองใส่ก่อนจะอมยิ้ม..เขากับเธอ บางทีก็ชอบแต่งตัวสีเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย..เป็นแบบนี้มาตลอด
ช่วงวัยรุ่น..มีหลายครั้งที่เพื่อนๆ มักจับกลุ่มล้อเลียนตามประสาของวัย..แต่ไอ้ต้าวอดีตแฟนหน้าหล่อก็หน้าด้านหน้าทน ไม่นึกอาย ส่วนเธอแท้จริงนั้นข้างในเขินมาก..แต่เพราะนิสัยไม่ชอบแสดงความรู้สึก..ส่งผลให้คนล้อ..เลิกล้อไปเอง เพราะแหย่ไอ้คู่นี้แล้วไม่ได้ผล เธอเคยถามเขา
'คิมไม่อายเหรอ ที่คนล้อ?'
'ทำไมต้องอายอ่ะ ดีซะอีก คนอื่นจะได้รู้ว่าศิมีเจ้าของแล้ว'อดีตแฟนหนุ่มไม่พูดเปล่ายังดึงมือเธอไปหอม ตอนริมฝีปากหยักแดงโดนมือความรู้สึกร้อนวูบวาบลามจากมือไปที่แก้ม ชวนใจหวิวเป็นที่สุด ดวงตาดำขลับเต็มไปด้วยความกรุ้มกริ่มรักใคร่
ถ้าหยุดเวลาไว้ตรงนั้นได้..ก็คงจะดี
อาจเพราะกลิ่นที่คุ้นเคย กับบรรยากาศบางอย่าง เจ้าของบ้านจึงเงยหน้าจอโน๊ตบุ๊คขึ้นมาดู..อดีตแฟนสาวมองเหม่อมาที่เขาอย่างเศร้าสร้อย คิ้วเข้มของชายหนุ่มเลิ่กขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมเต็มไปด้วยความเย็นชา ศิศิราเสมองทางอื่น ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสีชมพูอ่อนเม้มแน่น ก่อนร่างบางจะเลือกเดินหนีออกไป
คิมหันต์ในวัยเบญจเพสยั่กไหล่ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ แต่คนที่เขานึกเกลียดกับเสียเวลาไม่นาน ก็เดินถือกระดาษลัง..กับอุปกรณ์บางอย่างมานั่งแหมะ ที่ว่างพื้นห้องไม่ไกลจากโต๊ะที่เขาทำงาน ใบหน้าเล็กๆ ของเธอชื้นเหงื่อ..พอเห็นเขามอง ดวงตาคู่สวยที่คุ้นชินมาตลอดชีวิตก็หันมาสบ พร้อมส่งยิ้มละไม
เธอทำเหมือนทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง..ทั้งที่..ทุกอย่างกับเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว
"นั้นเธอกำลังทำอะไร?"เสียงเข้มเจือดุ คิ้วเข้มขมวดกันยุ่ง
"ศิ..กำลังทำสื่อการเรียนการสอนง่ายๆ ให้น้องเอื้อยค่ะ"น้ำเสียงหวานอารมณ์ดี มือเรียวสวยยังคงวาดอะไรบางอย่างบนกระดาษลังที่ถูกตัดเป็นชิ้นเรียบร้อยแล้ว...แต่เหมือนเจ้าของบ้านจะไม่พอใจ 'คำตอบ' เพราะที่เขาสงสัยไม่ใช่สิ่งที่เธอกำลังทำในมือ แต่เป็น..เธอมานั่งทำบ้าอะไรตรงนี้!!!
"นี้ ตั้งแต่เลิกกันไป เหมือนเธอจะโง่ขึ้นนะ..ฉันไม่ได้สนใจหรอกนะว่าเธอจะทำงานอะไร แต่ที่ฉันสงสัยเธอมานั่งทำบ้าอะไรในห้องนี้"คำพูดของอดีตแฟน ส่งผลให้หญิงสาวหน้าซีดทันที ริมฝีปากเล็กสั่นระริก
'นั้นซิ เธอมานั่งทำอะไรตรงนี้? แค่อยากอยู่ใกล้ๆ มั้ง..เหมือนที่ครั้งหนึ่งเราเคยอยู่ห้องเดียวกัน..ต่างคนต่างก็ทำงานของตัวเองไป'
พอเห็นพี่เลี้ยงสาวพูดไม่ออก คิมหันต์ถึงกับถอนหายใจฉิวๆ เขาเลือกที่จะคว้าโน๊ตบุ๊ค..ก่อนเดินปึงปังไม่พอใจ ทิ้งให้คนตัวเล็กนั่งรู้สึกแย่อยู่ที่เดิม เหมือนศิศิราจะคิดอะไรบางอย่างออก ร่างเพรียวระหงรีบวิ่งไปรั้นที่แขนชายหนุ่ม เขาตกใจเล็กน้อย ก่อนจะสะบัดมือน้อยออกอย่างรังเกียจ สายตาคมที่ส่งมาติดจะโกรธ
"อะไรอีก"
"ก็..นั่นคิมจะไปไหน"
"ก็ไปที่อื่นอะดิ ไม่อยากอยู่ร่วมหายใจกับผู้หญิงบางประเภท"น้ำเสียงคนตัวโตยังคงแย่
ศิศิรายังคงใช้ความพยายามในการควานหาความอ่อนโยนจากอดีตคนรัก..ในใจเต็มไปด้วย 'ความร้อนรน' เธอไม่ชอบที่เขาเป็นแบบนี้เลย..ต้องทำยังไงเขาถึงจะหายโกรธ..ตลอดชีวิตเธอเองก็ไม่เคยจีบใครก่อน..มีแต่เขาที่ตามจีบเธอ จะให้เธอตามออดอ้อน ก็ทำไม่เป็น..ผู้หญิงทื่อๆ ตรงๆ ปากหนักแบบเธอจะง้อผู้ชายสักคนต้องทำยังไง?
แต่เหมือนชายหนุ่มไม่แม้แต่จะอยากฟังอย่างปากว่า 'เขาไม่อยากอยู่ร่วมหายใจกับผู้หญิงบางประเภท'
"คุณไม่ต้องไปหรอกค่ะ เดี๋ยวศิไปเอง"หญิงสาวจึงตัดสินใจเป็นฝ่ายถอย..ร่างเพรียวระหงหันไปขนกระดาษลัง และอุปกรณ์หลายอย่างไปนั่งทำงานของตัวเองที่ห้องอื่น
ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด สมาธิในการทำงานแตกกระเจิง..เมื่อไรเธอจะลาออกไปซะทีนะ