บทที่ 10
“ห๊ะ ว่าไงตอบไม่ได้ละซิ...เธอมันก็แค่พี่เลี้ยงชั้นต่ำ มีหน้าที่แค่รับเงินเดือนเป็นเดือนๆ อย่าทำตัวซ่าให้เยอะ เดี๋ยวจะตกงานไม่รู้ตัว!!” พูดจบคุณครูสาวก็สะบัดหน้าทิ้งหนึ่งเด็กหนึ่งผู้ใหญ่เข้าโรงเรียนอย่างสะใจ
ดวงตาคมวาวสองชั้นหลบในของหญิงสาวลุกโชนด้วยความโกรธ เธอมองตามอดีตเพื่อนร่วมคณะไปจนลับตา..ริมฝีปากเล็กเม้มแน่น..มือหนึ่งลูบปลอบเด็กน้อยในอ้อมกอด อาจเพราะความสุขุมใจเย็นของคนเป็นพี่เลี้ยง ร่างเล็กจึงหยุดสะอื้น และหายสั่นเทา
ศิศิราสูดหายใจเข้าเพื่อควบคุมอารมณ์ตัวเอง ก่อนน้ำเสียงอ่อนโยนจะส่งไปที่เจ้าแก้มยุ้ย
“เราไปกินไอศกรีมกันมั้ยคะ เดี๋ยวคุณอาพาไป”
กว่าพี่เลี้ยงสาวและเด็กหญิงจะกลับถึงบ้านก็เกือบหกโมงเย็น เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยดังลั่น มือน้อยกุมมือพี่เลี้ยงแน่น แววตาเต็มไปด้วยความสุข ในห้องนั่งเล่นตอนนี้ชายหนุ่มมาดเซอร์ใส่แว่นกำลังนั่งทำงานไม่สนใจใคร
เจ้าแก้มยุ้ยในชุดนักเรียนอนุบาลทำท่าจุ๊ปาก พร้อมส่งยิ้มตาหยีให้พี่เลี้ยง ขาสั้นๆ ค่อยๆ เดินย่องๆ แล้วโถมตัวออดอ้อนสู่อ้อมอกคนเป็นอาแบบไม่ให้รู้ตัว ได้ผลร่างใหญ่สะดุ้งตกใจ ก่อนจะรีบคว้าตัวหลานน้อยแน่นด้วยกลัวเด็กน้อยจะตกไปซะก่อน
“ว่าไง..คนเก่งของอาคิม ทำไมวันนี้กลับบ้านเย็นจังคะ”
“คุณอาศิ พาน้องไปกินติมมาค่ะ”เด็กหญิงไอรดายิ้ม มือน้อยล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง ทั้งยังอวดลูกบอลยางสีหวานเด้งดึ๋งที่หยอดได้จากตู้
“สวยมั้ยคะ น้องจับไข่มา”
ชายหนุ่มรับมาดู ดวงตาคมหลุบลง ทั้งยังเนียนมองหาพี่เลี้ยงสาว
“สวยค่ะ..แล้วนี่..อาศิของหนูไปไหนแล้วคะ”
“อื่มม เมื่อกี้เห็นเดินตามน้องมาอยู่นะคะ”
“งั้นน้องเอื้อยไปล้างมือเอากระเป๋าไปเก็บก่อนนะ เดี๋ยวอามา”
คนเป็นอาพูดพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยวางลงพื้น เด็กน้อยมุ่ยหน้าเล็กๆ ก่อนจะรับคำ พอเห็นเจ้าแก้มยุ้ยกระโดดโหยงขึ้นห้องตัวเอง
คิมหันต์เริ่มเดินตามหาคนตัวเล็ก จนเจออดีตแฟนสาวกำลังจัดข้าวของที่ซื้อมากองโต ใบหน้าหล่อเหลาคมคายเต็มไปด้วยความไม่พอใจ..เขาเข้าไปกระชากแขนหญิงสาวดึงให้ลุกขึ้นมายืนคุย
ศิศิรานิ่วหน้า...ดวงตาสองชั้นหลบในเหลือบมองที่แขน..มือใหญ่ยังคงบีบแน่น..มันเจ็บเล็กน้อย
"มีอะไรหรือเปล่าคิม"เสียงหวานใสของพี่เลี้ยงสาวตั้งคำถาม
"เธอกำลังทำบ้าอะไร..เลิกเรียนแล้วพาหลานฉันไปเหลวไหลที่ไหน"
"ศิ...แค่พาแกไปกินไอติมที่ห้างเอง..ไม่ได้.."หญิงสาวพยายามอธิบาย แต่ดูเหมือนคนตัวโตจะไม่อยากฟัง..น้ำเสียงเจือดุ
"คราวหลังไม่ต้อง!!! ไม่ใช่หน้าที่..หน้าที่เธอแค่ไปรับพาน้องเอื้อยกลับบ้านเท่านั้นพอ"
"อ๋อ"
"อ๋อ...นี้คือเข้าใจหรือไม่เข้าใจ?"
ยิ่งเห็นใบหน้าเล็กๆ เรียบเฉยราวกับใส่หน้ากาก ดวงตาสองชั้นหลบในเริ่มปิดบังความรู้สึก..ความรู้สึกหงุดหงิดที่หาสาเหตุไม่ได้..มีเพียงแค่อยากให้เธอ 'เจ็บ' แรงบีบที่แขนเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ไอ้ต้าวตัวเล็กเพียงแต่เชิดหน้าขึ้น..เธอพยายามกั้นเสียงร้อง..ริมฝีปากเล็กยิ้มเย้ย
"มันไม่เกี่ยวกับเข้าใจหรือไม่เข้าใจหรือเปล่าคะ? ทำไมฉันต้องฟังคุณด้วย..คุณไม่ใช่นายจ้างฉัน..คนที่ให้เงินเดือนฉันคือคุณป้าเพ็ญศรี..ไม่ใช่คุณ!!! เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่ฉันต้องทำตามที่คุณขอ"น้ำเสียงคนตัวเล็กเรียบเย็น..แทบจะเป็นประโยคที่ยาวที่สุด ตั้งแต่ที่เขาและเธอกลับมาเจอกัน
"แล้วถ้าฉันจ้างให้เธอลาออกละ? อยากได้เท่าไร..บอกมาดิ? ชอบเงินมากไม่ใช่เหรอ? หึ..ว่าไง"
"ค่ะ ฉันชอบเงิน..ชอบมากๆ ด้วย..ช่วยไม่ได้นี้ค่ะ ที่ดิฉันเกิดมาจน..เพียงแต่เสียดาย..คุณคงมีมันไม่มากพอ"น้ำเสียงประชดประชันของพี่เลี้ยงสาว ส่งผลให้คนตัวโตผลักร่างเล็กลงกองของที่ซื้อมา แขนเรียวสวยขูดเป็นรอยถลอกยาว
"หึ ผู้หญิงแบบเธอนะน่ะ คงเป็นได้แค่ของเล่นของผู้ชาย ไม่มีผู้ชายรวยๆ ที่ไหนจริงจังด้วยหรอก"น้ำคำดูถูก..ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคนฟังจะหน้าซีดเผือดแค่ไหน..มือขาวเล็กสั่นจับล็อกเกตที่คอแน่น..ราวกับเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ
ร่างสูงใหญ่ย่างสามขุม เขานั่งย่องๆ ตรงหน้า ยิ่งเห็นสภาพผมเผ้าที่เริ่มยุ่งเหยิง..ถ้าพิจารณาดีๆ เธอยังคงสวย..แต่ผู้หญิงที่สวยกว่า นิสัยดีกว่าเธอยังมีอีกเยอะ
ครั้งหนึ่งในอดีตเขาเคยรัก..เคยหลงเธอหัวปักหัวป่ำ..และเป็นเขาเองที่มักไล่ตามเธอ เอาใจใส่..แสดงออกทุกอย่าง..แต่กลับเป็นเธอ..ที่แทบไม่แสดงออกอะไรเลย..เธอไม่เคยออดอ้อน..ตั้งแต่คบกันมา..เธอบอกรักเขานับครั้งได้
อาจเพราะประสบการณ์ในชีวิตตอนนั้นไม่มากพอ..หลังเลิกกับผู้หญิงแพศยา..เขาถึงได้รู้ซึ้ง..การมีคนออดอ้อนเอาใจมันเป็นยังไง
มือหนาบีบคางให้พี่เลี้ยงสาวหันมามองสบตา..ดวงตาคมเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม..ส่วนดวงตาของเธอมีรอยร้าวรานพาดผ่าน..แต่เพียงแค่แวบเดียว..คนตัวเล็กแต่ใจแข็งก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉย
"เสียดายนะ..ตอนนี้ฉันรวยมาก..ถ้าตอนนั้น..เธอแค่อดทนรอฉันสามปี..มาวันนี้..เธอคงสบายไปแล้ว"
"..."
"แต่คิดอีกที..มันก็ดีเหมือนกันที่ฉันได้เห็นธาตุแท้เธอก่อน..เพราะถ้าเธอไม่ทิ้งฉันวันนั้น..วันไหนที่ฉันล้มเธอก็คงจะทิ้งฉันอยู่ดี"
"..."
"อีกอย่างทำไมฉันต้องมาเสียเงินจ้างให้เธอออกจากงานด้วย..เพราะแม้แต่บาทเดียว..ฉันก็ไม่อยากเสียให้ผู้หญิงเลวๆ แบบเธอ"
"คิม"เสียงหวานแหบแห้งครางแผ่วเบา ดวงตาคู่สวยของคนตัวเล็กพยายามควานหาความจริงจังในนั้น..คาดหวังขอให้เขาแค่ 'ประชด' ไม่ใช่รู้สึกแบบนั้นกับเธอจริงๆ แต่สิ่งที่หญิงสาวได้รับ..ดวงตาของเขากับดูเย็นชา..แน่วแน่..แม้แต่เศษซากความรักในนั้นก็หาไม่เจอ..ความรู้สึกวาบลึกในอก..เธอเสีย 'หัวใจ' ของคนรักไปแล้วจริงๆ
"ส่วนเรื่องงาน..ฉันจะคอยดู..ว่าผู้หญิงมักมากแบบเธอจะทนได้กี่น้ำ"
มือใหญ่ปล่อยมือจากคางเล็ก..รอยแดงปึ้นตัดผิวขาวนวล..แต่ดูเหมือนว่าแววตาคมยังคงไร้ความอ่อนโยนแม้แต่นิด..ในขณะที่ดวงตาสองชั้นหลบในหลุบลงพยายามปิดบังอารมณ์ความรู้สึก..เธอเห็นเพียงปลายขากางเกงชายหนุ่มก้าวเดินออกจากห้องไป
ร่างเพรียวระหงพยายามประคองตัวเองลุก มือเรียวสวยแตะที่แขน..มันเจ็บ..และแสบเล็กๆ แต่ก็ไม่เจ็บเท่าข้างใน..อยากร้อง..ก็ร้องไม่ออก เธอหายใจเข้าลึกๆ เพื่อรวบรวมสติ..มีหน้าที่..หลายอย่างต้องทำ..ส่วนเรื่องเขา..เธอขอแค่เวลา..อดีตเขาเคยรักเธอมาก..เขาคงให้ 'โอกาส' กับเธอใช่มั้ย
มีวันหนึ่งในวัยเยาว์ก็เขาเองไม่ใช่เหรอที่เคยถามเธอ
'ศิ..เชื่อในรักแท้มั้ย?'
'เพ้อเจ้อ' เธอตอบเขาไปสั้นๆ ง่ายๆ เด็กหนุ่มนิ่วหน้า..ยังคงตามเร้ารือคนเป็นแฟนไม่เลิก ส่วนเธอเองเดินดูของไปเรื่อย
เย็นบางวันถ้าไม่มีเรียนพิเศษเรามักจะเดินห้างขนาดกลางที่มีเพียงแห่งเดียวในจังหวัด
มือคนตัวโตคว้าแขนคนตัวเล็กให้หันมาคุยด้วย..เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมปลายมองตอบแบบระอาเล็กน้อย
'นี้ไง รักแท้ของศิ' ไม่พูดเปล่าแฟนหนุ่มยังชี้มาที่ตัวเอง ดวงตาคมพราวระยับด้วยความรัก..คนตัวเล็กกว่าหรี่ตามอง
'เราก็พึ่งรู้นะ ว่าไอ้รักแท้เนี่ยหน้าตาแบบนี้'
'อื่อ หน้าตาเหมือนเรานี้แหละ'ไอ้ต้าวอดีตแฟนยังคงเถียงหน้ามึน เด็กสาวถอนหายใจเป็นรอบที่สองของวัน ก่อนจะพยายามอธิบายทุกอย่างตามหลักเหตุและผลตามที่เธอเข้าใจ
'คิม..นายนะเด็ก..ฉันจะบอกนายให้นะ..รักแท้..มันไม่มีอยู่จริงหรอก เหมือนพ่อกับแม่ของนายกับฉันไง..ในช่วงเวลาหนึ่งของมนุษย์เรา..คนสองคนอาจรักกันมาก..แต่ความรัก..มันมีอายุของมันทั้งนั้น..เมื่อไรที่หมดใจ..ความรักย่อมจืดจางลงเป็นเรื่องธรรมดา..เพราะงั้นรักแท้..เป็นเรื่องของความเพ้อฝันล้วนๆ'
'เหอะ เธอนี้นะ เป็นคนไม่โรแมนติกเลย..อย่าลืมนะเราเกิดวันเดียวเดือนเดียวปีเดียวกัน แบบนี้ไม่ใช่พรหลิขิตเขาจะเรียกอะไร'
คนตัวโตกว่ายังไม่ยอมแพ้..แต่เด็กสาวคร้านจะเถียงเธอหันกลับไปดูต่างหูในตู้กระจก..ก่อนมือเรียวยาวจะลูบติ่งหูข้างหนึ่งของตัวเอง
'อีกอย่างนะศิ เธอก็เห็นตากับยายใช่มั้ยละ ท่านก็รักกันยืนยาวเกือบเจ็ดสิบปีเลยนะ..พอคนหนึ่งเสียชีวิต อีกคนก็อยู่แทบไม่ได้..นี้ศิ ฟังเราอยู่มั้ย?'คิมหันต์ชักหงุดหงิดเมื่อแฟนสาวดูจะไม่สนใจฟังคำออดอ้อน บอกรักทางอ้อมของเขา ดวงตาสองชั้นหลบในของเธอจ้องตู้กระจกตาแป๋ว
'อยากเจาะหูเหรอ?'เขาตั้งคำถาม เด็กสาวมุ่ยหน้าเล็กน้อย
'อื่อ แต่กลัวเจ็บ'
'งั้นเราเจาะเป็นเพื่อนมั้ย? เธอจะได้ไม่กลัว'ไอ้ต้าวที่อ้างว่าตัวเองเป็นรักแท้รีบเสนอตัวแบบเคย..ได้ผล..แฟนสาวพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะส่งยิ้มหวานมาให้เป็นรางวัล..ตั้งแต่นั้นมาเด็กหนุ่มจึงใส่ต่างหูข้างหนึ่งเป็นเพื่อนแฟนสาว