ไม่ยินดี
“ฉันไม่ได้ขอให้แกบีบน้ำตา แค่ขอให้นักกินข้าวด้วยกันสักมื้อในฐานะครอบครัว”
“แล้วก็เลิกพูดคำซะทีเถอะฮะ ไอ้คำว่า ครอบครัวอะไรเนี่ย ได้ยินแล้วอยากจะอ้วก! พ่ออยากจะเพิ่มจะนับใครเป็นคนในครอบครัวของพ่อก็เชิญตามสบาย แต่อย่ามานับรวมผมเข้าไปเอี่ยวด้วยเด็ดขาด! เอาล่ะ ขืนอยู่ต่อไปก็ไม่สนุกแล้ว ผมกินอะไรไม่ลง ไม่อยากแม้แต่จะนั่งร่วมวงด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ขอบคุณที่มางานจบการศึกษาของผมนะฮะ แต่จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งถ้าไม่โผล่หน้ามาให้เห็น ขอตัวนะก่อนครับ” เด็กหนุ่มตัดบทก่อนลุกขึ้นเดินหนีออกไปจากร้าน โดยไม่สนใจแม้เสียงเรียกของผู้เป็นพ่อ
“ครอบครัวแสนสุข?! ตลกสิ้นดี! ถ้าไม่ติดว่าใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียนอยู่ละก็ คงได้โก่งคออ้วกให้ดูจริง ๆ ไปแล้ว!” เด็กหนุ่มร่างสูง เหวี่ยงขาเตะอากาศอย่างหัวเสีย
เขาล้วงโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อกดตัดสายเรียกเข้าของบิดาที่โทร.ตาม ก่อนทำการบล็อกหมายเลขติดต่อของบิดาเพื่อตัดรำคาญ
ระหว่างนั้นภาคย์หยุดเดินอย่างกระทันหันเพื่อค้นหาหูฟังมาใส่หูหมายฟังเพลงบรรเทาความขุ่นมัวในใจ ทว่าการหยุดฝีเท้ากระทันหันทำให้คนที่วิ่งมาด้านหลังชนเข้ากับร่างสูงของเขาอย่างจัง
ปึก! ตุบ!
อูยยยย
“ขอโทษครับ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?” เด็กหนุ่มรีบหันดูและถามไถ่คู่กรณีเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องปาก เนื่องด้วยเข้าใจว่าฝ่ายที่ชนเป็นชาวต่างชาติ แต่ก็รีบชักสีหน้าทันทีหลังเห็นว่าคนที่มาชนเป็นใคร
“เธอ! ยัยเปี๊ยก เธอตามฉันมาทำไม?” ภาคย์ทำหน้าบึ้งตึงใส่เด็กผู้หญิงตัวเล็กจ้อย ที่จำได้ทันทีว่าเป็นยัยเด็กแว่นลูกสาวคนใหม่ของพ่อเขา
“คือ คือว่าบัว... บัว...”
“อะไร! จะพูดอะไรก็รีบๆ พูดมา งกๆ เงิ่น ๆ อยู่ได้ ฉันไม่มีเวลามายืนเสวนากับเธอหรอกนะ เหม็นสาบกาฝากเกินทนแล้ว” เขากระแทกเสียงถาม
“บัวขอโทษนะคะ ที่เป็นสาเหตุทำให้พี่ภาคย์ทะเลาะกับคุณลุง” เด็กหญิงบอกเสียงแผ่วทั้งที่ยังก้มหน้าไม่กล้าสบตากับเขา
“รู้ตัวก็ดี แต่ฉันจำไม่เห็นได้ว่าเคยมีน้องสาวกับเขาด้วย ใครใช้ให้เธอเรียกฉันว่า ‘พี่’ มิทราบ ฉันไม่มีวันนับญาติกับยัยเด็กกาฝากน่ารำคาญอย่างเธอจำใส่หัวสมองเอาไว้ จะไปไหนก็ไป!” ภาคย์ออกปากไล่ และสาวเท้าเดินหนี
แต่กลับถูกอีกฝ่ายดึงรั้งชายเสื้อของเขาไว้ จนต้องหันกลับไปตวาดใส่และปัดมือเด็กหญิงให้พ้นตัว
“จะทำอะไร? อย่าคิดว่าเป็นคนโปรดของตาแก่นั่น แล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรเธอนะ ยัยเปี๊ยก---อะไร นี่มันอะไร?” เด็กหนุ่มหยุดโวยเมื่อเด็กหญิงยื่นซองกระดาษในมือของเธอให้เขา
“อันนี้บัวทำมาให้พี่ค่ะ ยินดีด้วยที่เรียนจบนะคะพี่ชาย” เด็กหญิงขยับแว่นตาอย่างเหนียมอาย ขณะยืนการ์ดแสดงความยินดีที่เธอตั้งใจทำกับตัวเองตั้งแต่อยู่ที่เมืองไทย หมายใจว่าความตั้งใจจริงของเธอจะทำให้พี่ชายคนใหม่พอใจ
ทว่า
แคว่กกกก
ภาคย์มองกระดาษที่ถูกประดับด้วยรูปวาดดินสอและริบบิ้นสีสวยอย่างไม่ไยดีที่จะเปิดอ่าน เขาฉีกมันเป็นชิ้นๆ ก่อนขยำแล้วปาก้อนเศษความตั้งใจใส่หน้าเด็กหญิงเจ้าของการ์ดที่ยืนหน้าเหวออย่างไม่ยินดียินร้าย
“อย่าริสะเออะ มาทำตัวตีสนิทกับฉัน จำใส่สมองไว้ด้วย ว่าฉันไม่ใช่พี่ชายของเธอ!”
เด็กหนุ่มรูปหล่อเค้นน้ำเสียงเอ่ยวาจาที่ร้ายกาจออกมาอย่างไร้ไมตรีจิต และจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเด็กผู้หญิงที่ก้มลงเก็บเศษซากของการ์ดกระดาษที่เขาฉีกทิ้งด้วยน้ำตาที่นองหน้า
“น้องสาวงั้นเรอะ?! ใครสนเรื่องนั้นกัน น่าขยะแขยงเป็นบ้า!” เด็กหนุ่มแสยะยิ้มเหยียด ยิ่งเห็นใบหน้าใสซื่อกับท่าทีไร้เดียงสาของเด็กนั่นก็ยิ่งอยากที่จะบดขยี้รอยยิ้มไร้พิษภัยนั่นให้แหลกคามือ!
และนั่นคือความทรงจำในการพบกันอย่างเป็นทางการของพวกเขาทั้งคู่