บท
ตั้งค่า

บทที่8

ไลลาตักข้าวเข้าปากด้วยอาการของคนที่เซ็งสุดชีวิต หล่อนมิได้รับรู้รสชาติความเอร็ดอร่อยของมันแม้แต่น้อย หากที่ยังต้องฝืนทานก็เพราะมันคงดีกว่า...นั่งเฉยๆ โดยมีนายพระเอกนั่งยิ้มกวนอารมณ์อยู่ตรงหน้า

อย่างน้อยที่สุด...การกำหนดสายตาไว้ที่จานข้าวเบื้องหน้า ก็ทำให้หล่อนดึงความเป็นตัวเอง และสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ตอนนี้สิ่งที่หล่อนต้องคิดเป็นอันดับแรก คือ...จะกลับกรุงเทพฯ อย่างไร...

ใช่ซี ! หล่อนมีเงินนี่นา

ไวเท่าความคิด...ไลลาวางช้อนส้อมที่ถืออยู่ในมือลงอย่างปุบปับ จนคนที่กำลังเจริญอาหารเหลือบมามองอย่างแปลกใจ เขาเห็นหญิงสาวเอื้อมมือล้วงกระเป๋าค้นหาอะไรกุกกักอยู่ครู่ใหญ่ ครั้นพอหาไม่เจอ หล่อนก็เปิดกระเป๋าเขย่าแรงๆ ถ้าบนโต๊ะไม่มีอาหารวางอยู่เต็ม ชายหนุ่มมั่นใจทีเดียวว่าหล่อนจะต้องเทของที่อยู่ในกระเป๋าออกมากองแน่ๆ หลังจากค้นหาอยู่พักใหญ่ หล่อนก็หยุดค้นเอาดื้อๆ ดวงตาฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัดจนชายหนุ่มที่วางช้อนส้อมมองหล่อนอยู่นานแล้วเอ่ยถามอย่างสงสัย

“มีอะไรคุณ หาอะไร ? ”

“กระเป๋าตังค์ กระเป๋าตังค์ฉันหาย”

“ไม่เป็นไรหรอกคุณ มื้อนี้ผมเลี้ยง แหม...เรื่องแค่นี้เอง นึกว่าอะไร”

“เอ๊ะ ! คุณนี่มันเรื่องแค่นี้ตรงไหน กระเป๋าตังค์ฉันหาย แล้วนี่ฉันจะกลับยังไงล่ะ เงินก็ไม่มี ซวยจริงๆ เลย”

“เอาเหอะน่า...คิดเสียว่าไปเที่ยวแล้วกันน่ะ มีที่พักฟรี พร้อมอาหารสามมื้อ แถมไปกับผมด้วยนะ รับรองสาวๆ คนอื่นรู้ เป็นต้องอิจฉาคุณกันทั้งนั้น”

“อิจฉาฉันเนี่ยนะ...”

หล่อนย้อนตาโต ก่อนเบะปากนิดๆ

“อ้าว...ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่ถ้าผมเป็นคุณ มีคนมายื่นข้อเสนอให้ อย่างนี้ ผมรับทันทีเลยล่ะ ถือเสียว่ามาพักผ่อน”

ดวงตาเรียวยาวคู่นั้นคำนวณอะไรอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่หล่อนจะพยักหน้ารับอย่างจำนน

เอาน่า...ในเมื่อเขาเสนอให้เอง หล่อนไมได้ไปขอเขานี่ เรื่องพ่อค่อยคิดแก้ไขทีหลังแล้วกัน ตอนนี้หัวสมองของหล่อนตื้อตันไปหมด คิดอะไรไม่ออกเอาเชียว แต่อย่างไรเสีย...สาวมั่นที่พกกำลังใจมาเกินร้อยอย่างหล่อนไม่มีหวั่นเสียหรอกกับผู้ชายเจ้าชู้ไก่แจ้อย่างคนๆ นี้

“งั้นกินข้าวต่อเถอะคุณ”

เขาบอกหล่อนง่ายๆ ด้วยความหิวทำให้ไลลาจัดการกับอาหารตรงหน้าจนเรียบร้อย ดื่มน้ำ แล้วก็ดึงทิชชู่จากกล่องมาซับปาก เมื่อวางกระดาษทิชชู่ที่ใช้แล้วลงข้างๆ จานข้าว หล่อนก็เงยหน้าขึ้นมา พระเอกเนื้อหอมกำลังมองหล่อนอยู่แล้ว พร้อมกับรอยยิ้มที่แทบจะทำให้หล่อนระเบิดโทสะขึ้นมาได้เดี๋ยวนั้น ชายหนุ่มคนนี้คงจะมีพรสวรรค์พิเศษกระมังที่สามารถยิ้มกวนโทสะได้ถึงขนาดนี้ ยิ่งเมื่อเห็นอาการหงุดหงิดของหล่อน ดูเหมือนว่าเขาจะยิ่งพอใจ ดวงตาทั้งคู่เต้นยิบๆ ราวกับกำลังกลั้นหัวเราะอยู่ทีเดียว

“นี่คุณ ! สนุกอะไรนักหนาเหรอ”

ไลลาถามเสียงสะบัด คิ้วเข้มขมวดมุ่นจวนเจียนจะเป็นโบอยู่รอมร่อ

“เปล่า ผมก็แค่ดีใจที่เห็นคุณทานข้าวได้หมดเท่านั้นแหละ ก็แหม...ทีแรกนึกว่าจะต้องพาคุณส่งโรงบาลซะแล้ว เห็นกลืนข้าวแต่ละทีเหมือนคนกำลังจะขาดใจ”

สาวขี้โมโหส่งค้อนให้เขาวงเบ้อเร่อ ก่อนจะพูดด้วยเสียงแข็งๆ

“ฉันจะเป็นจะตาย มันก็เรื่องของฉัน”

“อ้าว ! ได้ไงเล่า ก็ผมเป็นคนพาคุณมา ถ้าคุณเป็นอะไรไป ผมก็แย่ซี”

ชายหนุ่มทำฟอร์มโวยวาย เสียจนไลลาหมั่นไส้เป็นกำลัง หล่อนแกล้งลุกขึ้นเสียอย่างนั้น จนอีกฝ่ายต้องลุกเดินตามออกมา เขาเดินไปจ่ายเงินค่าอาหารกับเจ้าของร้าน ก่อนที่จะเดินมาหาหญิงสาวที่ยืนรอเขาอยู่หน้าร้านด้วยสีหน้าบูดๆ พระเอกหนุ่มอมยิ้มอย่างเอ็นดู ผู้หญิงคนนี้คงจะถูกตามใจมาไม่น้อย ถึงแสนงอนได้ขนาดนี้ ชายหนุ่มมิได้เอ่ยอะไร เขาเดินนำหญิงสาวไปที่รถ กดรีโมทคลายล็อค แล้วเปิดประตูขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย โดยมีหญิงสาวเปิดประตูรถอีกฝั่งหนึ่งขึ้นมานั่ง...อย่างจำใจ

...อดทนหน่อยไลลา...อดทนหน่อย หล่อนนึกปลอบตัวเองอยู่ในใจ...ก็อยากเที่ยวฟรีไม่ใช่เหรอ...

คิมชำเลืองมองเห็นหญิงสาวนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างรถด้วยหน้าบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ แถมท่าทางงอนๆ ของหล่อนคงจะทำเสียจนติดเป็นนิสัย ชายหนุ่มหลุดเสียงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่ เขาขำท่าทางของเจ้าหล่อนเสียเหลือเกิน

“นี่คุณ...ไม่ต้องมางอนผมหรอก...ผมไม่ใช่แฟนคุณนะ จะได้มานั่งง้อ”

ได้ผล...หญิงสาวหันขวับ ดวงหน้าแดงก่ำราวกับลูกตำลึง

“ฉันไม่ได้ให้คุณง้อ แล้วอีกอย่าง...ใครบอกคุณว่าฉันงอน คนอย่างคุณน่ะ ไม่มีคุณค่าพอที่จะให้ฉันมานั่งงอนหรอกนะ ฉันสนใจวิวข้างทางก็เท่านั้นแหละ”

“อ๋อ...ถ้าคุณสนใจวิวข้างทางมากขนาดนั้นล่ะก็ ผมคิดว่าคุณคิดถูกแล้วล่ะที่อยู่ต่อน่ะ...ผมรับรองว่าที่ๆผมจะไปน่ะ มีอะไรน่าสนใจกว่านี้เยอะเชียว เผลอๆ คุณอาจจะติดใจเหมือนผมก็ได้ ว่างเมื่อไรเป็นต้องหาเวลามาทุกครั้ง ที่นั่นน่ะเงียบสงบดี เหมาะสำหรับคุณ...”

ชายหนุ่มเว้นจังหวะไปนิดหนึ่ง เรียกความสนใจจากคนข้างๆ เจ้าหล่อนหันมามอง ดวงตาส่อแววฉงนเขาหันไปยิ้มกว้างๆ ก่อนจะเอ่ยต่อเสียงเรียบ

“ไปสงบจิตสงบใจ”

เท่านั้นแหละ ชายหนุ่มสาบานได้ว่า เห็นดวงไฟลุกโพลงมาจากดวงตายาวเรียวสีน้ำตาลคู่นั้น เจ้าหล่อนเม้มปาก กำมือเข้าหากันแน่น ทว่าไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ หญิงสาวสะบัดหน้าหันกลับไปมองทิวทัศน์ทางฝั่งของหล่อนต่อไปเงียบๆ ตามเดิม

คิม สิรภพลอบยิ้มคนเดียว นึกดีใจอยู่ลึกๆ ที่หล่อนตัดสินใจมากับเขา เพราะตอนนี้...เขากำลังรู้สึกสนุกกับเกมการกลั่นแกล้งและปฏิกิริยาตอบสนองของหล่อนอย่างเหลือเกิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel