บทที่7
คิม สิรภพ ชะลอรถเมื่อมาถึงจุดชุมชน สองข้างทางเป็นอาคารพาณิชย์มีร้านค้ามากมาย เขามองไล่ทีละร้าน จนไปถึงร้านค้าร้านหนึ่งซึ่งเป็นร้านขายข้าวแกงท่าทางสะอาดสะอ้านและไม่พลุกพล่าน
เขาเกลียดที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน !
ที่จริงแต่ก่อนเขาไม่เคยนึกเกลียดคนเยอะๆ หรอก ทว่าตั้งแต่เข้าวงการมายา เขากลับยิ่งชื่นชอบความสงบ และ สันโดษ นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาเองเป็นผู้ดึงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ มาร่วมชะตากรรมกับเขาแล้วล่ะก็ เขาคงจะมาเพียงคนเดียว
ชายหนุ่มเพิ่งจะกลับจากถ่ายละครที่โคราช เขาขับรถออกจากที่พักตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง มาถึงคอนโดมีเนียมยังไม่แปดโมงดีด้วยซ้ำ หวังว่าจะได้พักผ่อนอย่างสบายอารมณ์ แต่แล้วโทรศัพท์จากมาลินีทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจ หล่อนโทรมาเตือนเขาว่าคงจะมีนักข่าวมาดักรอเขาแน่ๆ เพราะว่าหล่อนเพิ่งแถลงข่าวการหย่าร้างกับพอลไปเมื่อวาน
และที่สำคัญ...
นักข่าวต่างก็พุ่งประเด็นมาที่เขา !
เมื่อวางสายจากมาลินี ชายหนุ่มโทรไปสอบถามกับพนักงานต้อนรับข้างล่าง ก็ได้รับการยืนยันว่ามีนักข่าวมาดักรอเขาอยู่จริง เขาคิดถึงทางหนีทีไล่อยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่า เขาควรจะไปต่างจังหวัดสักพัก อีกอย่างหนึ่งเขามีเวลาว่างตั้งอาทิตย์
อาทิตย์หนึ่ง...ควรจะได้ใช้ในการพักผ่อนที่ไหนสักแห่ง อย่างเช่น...หัวหิน !
ดีกว่าต้องมาอุดอู้อยู่ในห้องเป็นแน่ เขาจึงตัดสินใจลงมาข้างล่าง ตั้งใจจะหาทางหลบหลีกนักข่าวไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอลงมา...นักข่าวที่มากมายเกินความคาดหมายทำให้เขาต้องหาทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยการทำให้นักข่าวไขว้เขว
แล้วเครื่องมืออย่างดีก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขานั่นเอง !
ชายหนุ่มชะลอรถและจอดตรงที่ว่างริมถนน คนที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมามองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
ไลลา สวรรยานั่งจมอยู่กับความคิดตัวเอง จึงไม่รู้เวลา และถึงรู้...หญิงสาวก็คงไม่รู้สึกหิว เพราะยังคิดไม่ตกเรื่องบิดา
...นายพระเอกนี่ จะรู้ไหมนะ...ว่าทำให้หล่อนต้องลำบากลำบนขนาดไหน แล้วนี่ดวงหล่อนมันเป็นอะไรหนอ ถึงได้ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เห็นทีกลับไปต้องไปทำบุญสะเดาะเคราะห์กันเสียยกใหญ่...
คิม สิรภพมิได้ตอบคำถามในดวงตาสวยใสสีน้ำตาลคู่นั้น หากเขาเอ่ยถามเรียบๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่งเฉย ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดประตูก้าวออกจากรถ
“คุณไม่หิวหรือไง นี่มันบ่ายสองโมงกว่าแล้ว”
หญิงสาวส่ายหน้า ตอบด้วยเสียงสะบัด
“เชิญคุณเถอะ ฉันไม่มีอารมณ์จะมานั่งกินข้าวหรอก”
“ตามใจ...” เสียงของชายหนุ่มมิได้มีวี่แววว่าจะอนาทรร้อนใจแต่อย่างใด “จะทนนั่งร้อนๆ อยู่ในรถนี่ก็ตามใจคุณ ส่วนผมขอตัวไปหาอะไรใส่ท้อง ยังไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้า หิวจะแย่...”
ชายหนุ่มเอามือลูบท้อง และด้วยกิริยานั้น ทำให้อีกฝ่ายเริ่มรู้สึก...เสียงท้องร้องดังขึ้น ราวกับจะประท้วงผู้เป็นนาย หน้าของหญิงสาวเรื่อสีกุหลาบอ่อนจางด้วยความอาย ดีว่าอีกคนทำเหมือนไม่สนใจ หล่อนลูบท้องตัวเองเบาๆ
“บ้าจริงเชียว! ไม่รู้จักรักษาหน้าตัวเองมั่งเลยนะแกน่ะ ดูซิ...ทีนี้อายเค้ามั้ยล่ะ”
ไลลาเปิดประตูรถเดินตามอีกฝ่ายที่เดินไปเลือกหาที่นั่งในร้านข้าวแกงเล็กๆ พระเอกหนุ่มเลือกนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่งที่มีพัดลมเพดานเป่ามาโดนพอดิบพอดี คลายไอร้อนของแดดลงได้บ้าง หญิงสาวยังเดินอ้อยอิ่งอยู่ตรงหม้อแกงและถาดอาหารหลากหลายชนิดที่วางเรียงกันอยู่ในตู้กระจกให้ลูกค้าได้เลือกสั่ง
อาหารมากมาย...และท้องร้องโกรกกราก ทำให้หญิงสาวตาโต หล่อนเห็นทุกอย่างน่ากินไปเสียหมด จึงเลือกไม่ถูกว่าจะสั่งอะไรดี ในที่สุด...หลังจากเดินไป เดินมาอยู่หลายรอบ หล่อนจึงตัดสินใจสั่ง แพนงหมู กับ ยำไข่ดาวที่ทอดกรอบน่าทาน สั่งเสร็จแล้วหล่อนก็เดินมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามชายหนุ่ม
“ดื่มอะไรดีล่ะ คุณ”
คิมเอ่ยถามเมื่ออีกฝ่ายนั่งเรียบร้อยแล้ว หล่อนนิ่งอยู่เป็นครู่ จึงตอบอย่างเสียไม่ได้
“น้ำเปล่า”
ชายหนุ่มทำตาโต เอ่ยด้วยเสียงดังกว่าปกติ
“โอ้โห นี่คุณใช้เวลาคิดตั้งนานเพื่อจะตอบผมว่าดื่มน้ำเปล่าเหรอ เอาเหอะน่า...คุณไม่ต้องเกรงใจผมหรอก คุณจะดื่มโค้ก ดื่มแฟนต้าผมก็ไม่ว่า จะสักกี่ตังค์กันเชียว อย่างมากก็สิบบาทเอ้า...ผมมีเงินจ่ายน่า...”
ไลลาถลึงตาใส่คนพูด ตอบอย่างฉุนๆ
“ฉันไม่ชอบ”
“อ๋อ ! ไดเอทเหรอคุณ แต่....” ชายหนุ่มสำรวจคนที่นั่งตรงข้ามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ยิ้มพราย ดวงตาเป็นประกายระยับ “อย่างคุณนี่...ผมว่าหุ่นกำลังสวยนา...”
ดวงตาของหญิงสาวลุกเรือง ทว่าดวงหน้า...กลับแดงจัด !
ไลลาทั้งโกรธ ทั้งอาย สายตาของเขาที่ไล่มองเมื่อครู่นี่ ทำให้หล่อนรู้สึกวูบวาบราวกับต้องกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ
“อีตาบ้า ! พระเอกชีกอ !”
หล่อนทำปากมุบมิบ บ่นเบาๆ จนอีกฝ่ายจับคำแทบไม่ได้
“อะไร? คุณพูดอะไร ผมไม่ได้ยิน”
คิมแกล้งถามหน้ายิ้มๆ คนตรงหน้าหันมามองเขาแวบหนึ่ง หากพอสบตาเขาแล้ว เจ้าหล่อนก็หันขวับไปทางอื่น ก่อนตอบด้วยเสียงห้วนจัด
“เปล่า!”
...ให้ตายเถอะ ! ไลลา เธอเป็นอะไรของเธอนักหนา ทำไมต้องหลบตาเขาด้วยนะ...
หญิงสาวนึกค่อนตัวเองในใจ ใช่ว่าหล่อนจะไม่เคยมีเพื่อนชาย หรือไม่เคยถูกผู้ชายมอง แต่กับผู้ชายคนนี้ แค่ถูกเขามองด้วยสายตา...วิบวับคู่นั้น
มันก็ร้อนวูบตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าเลยทีเดียว
ทางที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับหล่อน คือ การเงียบและเฉยให้มากที่สุด อ้อ ! อีกอย่าง...เป็นไปได้ล่ะก็ อย่าได้สบตาวาววามคู่นั้นเลยดีกว่า
คิม สิรภพ อมยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้านั่งเงียบ และไม่แม้กระทั่งจะหันมามองเขา เจ้าหล่อนเสมองไปทางอื่น เหมือนว่าไม่ได้มีเขาอยู่ตรงนั้นด้วย หรือที่ถูก...หล่อนพยายามจะคิดว่าไม่มีเขาอยู่ต่างหาก
แต่ไอ้ทีท่าที่แอบชำเลืองมอง เมือยามที่หล่อนนึกว่าเขาเผลอนั้น ทำให้เขารู้สึกสนุกเป็นกำลัง คนอย่างเขามันก็เป็นประเภท...ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งหล่อนทำท่าทางเฉยเมยใส่เขามากเท่าไร เขาก็ยิ่งอยากแกล้งหล่อนมากเท่านั้น
