บทที่4
ไลลานั่งหน้าบูดบึ้งมาตลอดทางตั้งแต่ต้องจำใจขี้นรถมากับนายผีทะเล หญิงสาวไม่มีทางเลือกเลยจริงๆ ทั้งที่ไม่ได้อยากมาสักนิด แต่มีอย่างอื่นที่หล่อนไม่ต้องการให้เกิดขึ้นมากกว่า นั่นก็คือ...ตกเป็นข่าวกับนายพระเอกฉาวโลกีย์คนนี้
เรื่องอะไรหล่อนจะให้อีตานี่มาทำให้ชื่อเสียงของหล่อนต้องแปดเปื้อนไปกับข่าวคาวของเขาด้วยล่ะ แค่เขาเอาหล่อนเข้ามาพัวพัน ก็ทำให้หล่อนลำบากมากพอแรงอยู่แล้ว หญิงสาวต้องโทรไปเลื่อนนัดกับบริษัทผ้าม่าน ทางนั้นบอกว่า ถ้าหล่อนไม่ติดวันนี้ ก็ต้องรอไปถึงอาทิตย์หน้า เพราะมีงานอื่นรอเข้าคิวเต็มเหยียด นี่หล่อนก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ธุรกิจผ้าม่านมันเจริญรุ่งเรืองกันขนาดที่ต้องจองคิวกันอย่างนี้ ขนาดว่าหล่อนเองเป็นอินทีเรีย ดีไซเนอร์ ยังไม่เคยได้ยินมาก่อน... สงสัยคงจะเป็นเพราะดอกเบี้ยสินเชื่อเคหะลดลงกระมัง ผู้คนจึงได้ขยันสร้างบ้าน จนบริษัททำผ้าม่าน ปูพรมมีงานล้นมือ
อีกคนหนึ่งที่หล่อนยังไม่ได้บอกก็คือ...พ่อ
นายรณชัย สวรรยา คงจะงง หากลูกสาวโทรไปบอกว่า วันนี้หล่อนต้องขอเลิกนัดทั้งหมดที่มี เพราะเขารู้นิสัยผู้เป็นลูกดีว่า...เรื่องงาน ต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด ไม่เช่นนั้น...เขาจะไว้วางใจให้หล่อนควบคุมดูแลในส่วนของงานตกแต่งภายในทั้งหมดของบริษัทเอส วาย โปรเจ็คท์ ได้อย่างไร
แม้บิดาจะขึ้นชื่อว่าเป็น...เพลย์บอยรุ่นใหญ่ ที่สาวทุกรุ่นไม่เคยปฏิเสธ หากกับลูกสาวเพียงคนเดียว...ไลลา สวรรยา เขามักจะเข้มงวดเป็นพิเศษ คงจะเป็นเพราะทำกับสาวอื่นไว้เยอะ เลยกลัวว่าบาปกรรมจะมาตกอยู่กับลูกกระมัง
ไลลายังคิดไม่ตกว่าหล่อนจะบอกพ่อว่าอย่างไร และยิ่งถ้าพ่อรู้ว่าหล่อนมากับผู้ชายเพียงสองต่อสอง ร้อยทั้งร้อย หล่อนเอาหัวเป็นประกันได้เลย...ว่า นายพระเอกอะไรนี่ จะต้องเจอศึกหนักยิ่งกว่ากองทัพนักข่าวเมื่อครู่ด้วยซ้ำ
หญิงสาวทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ปากงามสีกุหลาบเม้มเข้าหากัน นานๆ ครั้งชายหนุ่มคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยจะได้ยินเสียงระบายลมหายใจยาวเหยียด ตั้งแต่ต้องจำยอมขึ้นรถมากับเขา เจ้าหล่อนก็นั่งหน้าบูดบึ้งไม่พูดไม่จา ทำราวกับว่าเขาบังคับขืนใจหล่อนมาอย่างนั้นแหละ
...แต่ก็จริงแฮะ ! เขาก็บังคับให้หล่อนมาจริงๆ นี่นา…
คิมเห็นคนที่นั่งข้างจดจ้องมองโทรศัพท์ในมืออยู่เป็นนานสองนาน
...สงสัยจะคิดไม่ตกว่า จะโทรไปบอกแฟนว่ายังไง...
เมื่อครู่ที่ผ่านมาเจ้าหล่อนโทรไปยกเลิกอะไรสักอย่าง ดูเหมือนจะเป็นม่านกระมัง ท่าทางคงจะมีปัญหาด้วย เพราะเห็นหล่อนหัวฟัดหัวเหวี่ยง บ่นพึมพำไม่ได้ศัพท์อยู่คนเดียว ครั้นจะถามเขาก็เกรงว่าหล่อนจะฟาดงวงฟาดงามาที่เขาแทน จึงได้แต่นั่งเงียบ
...เงียบๆ คอยฟัง เขาคงจะได้รู้อะไรมากกว่า นั่งเถียงกับเจ้าหล่อนเป็นแน่...
เพราะเขาเอ่ยปากกับหล่อนทีไร ไม่พ้นต้องทะเลาะกันทุกที ดูหล่อนจะจงเกลียดจงชังและตั้งท่าจะหาเรื่องเขาท่าเดียว ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรให้หล่อนโกรธแค้นมาแต่ชาติปางใด จึงได้พูดจาดีๆ กับเขาไม่ได้เลยสักครั้ง ทว่าประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากหล่อน สะกิดใจเขาอย่างแรง
ประโยคที่ว่า...เป็นชู้กับเมียชาวบ้าน !
ชาวบ้านที่หล่อนพูดถึง หรือจะหมายถึง...มาลินี
คิมไม่นึกว่าเรื่องราวระหว่างเขากับดาราสาวลูกหนึ่งจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต และกลายเป็นข่าวที่ทุกคนจับตามอง แต่...
ให้ตายซี!
ชายหนุ่มนึกสบถอยู่ในใจ
เขายังไม่เคยคิดอะไรกับมาลินีเกินเลยไปกว่าความเป็นเพื่อน ที่พอเห็นเพื่อนเป็นทุกข์แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย คิมไม่รู้เหมือนกันว่า ถ้าเช้าวันนั้น...เขาไม่ฉุกใจถึงความผิดปกติในน้ำเสียงของดาราสาวแล้วไปหาหล่อนถึงบ้าน เรื่องราวมันจะลุกลามราวไฟไหม้ป่าอย่างตอนนี้ไหม
คิม สิรภพ คิดว่าได้ทำดีที่สุดแล้ว
เพื่อชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง และเพื่ออีกชีวิตหนึ่งที่ยังไม่รู้เดียงสา...มาร์ค เด็กชายน้อยๆ อายุเพิ่งจะเจ็ดเดือน แต่ต้องมาพบกับชีวิตครอบครัวอับปางของบิดามารดา แล้วเขาจะทนเห็นแกกำพร้าแม่อีกได้อย่างไร
ชายหนุ่มทราบดีว่าที่มาลินีออกมาแถลงข่าวการหย่าร้างของตนกับสามีนั้น เป็นการกระทำเพื่อลบล้างความรู้สึกผิดของหล่อนเอง บาปที่หล่อนเองเป็นผู้กระทำ และมันได้เผาผลาญหัวใจของหล่อนจนเผาไหม้ไม่เหลือชิ้นดี
...ไฟบาป ไม่ผิดอะไรกับไฟบรรลัยกัลป์...รุ่มร้อน...แรงโรจน์!
แต่อีกผู้หนึ่งเล่า...ไม่ผิดบาปไปกว่ากันหรือ...
ถ้าหากว่าความเปลี่ยวเหงาในจิตใจของมาลินีเกิดจากการที่ถูกสามีทอดทิ้ง...ไม่เอาใจใส่ละม้ายกองฟาง...อีกผู้หนึ่งก็ไม่ผิดกับกองไฟที่มาจุดชนวนให้กองฟางลุกโพลงด้วยไฟบาป...ราคะจริต
คนที่ไม่เคยสนใจอะไรมากไปกว่า ‘ความต้องการ’ ของตัวเอง
เขาอยากรู้นักว่าในขณะที่นักข่าวเพ่งความสนใจมาที่เขา แล้วไอ้ตัวก่อเหตุมันไปหลบกบดานอยู่ที่ใด
ไอ้สถาปนิกหนุ่มรูปงามคนนั้น !
เขาเฉลียวใจตั้งแต่เห็นมันมองมาลินีในคืนนั้น...คืนวันงาน ‘ราตรีสีทอง’ ซึ่งเขากับมาลินีได้รับเชิญไปเดินแบบด้วยกัน หลังเลิกงานเหล่าดารานางแบบนายแบบทั้งหลายซึ่งหมายรวมถึงเขาและมาลินีได้รับเชิญให้ไปร่วมดื่มฉลองความสำเร็จของการจัดงานในคืนวันนั้น และชายหนุ่มก็สังเกตเห็นสถาปนิกหนุ่มรูปงามที่ได้ชื่อว่ากำลังมาแรงในวงการสถาปัตยกรรมของเมืองไทย มองมาลินีอย่างชื่นชมจนออกนอกหน้า
นายนั่นเอาอกเอาใจมาลินีสารพัด และดาราสาวเองก็ตกหลุมพรางนั่นเข้าให้อย่างไม่รู้ตัว
ฉันอยากรู้จริงๆ ผู้ชายอย่างนายจะเคยเห็นค่าของผู้หญิงคนใดบ้างไหม...รัชพล สวรรยา !
คิม สิรภพ ยิ้ม ทว่ารอยยิ้มของเขาไม่ต่างอะไรกับ...ซาตาน
