ตอนที่ 6
พิจารณาด้วยสายตาราวจะเพ่งลึกเข้าไปในชีวิตของคนวาด รู้สึกได้ในความละเอียดอ่อนของจังหวะพู่กัน ความหนักเบาที่สร้างสรรค์ขึ้นจากน้ำหนักมืออันนุ่มนวลของเธอ ยังมีความละเมียดละไมที่สังเกตได้จากเงาใต้ใบไม้ ที่ร่วงลงทับถมอยู่บนเนินทราย หรือแม้กระทั่งสีเหลืองอ่อนของยอดไม้ที่ผลิพ้นผืนป่าเขียวทึบของเทือกเขาหินปูนกลางผืนน้ำ ล้วนสะท้อนถึงตัวตนที่เข้าถึงสรรพสิ่งได้อย่างลึกซึ้งของคนวาด
“สีของผืนน้ำกับท้องฟ้า สดใสมากครับ” เขายังไม่หยุดชม สายตาจับอยู่ที่ท้องฟ้าซึ่งถูกแต่งแต้มขึ้นจากสีฟ้าระบายบาง บ่งบอกว่ามินตรารู้จักธรรมชาติของสีน้ำเป็นอย่างดี
“สีน้ำที่ดีไม่ควรระบายทับจนทึบ แสงและสีขาวจะถูกแทนที่ด้วยความว่างเปล่าของหน้ากระดาษ เสน่ห์ของสีน้ำจึงอยู่ที่ความโปร่งใส แต่ความสามารถในการสร้างสรรค์ย่อมแตกต่างกันไปตามความชำนิชำนาญและประสบการณ์ของแต่ละบุคคล” มินตราเสริม แววตาภาคภูมิใจฉายชัด เมื่อรู้ว่าเขาพอใจฝีมือของเธอ
“ผมชอบครับ” เขาตะลึงมองภาพตรงหน้า แล้วหันมามองเธอ มินตรารู้สึกได้ว่าในยามนั้น ดวงตาของเขายิ้มได้
ภาพที่มินตรากำลังวาด จะไม่สวยได้อย่างไร เพราะเคยได้รับรางวัลจากการประกวดวาดภาพสีน้ำมาแล้วหลายครั้งเมื่อตอนเรียน
“ผมชื่อกันย์นะครับ”
“จำได้ว่าคุณบอกแล้วค่ะ” เธอว่า
“บอกอีกที เดี๋ยวคุณลืม” เขาถือโอกาสแนะนำตัวอีกครั้ง หันไปส่งยิ้มเป็นมิตรให้ดารินที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ดารินค่ะ” เจ้าของชื่อรีบแนะนำตัว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” เขาระบายยิ้มบางๆ แลเห็นไรฟันขาวเรียงแนวสวย โค้งลึกเข้าไปประกอบเป็นแนวกรามได้รูป ริมฝีปากของเขาบางสวย จมูกโด่งเป็นสัน แสงแดดที่ส่องพาดลงมา ทำให้แลเห็นเงาจมูกทาบทับลงบนโหนกแก้มอีกด้านชัดเจน
“แล้วคุณชื่อ…” ชายหนุ่มชำเลืองมาทางมินตรา เขายังไม่รู้จักชื่อเธอเลยด้วยซ้ำ และมินตราก็ไม่มีท่าทีว่าอยากจะบอกชื่อของเธอให้กับเขา ทว่าคนที่โพล่งออกมากลับเป็นดาริน
“อ้าว! ที่คุยกันได้สักพัก นี่ยังไม่รู้จักชื่อกันเลยหรือคะ งั้นถือโอกาสแนะนำให้นะคะ เพื่อนของดิฉันคนนี้ชื่อมินตราค่ะ” ดารินรีบแนะนำแทนเจ้าตัวที่ยืนทำหน้าเรียบนิ่ง
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณมินตรา คุณดาริน” เขาทวนชื่อสองสาวด้วยน้ำเสียงที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง
จากนั้นก็หันกลับมาที่ภาพวาด พร้อมกับควักกระเป๋าสตางค์ออกมาจากประเป๋ากางเกง ดึงนามบัตรออกมาสองใบ แล้วยื่นให้หญิงสาวตรงหน้าคนละใบ
ดารินรีบรับมาอ่าน ต่างจากมินตราที่ยื่นมือออกไปรับนามบัตรมาจากมือของเขาช้าๆ เธอไม่ได้แสดงความสนใจถึงกับต้องอ่านในทันทีทันใด กระทั่งเขาเอ่ยขึ้น
“ผมสนใจภาพวาดของคุณ”
“คะ…” มินตรารู้สึกตกใจไม่น้อยไปกว่าดารินที่ทำตาโตขึ้นมาทันทีกับประโยคที่ได้ยินเต็มสองหู
“เอาเป็นว่าถ้าคุณสนใจ ผมจะว่าจ้างให้คุณเขียนรูปตกแต่งรีสอร์ทกับโรงแรมของผม”
คำว่า ‘โรงแรมของผม’ ทำให้มินตรายิ่งรู้สึกแปลกใจเข้าไปใหญ่ ทว่าก็อดดีใจไม่ได้ หากจริงอย่างที่เขาพูด เพราะอย่างน้อยเธอก็จะมีรายได้จากการเขียนรูปให้เขา เก็บเป็นทุนรอนเอาไว้ใช้สอยในระหว่างที่กำลังหางาน
“เอ่อ…คุณต้องการกี่รูปคะ” มินตรานึกสงสัย เพราะชายหนุ่มยังไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเลย
“อืม…เริ่มจากรีสอร์ตก่อนละกัน” เขากล่าวพร้อมกับหยุดคิดในช่วงสั้นๆ เอาจำนวนห้องที่รีสอร์ตตั้งและคูณด้วยจำนวนภาพที่จะใช้
“ถ้าเฉพาะรีสอร์ต ห้องรับแขก ระเบียง เรสต์รูม ก็หลังละ 3 ภาพ 50 หลัง ก็ราว 150 โดยประมาณนะครับ” เขา
คำนวณออกมาคร่าวๆ ด้วยความรวดเร็ว ตอบออกมาขณะที่สีหน้าครุ่นคิด
“หา…” คนที่อุทานออกมาก่อนกลับเป็นดาริน
“150 ภาพ มันเยอะมากนะคะ” น้ำเสียงของมินตราเต็มไปด้วยอาการตกใจ
“นี่เฉพาะรีสอร์ท…ยังไม่รวมโรงแรม”
“เอ่อ…ฉันเกรงว่าจะทำได้ไม่ทัน” แม้แววตาคมประกายไม่อาจซ่อนอาการดีใจเอาไว้ได้ ทว่าในใจกลับนึกเป็น
กังวล เพราะเธอรู้ดีว่าจำนวน 150 ภาพ เอาเข้าจริงๆต้องใช้เวลาวาดหลายเดือน
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลครับ ผมให้เวลาคุณเต็มที่ อยากให้งานออกมาดีที่สุด อืม…เดี๋ยวโทรมาคุยรายละเอียดกัน